เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 งามหน้ากันไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ สำหรับกองทัพไทย คราวนี้เกิดขึ้นที่ค่าย “ธนรัชต์” อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั่นคือ กรณีอาวุธปืนของกองทัพที่อยู่ในค่ายทหารแห่งนี้ ได้อันตรธานหายไปหลายสิบกระบอก พูดไปก็รู้สึก “ขายหน้า” จริงๆ และเหตุการณ์ทำนองนี้ก็ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานได้เคยเกิดขึ้นที่ “คลังแสง” ลพบุรี หลังเกิดเหตุก็มีการกำชับ ระแวดระวังกันแบบไฟไหม้ฟาง จนมาเกิดที่ค่ายทหารที่ปราณบุรีดังกล่าว ซึ่งจะว่าไปแล้วค่ายแห่งนี้ถือเป็นศูนย์การ “ทหารราบ” เป็นเขตทหารอีกแห่งหนึ่ง เป็นประตูภาคใต้ ติดชายแดนพม่า
00 มิหนำซ้ำในตอนแรกหากจำกันได้ โฆษกกองทัพบก “เสธ.ไก่อู” พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด พยายามปิดข่าว โดยบอกว่าอาวุธยังอยู่ครบ เป็นเรื่องเข้าใจผิดทางบัญชีอาวุธที่กระจายอยู่ภายในค่ายทหารตามที่ต่างๆเท่านั้น ทำให้หลายคนยังลังเลที่จะพูดถึง เพราะในเมื่อไม่หาย ก็ไม่หาย แม้ว่าจะมีนายทหารคนหนึ่งออกมาแจ้งความกับตำรวจเรื่องอาวุธหายไปก็ตาม แต่ล่าสุดเมื่อปกปิดไม่ได้อีกต่อไป ทางผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยอมรับ และสั่งการสอบสวนหาคนรับผิดชอบ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน
00 แต่ประเด็นก็คือ นี่ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นแรก แต่เกิดหลังจากที่ “อาวุธหาย” ที่คลังแสงลพบุรี เพียงไม่กี่เดือน ตอนนั้นก็ “ล้อมคอก” มีคำสั่งให้เข้มงวด แสดงว่ามันไม่มีความหมาย ทั้งคน “ออกคำสั่ง” และคนที่รับคำสั่ง เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุค พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ.ทั้งสิ้น ถือว่า “อัปยศ” สิ้นดี
00 วกมาเรื่องน้ำมันปาล์มอีกที เวลานี้ถือว่าเริ่มซาลงไป เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “เริ่มชิน” เริ่มตายด้านกับความเดือดร้อนตรงนี้ไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ฝาจุกสีฟ้ามาจนถึงฝา “สีชมพู” ก็ยังเข้าคิวซื้อกันแบบโกลาหลเหมือนเดิม ไอ้ประเภทราคาคุยของ “เทพเทือก” รองนายกฯ “ฝ่ายน้ำมันปาล์ม” ประกาศว่าซื้อได้ไม่อั้นนั้นมัน “ขี้หกทั้งเพ”
00 ขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่แพ้กัน เมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ “สร้างภาพ” ไม่ออกก็ใช้วิธีพูดง่ายๆ แบบปัดความรับผิดชอบว่า “ของแพงเหมือนกันทั่วโลก” ยังดีที่ไม่บอกว่า แพงเหมือน ตูนีเซีย หรือ อียิปต์ ไม่งั้นจะได้ไล่ให้มีชะตากรรมแบบนั้นไปเสียพร้อมกัน
00 สังเกตหรือไม่ว่า ปัญหาทุกอย่างที่เคยมีมาเริ่มปะทุบานปลายขึ้นมาในตอนนี้ ทั้งในเรื่องปัญหาชายแดนใต้ที่เริ่ม “คุมไม่อยู่” ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถูก ฮุนเซน เหยียดหยามผู้นำไทยรายวันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ยุคสยามต่อเนื่องเป็นราชอาณาจักรไทย ปัญหาข้าวของแพงหูฉี่ สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมามันไม่ได้ “บริหารจัดการ” ตามที่ “มาร์ค” มักชอบเอามาพูดให้สวยหรูโก้เก๋ เพราะในความเป็นจริงมันบริหาร “สั่งการใครไม่ได้”
00 ตอนแรกคิดว่าปัญหาน้ำมันปาล์ม และข้าวของแพงคงไม่วิกฤติกันขนาดนี้ จึงยอมให้ฝ่ายค้านได้ “ซักฟอก” กันรวดเร็ว แต่กลายเป็นว่ามีเสียงด่าเข้ามารอบทิศทำให้ต้องมีอาการ “โยกโย้” ยื้อเวลากันออกไป ล่าสุดจนถึงวันนี้ยังไม่กำหนดเวลาแน่ชัด อ้างประธานชัย ชิดชอบ ตรวจสอบเอกสารไม่เรียบร้อย แต่เชื่อเถอะ ไม่ว่าจะได้อภิปรายตอนไหนก็ตาม รัฐบาล-ปชป. มีแต่ขาดทุนป่นปี้ “นักโต้วาที” อย่างมาร์ค ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากหรอก เพราะเรื่อง “ข้าวของแพง” มันเป็นเรื่องจริงที่ชาวบ้านเขาสัมผัสได้โดยตรง ดังนั้นหากมาถามโง่ๆอีกว่า “ไม่เอามาร์คแล้วเอาใคร” ก็ต้องตอบว่า ถ้ามาร์คปล่อยให้โกงยิ่งกว่า “แม้ว” มันก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำ “เทือก” หรือ “ทำยี้ห้อย” อะไร แม่นบ่ พี่น้อง !!