“สุเทพ” แนะอย่าตื่นรังสี ชี้ยุ่นอยู่ไกลสยาม รับเลิกคิดสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

รองนายกฯ มั่นคง เผย “มาร์ค” สั่งตามเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บึ้ม อ้างยุ่นอยู่ไกลคงได้ผลกระทบน้อย อย่าตกใจกัมมันตรังสี เล็งส่งความช่วยเหลือหลังซักฟอก โยน กต.ประสานช่วยคนไทย ชี้ ครม.อนุมัติงบ 200 ล้านเฉพาะซื้ออาหาร ถอดใจสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการเกิดปัญหาเรื่องการเกิดเหตุระเบิดที่โรงงานผลิตพลังงานนิวเคลียร์ และเกิดสารกัมมันตรังสีรั่วไหลที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ตนทราบแต่ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีสั่งให้ติดตามและประเมินสถานการณ์ แต่คิดว่าค่อนข้างไกลจากไทย การได้รับผลกระทบก็จะน้อย แต่ก็ต้องไปดูในเรื่องอาหารและเรื่องอื่นๆ นั้นจะทำอย่างไร เพราะสิ่งที่นายกฯ กำลังคิดอยู่คือหลังเสร็จการอภิปรายแล้วก็จะเร่งเอาความช่วยเหลือเข้าไปช่วย ส่วนในเรื่องการอพยพและติดตามหาคนไทยนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ และกำลังรวบรวมว่าตรงจุดนั้นมีคนไทยเท่าไร และเท่าที่รายงานพบว่ามีประมาณ 300-400 คน คาดว่ายังไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะคนเหล่านั้นรู้ว่าจะต้องติดต่อประสานงานกันอย่างไร

เมื่อถามว่าบางประเทศเริ่มอพยพคนแล้ว ทางไทยว่าอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต้องดูเป็นกรณี เป็นพื้นที่ไป กระทรวงการต่างประเทศมีกรมการกงสุลอยู่ เขาจะทราบว่าคนไทยที่อยู่แต่ละพื้นที่นั้นอยู่ที่ไหนบ้าง

“เรื่องกัมมันตรังสี ผมไม่มีความรู้ รู้แต่ว่าไกลจากบ้านเรา ไม่เห็นว่าจะต้องน่าตกใจตรงไหน แต่ว่าคนญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เหตุการณ์เขาก็ยังแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่ที่น่าเห็นใจคือพวกอยู่ใกล้คงลำบาก” นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่าในเรื่องการขนย้ายคนไทยเองก็มีปัญหาเพราะต้องเดินทางอ้อม การที่จะเอาเครื่องไปรับ หรือจุดอื่นนั้น จำนวนเงินที่ ครม.อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจะเพียงพอหรือไม่อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า เงินที่ ครม.อนุมัติ 200 ล้านบาทนั้น เพื่อเอาไปซื้อข้าวของบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องข้าวก็จะต้องประสานกับทางญี่ปุ่นให้เขาบอกว่า ชอบไม่ชอบ อยากได้ไม่อยากได้ เขาเพียงเสนอไปว่าเราสามารถช่วยได้ในเรื่องข้าวหอมมะลิอย่างดี และข้าวเหนียวที่จะต้องเอาไปผสมแทน เพราะข้าวญี่ปุ่นเป็นข้าวเหนียวๆ ก็ต้องแล้วแต่ว่าตรงกับความต้องการหรือไม่ ส่วนอย่างอื่นจะพิจารณาเป็นกรณีไป

เมื่อถามว่า การที่ยังมีหลายฝ่ายยังพยายามที่จะผลักดันเรื่องไรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทยเมื่อเกิดเหตุในญี่ปุ่นครั้งนี้ต้องทบทวนเรื่องนี้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนเองเคยเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในซีกที่เคยคิดว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยได้มีพลังงานที่ถูก แต่วันนี้ชักถอดใจแล้ว ตนดูท่าทางแล้วไม่ไหว ต้องดูว่าเรายอมอยู่ที่ทุกข์ยากแบบนี้มากกว่าที่จะเอาคนของเราไปเสี่ยงชีวิต มากมาย ส่วนกรณีที่มีประชาชนบางจังหวัดที่เคยถูกระบุว่าจะใช้พื้นที่จังหวัดนั้นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วออกมาคัดค้าน อย่างเช่นที่ จ.กาฬสินธุ์นั้น จากนี้ไปก็ไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาแสดงการคัดค้านแล้ว เพราะคนที่คิดจะมีโรงไฟฟ้าก็คงจะถอดใจแล้ว ใครจะไปไหว ต้องดูก่อนว่ามันพัฒนาไปจนกระทั่งถึงขั้นที่ปลอดภัยพันเปอร์เซ็นต์ หมื่นเปอร์เซ็นต์ค่อยมาว่ากัน ตอนนี้ไม่มีใครดันมาได้ อย่าไปเดินขบวนให้เสียเวลา ใครก็ทำใจยาก อย่าไปทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้