“มาร์ค” อ้างพันธมิตรฯ ชุมนุมแค่หลักร้อย สั่ง ตร.เร่งเคลียร์

“ครม.” บี้ ตร.บีบพันธมิตรฯ เปิดถนนรอบทำเนียบ “เสธ.หนั่น” ตะเบ็ง ตร.ไร้น้ำยา อ้างผู้ชุมนุมมีแค่ร้อยแต่จัดการไม่ได้ “นายกฯ” โหมโรงฟุ้งเห็นยังไม่ได้คิดแค่คนเดียว สั่งเร่งเคลียร์ หวั่นม็อบอื่นเลียนแบบ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (22ก.พ.) ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผบ.ตร. เป็นตัวแทนเข้าชี้แจงความจำเป็นที่จะต้องต่ออายุการบังคับใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกไปอีก 30 วัน ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนซักถามว่า ทำไมจึงต่ออายุไปยาวนานขนาดนั้น ทาง พล.ต.ท.วรพงษ์ชี้แจงว่า เนื่องจากในวันที่ 12 มี.ค.จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง และในวันที่ 24 มี.ค. จะมีการแถลงผลงานของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า แต่นายกฯได้โต้แย้งทันทีว่า ตำรวจได้ข้อมูลผิดพลาดแล้ว เพราะวันแถลงผลงานของรัฐบาลคือวันที่ 24 ก.พ.ไม่ใช่ 24 มี.ค. จากนั้นนายกฯ จึงได้ซักต่อว่า เหตุใดศอ.รส.จึงเสนอให้ลดพื้นที่การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ลงจากเดิมจาก 7 เขตเหลือ 4 เขต ประกอบด้วยเขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต และเขตปทุมวัน แต่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยที่จะให้ลดพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่รอบบ้านนายกฯ เพราะไม่เชื่อว่าตำรวจจะป้องกันดูแลบ้านพักนายกรัฐมนตรี ที่ซอยสวัสดีได้ เช่นเดียวกับนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที ที่เสนอให้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ให้ครอบคลุม ทั้ง 7 เขตเหมือนเดิม โดยทางตำรวจพยายามชี้แจงว่าที่เสนอให้ลดพื้นที่ลงเพราะมั่นใจว่าจะสามารถควบ คุมสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะบ้านพักนายกฯและสถานทูตกัมพูชา ได้วางกำลังตำรวจเอาเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีรัฐมนตรีบางท่านได้แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกในเขตบ้านนายกฯ เพราะขนาดเมื่อวานก็มีหญิงหูหนวกสามารถเข้ามาประชิดตัวนายกฯ จนได้ ซึ่งในที่สุด ครม.ยืนยันให้ประกาศครอบคลุม 7 เขตตามเดิม

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้ พล.ต.สนั่นยังได้ซักถามตำรวจหลายครั้งว่าเหตุใดเมื่อมี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แล้วยังไม่สามารถไปขอพื้นที่คืนจากม็อบได้อีก ทั้งที่ผู้ชุมนุมมีแค่หลักร้อย แล้วอย่างนี้จะมาขอต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงทำไม ไม่เห็นตำรวจทำอะไรได้เลย หากต่อไปมีผู้ชุมนุมถึงระดับหมื่นคนจะจัดการอย่างไร ขนาดตนเมื่อเช้า จะเข้าทำเนียบรัฐบาลยังเข้าไม่ได้เลย ดังนั้น อยากให้ตำรวจไปเจรจากับม็อบขอพื้นที่การจลาจรคืนอย่างน้อย 1-2 เลน

ด้าน นายกฯ กล่าวเสริมว่า เห็นหรือไม่ว่าไม่ใช่แค่ตนที่มีความเห็นลักษณะนี้คนเดียว ที่เชิญตำรวจเข้ามาก็เพื่อจะให้รู้ว่า ครม.รู้สึกอย่างไร ตนได้รับรายงานตัวเลขผู้ชุมนุมมาทุกวันว่ามีประมาณ 500-600 คน แต่กลับปิดถนนในบริเวณกว้าง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ความจริงตนไม่ได้ห้ามการชุมนุมเพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ต้องไม่ใช่การปิดถนนทั้งหมดแบบนี้ ต่อไปถ้าผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นๆ มาอ้าง เอาอย่างเดียวกันบ้างจะไม่ดี ซึ่งในที่สุด พล.ต.ท.วรพงษ์ ก็ได้แต่รับปากว่าตำรวจจะพยายามดูแลให้ที่สุด