เลขาฯ ปชป.เผยเริ่มเคลียร์วันยุบสภาพรรคร่วมแล้ว รับหวั่นฝ่ายซักฟอกค้านบิดเบือนแดงเผาเมือง แนะส.ส.เห็นใจชาวบ้านอย่าเอาแต่ประท้วง ปัดระดมทุนไปซื้อเสียง คาด ภท.-ชทพ.นัดคุยหาความร่วมมือสู้ศึกเลือกตั้ง ไม่คิดเกี่ยวเสียงโหวตในสภา เมินเสียสติทำสัตยาบันพท.
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดหมายพูดคุยทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลกรณีที่ไม่เห็นด้วยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศวับยุบสภาต้นเดือนพ.ค.ว่า ยังไม่ได้นัด เพราะวันนี้ยังไม่มีเวลาเนื่องจากตนยังทำการบ้านเตรียมข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 15 มี.ค.นี้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมและกรณีที่มีการกระชับขอคืนพื้นที่ ที่ฝ่ายค้านจะนำมาอภิปราย ซึ่งตนก็กังวลใจว่าเท่าที่ติดตามดูฝ่ายค้านพยายามที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังระหว่างกัน นั้นจึงต้องพยายามรวบรวมหลักฐานทั้งหลายมาแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ ที่แท้จริงไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฝ่ายค้านนำเสนอ และตนจะได้เอามาให้ประชาชนได้เห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้แล้วก็ไม่ ต้องมาโกรเคืองกัน ช่วยกันแก้ปัญหาของบ้านเมืองดีกว่า
“จะว่าเดินสายก็เดิน เมื่อ 2-3 วัน ก่อนผมก็ไปงานเลี้ยงระดมทุนของพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่จนดึกดื่นก็ได้มีโอกาสพบ พรรคการเมืองต่างๆ โดยพาอย่างยิ่งคณะผู้บริหารพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้พูดจากราบเรียนให้ทราบ เหตุผลไปบางส่วนแล้ว และผมก็ได้พบปะกับบรรดาผู้นำพรรคภูมิใจไทยอยู่หลายครั้งก็ได้อธิบายกัน เมื่อคืนก็ได้ไปงานครบรอบ 84 ปีคุณแม่ของคณพินิจ จารุสมบัติ แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินก็ได้พบปะกับรรดาผู้นำกลุ่ม 3 พีได้พูดคุยกันก็เข้าใจกันพอสมควร” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่ได้มีการตัดต่อคลิปที่จะนำมาแสดงใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า มีตัดแต่ไม่มีต่อ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นคลิปแต่ละอันต้องยาวเป็นครึ่งชั่วโมง จึงเอาเฉพาะส่วนที่เป็นสาระสำคัญ แต่หากฝ่ายค้านประสงค์จะขอชุดยาวตนก็จะเปิดให้ดูยาว เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าการอภิปรายฯครั้งนี้จะมีการน็อกกันกลางสภาหรือจะเป็นการเกี้ยเซี้ยกันธรรมดา นายสุเทพกล่าวว่า ฝ่ายค้านเขาคงไม่เกี๊ยะเซี๊ยะกับตน และตนก็ไม่มีอะไรต้องไปเกี๊ยะเซี๊ยะกับเขา การทำหน้าที่ในสภาฯถือว่าเป็นภารกิจที่มีเกียรติ ตนชอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่จะเป็นฝ่ายอภิปรายรัฐมนตรีหรือเป็นรัฐมนตรี ตอบชี้แจง เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจในหมู่พี่น้องประชาชน จะได้ใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยได้ว่าถูกผิดเป็นอย่างไร ที่สำคัญส.ส.ต้องเห็นใจประชาชนด้วย ไม่ใช่ว่าเอาแต่ประท้วง ตนจะพยายามไปปรึกษาหารือกับสมาชิกพรรคว่าหากพออดทนได้ก็ให้เขาพูดไป ส่วนการถ่ายทอดสดก็ต้องดูไปตามเงื่อนไข แต่จะไม่มีการกลั่นแกล้งฝ่ายค้านแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า เรื่องแรงเสียดทานจากความไม่พอใจการประกาศยุบสภาเร็ว ที่อาจจะส่งผลไปถึงการโหวตผ่านร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับด้วย จะนัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อใด นายสุเทพกล่าวว่า มาถึงขั้นนี้ทุกฝ่ายควรจะตกลงปลงใจด้วยกันได้แล้วว่า เราเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งเถอะ แล้วจะได้เริ่มต้นกันใหม่ ลดเงื่อนไขที่เป็นที่ไม่พอใจกันให้หมด แล้วจะได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศไปได้ ปัญหาว่ายังกังวลใจเรื่องช้าหรือเร็ว ถ้าช้าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เงื่อนไขความตึงเครียดก็ยังอยู่ เร็วที่สุดนายกฯก็ประกาศแล้วว่าทำได้แค่ไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. เมื่อนายกฯได้กำหนดช่วงเวลาไว้ชัดเจนก็หมายความว่ากฎหมายลูกที่ต้องเสนอแก้ไขโดย กกต. เราก็ต้องพิจารณาทำให้เสร็จภายในเดือน เม.ย. ถ้าฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนมีเป้าหมายไปสู่การเลือกตั้งก็ร่วมมือกัน ช่วยกันแก้ไขก็ทำได้ เสียสละการประชุมสภาให้ยาวขึ้น ก็ไปได้
เมื่อถามว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แม้จะบ่นไม่พอใจ แต่ก็เร่งระดมทุนเตรียมเลือกตั้งไว้แล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคการเมืองก็ต้องออกแรงเตรียมตัวกันหน่อย นายกฯถึงได้สั่งการเตรียมการของพรรคเพื่อส่งสัญญาณยืนยันกับพรรคการเมืองอื่นๆ ว่าที่พูดว่าจะยุบสภาทำจริง พรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนตัวแล้ว พรรคอื่นจะได้ดำเนินการกัน เมื่อถามว่า มีการกังวลว่าแต่ละพรรคระดมทุนกัน เหมือนกับส่งสัญญาณว่าการซื้อเสียงยังมีระบาดทั่วไป นายสุเทพกล่าวว่า เราไม่ได้ระดมทุนไปซื้อเสียง แต่นำไปใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง กกต.กำหนดว่าผู้สมัคร ส.ส.คนหนึ่งใช้จ่ายได้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท คูณกับจำนวนผู้สมัคร ส.ส. 375 คนก็ประมาณกว่า 500 ล้านบาท และต้องมีค่าเช่าเวลาสื่อ ทำป้ายคัดเอาท์โฆษณาทั่วประเทศ และค่าใช้จ่ายผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนอีก คิดว่ารวมแล้วแต่ละพรรคการเมืองถ้าจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบทั้งสองระบบและทุกเขตเลือกตั้งอย่างน้อยที่สุดต้องมีเงิน 650 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก ดังนั้น บางพรรคคงไม่สามารถส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ครบทุกเขต แต่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งจะส่งให้ได้ครบทั้ง 375 เขต
เมื่อถามถึงการที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) รับประทานอาหารและหารือร่วมกันมีนัยยะทางการเมืองอย่างไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวมาก่อนแล้ว และเขาก็บอกตนแล้ว พรรคชาติไทยพัฒนากับภูมิใจไทย เขาก็เป็นพรรคขนาดกลางลงไปคงจะต้องปรึกษาหารือกันว่าในการทำงานทางการเมือง มีอะไรที่เขาร่วมมือกันได้บ้างเพื่อที่จะให้พรรคของเขาได้รับชัยชนะได้รับการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ คงต้องทำอย่างนั้น
เมื่อถามว่า การที่ทั้งสองพรรคนัดทานข้าวร่วมกัน เป็นเพราะเขากังวลเรื่องเสียงโหวตในสภา ต้องการที่จะต่อรองเรื่องเสียงโหวตหรือไม่ เพราะมีความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อแผ่นดินอาจจะโหวตสวนในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นไม่คิดว่าเป็นเรื่องของการลงคะแนนเสียงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่คิดว่าคงเป็นเรื่องการเตรียมการเพื่อการเลือกตั้งทั่วไปมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยท้าให้ลงสัตยาบันว่าถ้าใครได้เสียงส.ส.อันดับหนึ่งให้ได้สิทธิจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า “ผมไม่ไปทำอะไรที่เสียสติร่วมกับเขา มันไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องไปทำอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นผมก็ต้องคอยนั่งพิจารณาทุกวันว่าวันนี้คุณจตุพร แปลความฝันของตัวเองออกมาแล้วจะชวนทำอะไรกัน หรือว่าคุณพร้อมพงศ์ไปนึกอะไรขึ้นมาได้ก็มาชวน ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้ หลักการมันมีอยู่แล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 251 เสียง ตั้งรัฐบาลได้แน่นอนไม่มีปัญหา พรรคประชาธิปัตย์ได้ 251 เสียงก็ตั้งรัฐบาลได้แน่ ไม่ต้องมาทำสัญญาหรือพูดทำให้คนสับสน ใครเก่งจริงก็ทำให้ได้เกิน 251 เสียง เกินครึ่งมา 1 คะแนนก็มีสิทธิชอบธรรม ส่วนถ้าได้ 249 เสียงขึ้นมาก็ยุ่ง หรือถ้าได้ไม่ถึง 200 เสียงไม่ต้องมาพูดกัน มันแสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชนคนไทยเขายังตัดใจไม่ได้เด็ดขาดว่าจะให้ใคร ก็เป็นเรื่องของสภาต้องไปประชุมปรึกษาหารือกัน จะรวบรวมเสียงจากใครกี่ฝ่ายกี่พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาล นี่เป็นวิธีการขนบธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติปกติในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกเขา ทำกัน”
เมื่อถามว่า ฟังดูเหมือนท่านจะบอกว่าถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ 251 เสียงโอกาสจะตั้งรัฐบาลก็ยาก นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ หรือพรรคประชาธิปัตย์ถ้าไม่ได้ ก็ตั้งยาก อย่าไปแปลอย่างนั้นจะชวนให้ชกกัน ถ้าใครที่ได้เสียงที่ประชานแสดงออกมาชัด ก็เห็นความชอบธรรมและสิทธิในการตั้งรัฐบาล ไม่ต้องมาทำสัญญากัน มีวิธีปฏิบัติอยู่