“ปานเทพ” ถาม ผบ.ทบ. พร่ำบอกต้องทำตามนโยบาย รบ. หาก “ไอ้ตู่” คนที่ท่านฟ้องหมิ่นเป็น ส.ส. ยังจะยอมทำตามหรือไม่ ลั่นไม่ขอหนีเสือปะจระเข้ ชี้โหวตโน เป็นเครื่องมือเตือน รบ.จะไม่มีแผ่นดินอยู่หากโกงกินตามใจชอบ ขอความร่วมมือ ปชช.ติดป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาทุกเทศบาล พร้อมเตือนเทศบาลป้ายมีเจ้าของคือพรรคเพื่อฟ้าดิน รื้อเมื่อไรถูกฟ้องทันที
วันที่ 20 พ.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หากเราหนีปัญหาจากฝั่งหนึ่งที่อันตราย ไปเจออีกฝั่งหนึ่งที่ห่วยแตก สักวันความห่วยแตกก็นำมาสู่ความอันตรายอยู่ดี นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เคยพูดวันแรกที่เข้ามาเป็นนายกฯ ว่า จะมาแก้ไขการเมืองที่ล้มเหลว วันนี้เลิกพูดแล้วเพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ล้มเหลว เลิกพูดถึงกฎเหล็ก 9 ข้อ ทำให้ตนนึกถึงสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยติดป้าย สงครามกับความยากจน สงครามกับคอร์รัปชั่น สงครามกับยาเสพติด แต่หลังจากบริหารประเทศ 2 ปีผ่านไป ไม่เขียนไม่เคยพูดถึงสงครามกับคอร์รัปชั่น ที่จริงบ้านเมืองมีกลไกหลายอย่างในการแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาเกิดเป็นเพราะรัฐบาลอ่อนแอ เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง ตั้งคณะกรรมการปฎิรูปขึ้นมาก็เล่นปาหี่ รัฐบาลเลือกเอาเฉพาะข้อที่ตัวเองได้ประโยชน์ไปใช้
นายปานเทพกล่าวฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ว่า ท่านแสดงท่าทีจริงจังหลายครั้งต่อกรณีจาบจ้วงสถาบัน แต่อยากถามว่า ที่ท่านเคยยืนยันเป็นทหารต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล แต่วันนี้คนที่ท่านเคยแจ้งความเอาผิดว่าเป็นคนหมิ่นสถาบัน อย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ กำลังก้าวเข้าสู่อำนาจรัฐ ด้วยการเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่ 8 ดังนั้น ถ้าอำนาจรัฐอยู่เหนือกองทัพบก หนึ่งในนั้นมีคนที่ท่านไปแจ้งความเอาผิด ถึงวันนั้นจุดยืนของท่านผู้บัญชาการจะยืนอยู่ตรงไหน ยอมรับการเลือกตั้ง แล้วปล่อยให้เขาสั่งให้ท่านยอมจำนน ยอมทำตามนโยบายท่านจะจัดการอย่างไร
การเมืองของไทยมีแต่สาดโคลนกันทุกพรรคล้วนติดอยู่ในกับดักตัวเอง พรรคเพื่อไทยติดกับดัก คนเสื้อแดง ตรงที่ประชาชนรับไมได้กับการเผาบ้านเผาเมือง พูดจาหมิ่นเหม่เบื้องสูง ขณะที่ฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ ติดอยู่ในกับดัก ชั่งไข่ขาย ทำให้ประชาชนต้องอพยพอยู่ในหลุ่มหลบภัย อธิปไตยถูกยึกครองโดยชาติอื่น เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจึงไม่เห็นหนทางที่จะต้องไปกลัวคนกลุ่มมหนึ่ง แล้วหนีไปเจอคนที่น่ากลัวอีกพวกหนึ่ง
ที่น่าสนใจ วันนี้มีข่าวผู้ค้าย่านราชประสงค์เขาบอกว่า เสื้อแดงชุมนุมวันเดียวสร้างความเสียหายให้เขาถึง 10 ล้าน การปล่อยให้คนเสื้อแดงอยู่ยาวจนกระทั่งมีการสะสมอาวุธได้ ก็เพราะรัฐบาลต้องการสร้างภาพให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ดี รักสันติวิธี ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตคน ผู้ค้าหลายคนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ที่เจ็บปวดที่สุดผู้ค้าหลายคนที่เขาสนับรัฐบาลเมื่อครั้งเสื้อแดงชุมนุมราชประสงค์ ได้ยื่นจดหมายไปหานายอภิสิทธิ์ ให้ช่วยจัดการหาวิธีอย่าปล่อยให้คนเสื้อแดงปิดการจราจรสร้างความเสียหายอย่างนี้ แต่แล้วผลที่ได้รับ นายอภิสิธิ์ บอกว่า ขอให้พี่น้องราชประสงค์ไปคุยกับคนเสื้อแดงเอาเอง
นายปานเทพกล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ขู่ระบบปาตี้ลิสของพรรคเพื่อไทย เต็มไปด้วยคนเสื้อแดง บ้านเมืองจะน่ากลัวกว่านี้ นั้น ปัญหาที่มันเกิดเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ บริหารงานไม่เป็น ปล่อยให้คนเสื้อแดงที่ใช้อาวุธสงครามต่อสู้ทหาร จนเกิดการบาดเจ็บล้มตาย แล้วปล่อยให้เดินกลับบ้านอย่างอิสระ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ตรวจสอบ แถมยังไปจ่ายค่าชดเชยให้คนที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่ถูกจับก็จ่ายค่าชดเชยให้ด้วย ตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานไม่เป็น
“เราไม่จำเป็นต้องกลัวนักการเมืองพรรคไหน หากกลัวฝ่ายหนึ่งแล้วไปเจออีกฝ่าย ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ หนีตัวเงินตัวทองต้องเจอลิงหลอกเจ้า โหวตโน คือพลังที่แท้จริง แม้ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล แต่เป็นตัวกำหนดว่าพรรคที่เข้ามาเป็นรัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ และหากขบวนโหวตโนขยับเมื่อไร มั่นใจได้เลยว่าฝ่ายค้านผสมโรงทันที”
นายปานเทพกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เราไม่มีเงินมากพอ ในการทำกิจกรรมขับเคลื่อนรณรงค์ให้ประชาชนโหวตโนได้ทั่วถึง ไม่เหมือนพรรคบางพรรคที่หาทุนได้ในวันเดียว 700 ล้าน ดังนั้น หากพี่น้องท่านไหน มีความเมตตาจะช่วยเหลือทำบุญด้วยการปฎิรูปครั้งใหญ่ ก็อยากขอความช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด หากท่านมีกำลังทรัพย์ ช่วยติดป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาขนาดใหญ่ในจังหวัดของท่าน ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทั้งนี้สามารถดาวโหลดได้ที่เว็บไซต์ผู้จัดการ ใครมีเงินช่วยทำป้าย ใครมีแรงช่วยติด ขอย้ำว่า อย่าติดป้ายทับป้ายของพรรคการเมืองอื่นเด็ดขาด เพราะจะผิดกฎหมาย ดังนั้น หากมีใครติดป้ายบนป้ายของพรรคการเมืองอื่น แสดงว่าไม่ใช่เราและเราก็ไม่รู้ด้วย
หากพี่น้องช่วยกันได้มากเราจะมีคนโหวตโนมากขึ้น ไม่ต้องพูดถึงจำนวน ขอให้ทำให้ดีที่สุด มากที่สุดแล้วจะไม่มีคำว่าแพ้ มีจำนวนคนโหวตโนมากขึ้นไม่ได้แปลว่าต้องเข้าสู่อำนาจรัฐ แต่เป็นหลักประกันในอนาคต ว่า รัฐบาลจะลุแก่อำนาจ โกงกินตามใจชอบไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีแผ่นดินอยู่ อย่างไรก็ดีหากโหวตโนน้อยได้แค่ 2 ล้าน พี่น้องก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เราเคยชุมนุมไม่ถึงแสนคนก็ไล่มาแล้วถึง 3 รัฐบาล
อย่างไรก็ดี หากพรรคการเมืองใหม่กลับตัวกลับใจมาช่วยเรา เราคงมีกำลังเพิ่มขึ้นในการทำกิจกรรมครั้งนี้ แม้กระนั้นก็ยังน่าดีใจ ที่ยังมีพรรคเพื่อฟ้าดิน ประกาศพร้อมช่วยรณรงค์โหวตโนอย่างเต็มที่ ดังนั้น ขอฝากถึงเจ้าหน้าที่เทศบาลว่า อย่าคิดเก็บไปเก็บป้ายรณรงค์อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะถูกฟ้อง เพราะป้ายมีเจ้าของคือพรรคเพื่อฟ้าดิน
