“กษิต” แจ้นฟ้องนายกฯ เหตุดึงอาเซียนสังเกตพื้นที่พิพาท

รมว.ต่างประเทศ โร่พบนายกฯ รายงานผลประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ยันมีความจำเป็นดึงอาเซียน เฝ้าสังเกตการณ์เหตุปะทะ ไม่ห่วง “แขมร์” กลับลำ อ้างทำความตกลงในเวทีประชุม พร้อมระบุมีถ้อยแถลงชัดเจนแล้ว รมต.ต่างประเทศอาเซียน การันตีแล้ว เผย ประชุมเจบีซี 27 ก.พ.นี้ใช้เวที “อินโดฯ” เป็นเจ้าภาพแทนไทย

วันนี้ (23 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้ารายงานผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ ที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงประเทศอินโดนีเซีย กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และใช้เวลาในการรายงานประมาณ 15 นาที

นายกษิต กล่าวภายหลังการเข้าพบนายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้มารายงานนายกรัฐมนตรีทางวาจา ในการดำเนินการ เรื่องการประสานงานระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการต้อนรับผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซีย และอยากให้มา เพราะมีความจำเป็นการยืนยันเรื่องการหยุดยิง และเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปะทะ และหากมีการยิงก็จะมีการพิสูจน์ได้ว่าใครเริ่มก่อน ขณะเดียวกัน ตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีก่อนขึ้นเครื่องบิน ว่าได้คุยโทรศัพท์กับ นายมาร์ตี มาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ว่า ทางอินโดนีเซียได้มีการประชุมเป็นการภายใน เพื่อมีข้อเสนอถึงรูปแบบการส่งผู้สังเกตการณ์จำนวน 15 คน มาที่ประเทศไทย ซึ่งไม่ติดอาวุธ และการนำประสบการณ์ที่ไทยได้รับเชิญจากอินโดนีเซียให้คณะนายทหารผู้สังเกตการณ์ไปที่ จ.อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย และไปที่ติมอร์ตะวันออก จึงมีประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ในทางปฏิบัติเราเคยช่วยเหลือเขาแล้ว ตอนนี้ก็มาให้ความร่วมกับเรา ซึ่งผู้สังเกตการณ์จะมีทั้งมีทหารและพลเรือน ขึ้นอยู่กับทางอินโดนีเซีย

นายกษิต กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการที่จะมีการประชุมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) และการประชุมคณะกรรมการเขตแดนทั่วไป (จีบีซี) ได้มีการติดต่อกันอย่างไม่เป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยได้ส่งหนังสือเชิญไปแล้ว ขณะเดียวกัน กรอบของ เจบีซี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้ติดตามไปยังกัมพูชา เพื่อกำหนดวันโดยเร็ว ทั้งนี้ คาดว่า อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อตอบสนองเจตนารมณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และตอบสนองสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ในกรอบการประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งมีถ้อยแถลงของรัฐมนตรีอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนออกมาแล้วเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา

นายกษิต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การประชุมเจบีซีที่กำหนดไว้ในวันที่ 27 ก.พ.อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนเวทีประชุมจากประเทศไทยเป็นประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อถามว่า ความเห็นของไทยและกัมพูชา มีความเห็นที่ตรงกันแล้วหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ตรงกันแล้ว และสะท้อนอยู่ในถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เราต้องคิดว่าเรามีเจตนาดีต่อกัน มุ่งความสัมพันธ์ให้คืบหน้า เราทั้ง 2 ประเทศ ก็มีพันธกรณีต่ออาเซียน เพราะได้มีการพูดจาตกลงกันต่อหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน 8 ประเทศ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา