ASTVผู้จัดการรายวัน- ศอ.รส.ชง ครม.22 ก.พ.นี้ ขอขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงอย่างน้อย 15 วัน เสนอลดพื้นที่ใน2-3 เขต เตรียมเสนอ ส่วนหมายเรียกแกนนำพธม.ทั้ง 10 คนยืนยันเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกัน ขณะหมายเรียกแกนนำชุด 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการออกหมายเรียกเพิ่มหรือไม่
วานนี้ (20 ก.พ.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวยังเห็นว่าพรบ.ความมั่นคงยังเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็น ในการควบคุมสถานการณ์ตอนนี้อยู่ ซึ่งแนวโน้มก็คงจะขอต่ออายุการใช้พรบ.ความมั่นคง โดยอาจจะขอลดพื้นที่ที่ไม่จำเป็นลง และขอขยายเวลาอีก 15 วัน โดยอาจเป็นพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลและรอบรัฐสภา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อง(ศอ.รส.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมศอ.รส.ว่า ศอ.รส.มีมติให้ขยายเวลาการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร มาตรา 15 ไปอีก อย่างน้อย 15 วัน เนื่องจากยังมีผู้ชุมนุมหลายกลุ่มกระจายในพื้นที่กทม.ซึ่งอาจเกิดปัญหาในการดูแลความสงบเรียบร้อย แต่อาจมีการพิจารณาลดพื้นที่การประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ลง 2-3 เขต ซึ่งเป็นเขตที่อยู่รอบนอกไม่มีการชุมนุม และลดกำลังเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสมซึ่งรายละเอียดยังไม่สามารถบอกได้น้องเสนอให้กอ.รมน.รับทราบ และเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีเพื่อพจารณาอนุมัติ ในวันที่ 22 ก.พ.นี้
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับหมายเรียกแกนนำกลุ่มพันธมิตรก่อนหน้านี้ฐานขัดพ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น แกนนำทั้ง 10 คนได้ยืนยันที่จะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนการเตรียมการออกหมายเรียกแกนนำชุดที่ 2 นั้นตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพราะไม่เป็นที่แน่ชัดบางคนก็ไม่กลับมาขึ้นเวทีพันธมิตรซ้ำอีก ก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะออกหมายเรียกเพิ่มอีกหรือไม่
สำหรับการเจรจาเพื่อเปิดพื้นที่การจราจรบางส่วนนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็ยังคงเข้าไปเจรจากับทางแกนนำอยู่ตลอด แต่ยังคงไม่เป็นผล แกนนำยังอ้างสงวนพื้นที่ไว้ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ทางตำรวจก็ใช้วิธีไปถ่ายรูปผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่ไม่มาก และพื้นที่ที่ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ และนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนและทางอินเตอร์เน็ตเพื่อให้ประชาชนรับทราบและนำรูปภาพไปให้แกนนำดูเพื่อให้เห็นว่าสมควรเปิดพื้นผิวการจราจรเนื่องจากผู้ชุมนุมบางตา แต่แกนนำก็ยังยืนยันไม่เปิดเพราะช่วงวันหยุดมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก ถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ยื่นคำขาดหรือให้เวลาว่าเมื่อไหร่จะให้ออกจากพื้นที่การจราจร
ผู้สื่อข่าวถามการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่สามารถดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้มุ่งผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมแต่เป็นการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามเท่านั้น ประคับประคองให้อยู่ในความสงบ หากเราใช้ความรุนแรงหรือกำลังเข้าไปแก้ปัญหาก็จะกระทบกับความมั่นคงได้ และอาจเกิดความสูญเสียได้ แต่เราก็ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงเข้าไปดูแล และมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างการออกหมายเรียก และการใช้พ.ร.บ.เป็นเครื่องมือในการดูแลความเรียบร้อย เช่นในวันที่ 11 ก.พ.ที่กลุ่มพธม.ไปหน้าสภา และวันที่ 13 ก.พ.ที่กลุ่มนปช.เคลื่อนขบวนไปใกล้กับกลุ่มพันธมิตรเราก็สามารถใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงเข้าไปดูแลจนเกิดความเรียบร้อยได้
สำหรับการประเมินสถานการณ์ในตอนนี้นั้น ผู้ชุมนุมก็มีจำนวนลดน้อยลงเฉลี่ย ประมาณ 1 พันคนต่อวัน กลุ่มผู้ชุมนุมที่ชุมนุมกันอยู่ 5-6 กลุ่ม มากที่สุดที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า สถานการณ์ก็เรียบร้อยดี ไม่มีเหตุลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ การจราจรตำรวจก็พยายามแก้ไข ส่วนการที่พธม.ประกาศยกระดับการชุมนุมทางตำรวจก็ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และก็ติดตามการประกาศยกระดับการชุมนุมของกลุ่มพธม.อยู่ตลอด ด็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง.
วานนี้ (20 ก.พ.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวยังเห็นว่าพรบ.ความมั่นคงยังเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็น ในการควบคุมสถานการณ์ตอนนี้อยู่ ซึ่งแนวโน้มก็คงจะขอต่ออายุการใช้พรบ.ความมั่นคง โดยอาจจะขอลดพื้นที่ที่ไม่จำเป็นลง และขอขยายเวลาอีก 15 วัน โดยอาจเป็นพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลและรอบรัฐสภา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อง(ศอ.รส.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมศอ.รส.ว่า ศอ.รส.มีมติให้ขยายเวลาการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร มาตรา 15 ไปอีก อย่างน้อย 15 วัน เนื่องจากยังมีผู้ชุมนุมหลายกลุ่มกระจายในพื้นที่กทม.ซึ่งอาจเกิดปัญหาในการดูแลความสงบเรียบร้อย แต่อาจมีการพิจารณาลดพื้นที่การประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ลง 2-3 เขต ซึ่งเป็นเขตที่อยู่รอบนอกไม่มีการชุมนุม และลดกำลังเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสมซึ่งรายละเอียดยังไม่สามารถบอกได้น้องเสนอให้กอ.รมน.รับทราบ และเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีเพื่อพจารณาอนุมัติ ในวันที่ 22 ก.พ.นี้
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับหมายเรียกแกนนำกลุ่มพันธมิตรก่อนหน้านี้ฐานขัดพ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น แกนนำทั้ง 10 คนได้ยืนยันที่จะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนการเตรียมการออกหมายเรียกแกนนำชุดที่ 2 นั้นตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพราะไม่เป็นที่แน่ชัดบางคนก็ไม่กลับมาขึ้นเวทีพันธมิตรซ้ำอีก ก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะออกหมายเรียกเพิ่มอีกหรือไม่
สำหรับการเจรจาเพื่อเปิดพื้นที่การจราจรบางส่วนนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็ยังคงเข้าไปเจรจากับทางแกนนำอยู่ตลอด แต่ยังคงไม่เป็นผล แกนนำยังอ้างสงวนพื้นที่ไว้ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ทางตำรวจก็ใช้วิธีไปถ่ายรูปผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่ไม่มาก และพื้นที่ที่ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ และนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนและทางอินเตอร์เน็ตเพื่อให้ประชาชนรับทราบและนำรูปภาพไปให้แกนนำดูเพื่อให้เห็นว่าสมควรเปิดพื้นผิวการจราจรเนื่องจากผู้ชุมนุมบางตา แต่แกนนำก็ยังยืนยันไม่เปิดเพราะช่วงวันหยุดมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก ถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ยื่นคำขาดหรือให้เวลาว่าเมื่อไหร่จะให้ออกจากพื้นที่การจราจร
ผู้สื่อข่าวถามการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่สามารถดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้มุ่งผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมแต่เป็นการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามเท่านั้น ประคับประคองให้อยู่ในความสงบ หากเราใช้ความรุนแรงหรือกำลังเข้าไปแก้ปัญหาก็จะกระทบกับความมั่นคงได้ และอาจเกิดความสูญเสียได้ แต่เราก็ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงเข้าไปดูแล และมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างการออกหมายเรียก และการใช้พ.ร.บ.เป็นเครื่องมือในการดูแลความเรียบร้อย เช่นในวันที่ 11 ก.พ.ที่กลุ่มพธม.ไปหน้าสภา และวันที่ 13 ก.พ.ที่กลุ่มนปช.เคลื่อนขบวนไปใกล้กับกลุ่มพันธมิตรเราก็สามารถใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงเข้าไปดูแลจนเกิดความเรียบร้อยได้
สำหรับการประเมินสถานการณ์ในตอนนี้นั้น ผู้ชุมนุมก็มีจำนวนลดน้อยลงเฉลี่ย ประมาณ 1 พันคนต่อวัน กลุ่มผู้ชุมนุมที่ชุมนุมกันอยู่ 5-6 กลุ่ม มากที่สุดที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า สถานการณ์ก็เรียบร้อยดี ไม่มีเหตุลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ การจราจรตำรวจก็พยายามแก้ไข ส่วนการที่พธม.ประกาศยกระดับการชุมนุมทางตำรวจก็ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และก็ติดตามการประกาศยกระดับการชุมนุมของกลุ่มพธม.อยู่ตลอด ด็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง.