“สนธิ”ตั้งฉายารัฐบาลอภิสิทธิ์ “หุ่นเชิดขายชาติตัวจริง” ชี้นายกฯ ถูกครอบงำจาก “เทพเทือก-ประวิตร-เนวิน-ฮุนเซน” หนักกว่ายุค “หมัก-สมชาย”ที่เป็นหุ่นเชิด “แม้ว” ฝากบอก “ฮุนเซน” ขอส่งนายกฯ ไทยพร้อมรัฐมนตรี-นายพลกุนเชียงไปแลกกับขอทานเขมรที่มีศักดิ์ศรีมากกว่า แฉ “ประวิตร”เมินใช้แผนที่กรมยุทธการทหารบกเพื่อปกป้องดินแดน เพราะสนิทสนม “ฮุนเซน” ซ้ำทำลืมบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายสนธิ ลิ้มทองกุล"
เวลา 21.55 น. วันที่ 24 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ขณะนี้กระแสเริ่มตีกลับมาทางพันธมิตรฯ มากขึ้น หลังจากที่คนที่ไม่รู้ข้อมูลก็เริ่มรู้ สื่อมวลชนก็เริ่มเห็นว่าข้อมูลของเราน่าเนื่อถือว่าข้อมูลของนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งยังหน้าด้านโกหกได้ทุกวันจนฝังเข้าไปในสายเลือดและดีเอ็นเอแล้ว แต่ยังดูถูกว่าคนมาร่วมกับเราไม่มาก เขาไม่รู้ว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ปริมาณคน แต่อยู่ที่คุณภาพของคนที่มา และคุณภาพของการนำเสนอ ตอนนี้คนทางภาคใต้ที่เชียร์ประชาธิปัตย์ก็กลับมาดูเอเอสทีวีมากขึ้น เพราะสิ่งที่เรามอบให้พี่น้องไม่ว่าสีอะไรก็คือปัญญา และธรรมที่มอบให้ไปคิดและเกิดสติปัญญา แต่ละเรื่อง เรามีการยกตัวอย่างเอกสารหลักฐาน เช่น กรณีวัดแก้วฯ อยู่ในเขตไทย ซึ่งตอนนี้นายอภสิทธิ์ไม่กล้าพูดแล้ว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนเจ้าเล่ห์แสนกลเพราะคิดว่าคนไทยโง่เท่าเทียมกันหมด แต่เขาประมาทพันธมิตรฯ และพี่น้องที่รักชาติ ที่มีการเอาปัญญามาให้กันตลอด ทุกวันนี้นายอภิสิทธิ์มักจะพูดแบบขอไปที น่ากลัวมาก นานวันยิ่งแสดงออกถึงวุฒิภาวะของการเป็นคนที่ถูกครอบงำ เราเคยบอกว่ารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นหุ่นเชิดขายชาติ วันนี้รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติตัวจริงคือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นายสมัคร นายสมชายนั้น ถูกครอบงำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว แต่นายอภิสิทธิ์ถูกครอบงำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายเนวิน ชิดชอบ และมีการครอบงำข้ามชาติจากกัมพูชาคือนายฮุนเซน
“เรามีความเสียใจที่ต้องแจ้งให้วิญญาณคุณสมัคร และนายสมชายทราบว่าตำแหน่งหุ่นเชิดขายชาติของคุณ พ่ายแพ้อย่างราบคาบต่อนายอภิสิทธิ์ไปแล้ว จากนี้ไปถ้าพูดถึงหุ่นเชิดขายชาติ เราหมายถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ และจากนี้ไปเราต้องไม่เรียกรัฐบาลนี้ว่ารัฐบาลดื้อด้าน เราต้องเรียกว่า รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ นายกฯ อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หุ่นเชิดขายชาติ”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อไล่ดูแต่ละเหตุการณ์ ตั้งแต่วิดีโอคลิปจับโกหกนายอภิสิทธิ์มาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกประหลาดใจว่า คนที่มีชาติวุฒิดี มีพ่อเป็นหมอ อยู่อังกฤษตั้งแต่เด็ก เรียนที่โรงเรียนชั้นนำของอังกฤษ จบมหาวิทยาลัยศักดินา กลับมาประเทศไทยก็พูดจาสุภาพเรียบร้อย หน้าตาดี แต่กลับพูดโกหกยิ่งกว่าพวกค้ายาเสพติดที่ถูกตำรวจจับได้แล้วไปโกหกในศาล ซึ่งคนพวกนี้เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นพวกกะล่อน เพราะฉะนั้นแสดงว่าคนที่มีชาติวุฒิ การศึกษาดี ไม่ได้แปลว่าคนนั้นเป็นคนดี และคนดีไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาดี รูปหล่อ พูดภาษาองักฤษเก่ง แต่ต้องดีทั้งกายและใจ
นายสนธิ กล่าวอีกว่า อาจเพราะตนกับนายอภิสิทธิ์เติบโตมาคนละรูปแบบ สมัยที่ตนเรียนโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญ ศรีราชา มีการตั้งแก๊งยึดครองพื้นที่ข้างๆ ตึก ไม่ให้แก๊งอื่นผ่านเข้ามา ถ้าเข้ามาจะถูกชกทันที แม้ว่าจะถูกทำโทษทั้งสองฝ่าย แต่บราเดอร์ที่คุมหอพักก็จะบอกอีกฝ่ายว่า “รู้แล้วใช่ไหมว่าข้างตึกนี้สนธิคุมอยู่” ซึ่งอาจจะต่างจากโรงเรียนมัธยมอีตั้นที่สอนให้คนรักกันรักสันติ เหมือนกรณีไทย-กัมพูชา ถ้ามันบุกเข้ามา เราจะไม่ทำแค่ประท้วง เราจะบุกยึดพื้นที่คืนเพื่อให้เราได้เปรียบ ถ้าเขมรจะไปร้องอาเซียนก็ให้ร้องไป แต่ในที่สุดอาเซียนก็ต้องมาถามเรา เราก็บอกว่าให้จีนมาเป็นตัวกลาง แล้วเจรจาบนพื้นฐานที่เราได้เปรียบ ซึ่งตรงนี้เป็นบทเรียนจากโรงเรียนประจำที่เอามาใช้ได้
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ขอทานเขมรที่อยู่ในประเทศไทยนั้นไม่ต้องส่งกลับประเทศก็ได้ ให้อยู่เมืองไทยไปตลอดเลย แต่ขอเอาคนไทย 5 คนไปแลก คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายเนวิน ชิดชอบ และ “นายพลกุนเชียง” (พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2) เพราะ 5 คนนี้มีศักดิ์ศรีไม่เท่ากับขอทานเขมร อย่างน้อยๆ ขอทานเขมรเวลานั่งขอทานก็ยังรู้จักว่าไม่ใช่ที่ของตัวเอง เมื่อตำรวจมาก็ลุกหนี แต่นายอภิสิทธิ์ไม่รู้เลยว่าดินแดนของไทยอยู่ตรงไหน จึงไม่มีศักดิ์ศรีเท่าขอทานเขมรแม้แต่นิดเดียว
นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกขำนายอภิสิทธิ์มากที่สุดตรงที่ให้สัมภาษณ์ว่าทำไมพันธมิตรฯ ไม่มายืนข้างประเทศไทย มัวแต่ยืนข้างเขมร ตนจึงนึกในใจว่านายอภิสิทธิ์จะต้องโดนนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์สวนกลับไปหลายดอกแน่ ซึ่งก็โดนสวนจริงๆ โดยเอาข้อมูลหลักฐานมาให้ดูแต่ละข้อๆ และพบว่าคนที่ยืนข้างเขมรจริงๆ คือนายอภิสิทธิ์และแก๊งของเขานั่นเอง
นายสนธิได้กล่าวฝากไปถึง พล.อ.ประวิตร และ “นายพลกุนเชียง”ว่า เรามีกรมยุทธการทหารบกเป็นหน่วยงานที่วางยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ และมีแผนที่บริเวณชายแดนไทยทั่วประเทศ รู้เลยว่าเขตแดนไทยแต่ละด้านจรดกับเพื่อนบ้านตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นทางมาเลเซีย ทางพม่า ทางเชียงราย แม่สาย เพราะฉะนั้นกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 2 ก็ต้องรู้ว่าเขตแดนไทยอยู่ตรงไหน ทั้ง พล.อ.ประวิตร และนายพลกุนเชียง น่าจะไปดูแผนที่ของกรมยุทธการทหารบก ซึ่งเขารู้เลยว่าทุกจุดที่ทหารเขมรเข้ามาอยู่ตอนนี้เป็นเขตแดนไทย เมื่อรู้ว่าเป็นเจตแดนไทย ทำไมไม่ยึดตามแผนที่กรมยุทธการทหารบก พล.อ.ประวิตรมีหน้าที่เอาแผนที่นี้มากางบนโต๊ะ แล้วให้นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายกษิตมาดูให้รู้ว่าพื้นที่เราอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ทำ เพราะสนิทสนมกับนายฮุนเซนมาก แล้วที่ทหารเราไปเจรจาหยุดยิงกับนายพลฮุนมาเน็ต ลูกชายนายฮุนเซน ก็เพราะ พล.อ.ประวิตรสั่งให้ไป ซึ่งทหารต้องไปตามคำสั่ง
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร เคยรับราชการที่กองกำลังบูรพาในสมัยที่เวียดนามเข้ามารุกรานเราที่บริเวณบ้านหนองจาน จนทหารไทยยิงทหารเวียดนามตายไปหลายคน พล.อ.ประวิตรก็เคยไปรบตรงนั้น แล้วทำไมถึงบอกว่านายวีระ สมความคิด ถูกจับในเขตกัมพูชา ทั้งที่จุดที่ถูกจับยังไปไม่ถึงบ้านหนองจานเลย
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ในชีวิตนี้ตนเสียใจกับ 2 คน คนแรกคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่ 2 คือนายกษิต ภิรมย์ ส่วนนายสุเทพ พล.อ.ประวิตร ไม่เสียใจเพราะรู้มานานแล้วว่าเป็นคนอย่างไร แต่ที่เสียใจกับนายอภิสิทธิ์ เพราะคิดไม่ถึงว่าคนที่เราคิดว่าเป็นคนดี จะมาหลอกปล้น ข่มขืน ฆ่าเจ้าทรัพย์อย่างนี้ นึกไม่ถึงว่าจะโกหกรายวันจากเช้าถึงเย็นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวและดื้อด้านได้อย่างไร ส่วนายกษิต เสียใจเพราะนายกษิตวันที่ขึ้นเวทีกับเรากับนายกษิตวันนี้ เหมือนหน้ามือกับหลังเท้า คนเราเปลี่ยนไปขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไร