“ประยุทธ์” มั่นใจมีการเลือกตั้งแน่ กำชับกำลังพลเป็นกลาง พร้อมสั่ง ผบ.หน่วย เตรียมกำลังสนับสนุนรักษาความปลอดภัยสถานที่เลือกตั้ง ปัดสนิทสนมกับ ปชป. ยอมรับทุกพรรคไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล แนะอย่าเลือกคนทำรุนแรง จับตาพรรคเอี่ยวหมิ่นสถาบัน ส่วนทหาร ม.พัน.4 รอ.การ์ดพันธมิตรฯ ปลดประจำการไปแล้ว ขณะเดียวกันประกาศเดินหน้ากวาดล้างทหารมาเฟีย วิจารณ์แซดตัวเงินตัวทองโผล่กองทัพบก หวั่นอาถรรพ์ซ้ำรอยปฏิวัติปี 2549
วันนี้ (22 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงความเป็นห่วงของหลายฝ่ายว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอาจกลายเป็นการเลือกตั้งที่นองเลือดว่า อย่าคิดอย่างนั้น ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้บ้านเมืองเข้าสู่กระบวนการทางประชาธิปไตย รัฐบาลดำเนินการไปตามกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลเอง คิดว่าพวกเราในฐานะที่เป็นประชาธิปไตย และทหารที่ถือเป็นประชาชนต้องรักษาระเบียบของการเป็นประเทศประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้ได้
“ผมเตือน ผบ.หน่วยทหารไปแล้วว่า ให้เตรียมการดูแลการเลือกตั้ง เตรียมกำลังพลในให้การสนับสนุนรักษาปลอดภัยสถานที่เลือกตั้งเมื่อได้รับการร้องขอ และให้ปฏิบัติตามระเบียบของกฎหมายเลือกตั้งโดยเคร่งครัด อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการที่ผิดกฎหมาย พวกมือปืนถ้ามีต้องดำเนินคดีจับกุม อย่าให้มี”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ต้องการให้มีกลุ่มมาเฟียต่างๆ ในหน่วยทหารอีกต่อไป ไม่ว่า ใครจะอยู่กับผู้บังคับบัญชาไหนก็ตาม ต้องเรียกมาทำความเข้าใจว่า อย่าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนกรณีที่มีกำลังพลจากกองพันทหารม้าที่ 4 เข้าไปอยู่ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นพลทหารที่ปลดประจำการไปแล้วหลายปี เคยเป็นทหารประจำการอยู่บ้านนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งเขาก็อยู่ด้วยกัน และคงจะไปดูแลนายเก่าเขา แต่ไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของทหาร เพราะถือว่าได้ปลดประจำการไปแล้ว
“เราต้องเป็นกลางในการเลือกตั้ง เพราะเราบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว และต้องปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง ใครอยู่เขตไหนก็ไป และเขามีสิทธิจะเลือกใครก็ได้ เป็นเรื่องของเขา ผมฝากว่า อย่าห่วงทหาร แต่ห่วงว่า อยากให้ประชาชนทั่วไปออกมาเลือกตั้งมากๆ หากอยากเห็นประเทศชาติเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น อยากเห็นประเทศชาติสงบเรียบร้อย ท่านต้องสร้างความเข้มแข็งให้รัฐบาล ส่วนใครจะเป็น ใครจะได้ยังไงก็แล้วแต่ เพราะประชาชนเป็นคนตัดสิน ผมบังคับไม่ได้ เราทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคใดจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็เป็น ผมก็เป็น ผบ.ทบ.เหมือนเดิม”
ส่วนความใกล้ชิดของกองทัพกับพรรคประชาธิปัตย์จะมีผลหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงตอบในภาพรวมว่าไม่มีผลอะไร เพราะตนคงไม่สามารถสั่งการควบคุมบังคับบัญชาใครได้ แต่ส่วนตัวเขาไม่รู้ อย่าลืมว่าพลทหารมาจากทั้งประเทศ ปีละ 8 หมื่นกว่าคนมาจากทุกภาค ถ้าเขาอยากเลือกตามพ่อแม่พี่น้องคงบังคับเขาลำบาก แม้เขาจะย้ายทะเบียนบ้านมา แต่ต้นตระกูลภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด คงบังคับไม่ได้หมด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้ง ถ้าใครทำให้เกิดความวุ่นวายไม่นำไปสู่การเลือกตั้ง คิดว่าประชาชนต้องดู สังคมต้องช่วยตัดสินว่าจะเอาอย่างไร เพราะหากบ้านเมืองนำไปสู่การเลือกตั้งน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในปัจจุบันว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรม การตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าใครนำสู่ความวุ่นวาย ความรุนแรง ท่านอย่าไปเลือกจะดีกว่า
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแย้งว่า การยุบสภา หรือเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหานั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หนทางที่ดีที่สุดคือมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรม แต่หากใครว่าเลือกตั้งไม่ได้ แล้วท่านจะทำอย่างไร ท่านจะตีกัน ทะเลาะกันหรือต้องฆ่ากันให้หมด อันไหนดีกว่ากัน ขอให้ทหารทำหน้าที่ทหารให้ดีที่สุด คือ ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ดูแลชายแดน
เมื่อถามว่าบางพรรคสงสัยว่ามีการหมิ่นสถาบัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ประชาชนทราบว่าอะไรเป็นอย่างไร โยงใยกันอย่างไร อย่าไปพูดว่าเป็นพรรคใด แต่อาจจะเป็นกลุ่มบุคคล ตัวบุคคล ซึ่งในวันนี้จากที่ตนดูเห็นว่ามีไม่กี่คนที่ทำเรื่องหมิ่นสถาบัน เช่นในเว็บไซต์ โดยใช้คำที่รุนแรงจึงอยากให้สังคมและประชาชนดูว่า คนพวกพวกนี้เกี่ยวพันอะไรยังไงกับใคร แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการ และดูว่าพรรคการเมืองใดเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ท่านต้องห้าม และไปหยุดเขาอย่าให้ทำ เพราะไม่เกิดประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการทหารบกว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ที่บริเวณร้านอาหารหลังอาคารสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ปรากฏว่ามีตัวเงินตัวทองยาว หางกุด ยาวประมาณ 1 เมตร เดินเพ่นพานชูคออย่างไม่กลัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแต่อย่างใด ทั้งนี้ตัวเงินตัวทองเดินหาอาหารอยู่สักพักใหญ่ก่อนจะเดินหลบตัวเข้าไปภายในอาคารปั่นไฟฟ้าสำรองของกองทัพบก โดยมีกำลังพลที่พบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา โดยเฉพาะกลุ่มผู้สื่อข่าวสายทหารที่เคยเห็นตัวเงินตัวทองยาวกว่า 1 เมตรโผล่มาแล้วครั้งหนึ่ง และถูกทหารใช้ไม้ตีตายก่อนจะลากไปทิ้งในที่สุดเมื่อปี 2549 ในช่วงเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกได้มีการปรับภูมิทัศน์ภายในกองบัญชาการทหารบกให้ดูสวยงาม จนกระทั่งปรากฏตัวเงินตัวทองโผล่ออกมาอีกครั้งจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารอีกหรือไม่