สหภาพแรงงาน อสมท ร้องนายกฯ ตรวจสอบการบริหารผู้บริหาร-ประธานกรรมการบริษัท มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ไม่รักษาผลประโยชน์ กรณีค่าต่อสัญญาช่อง 3 และค่าโฆษณาทรูวิชั่น จัดหาอุปกรณ์ด้วยวิธีพิเศษ ตั้งบุคคลใกล้ชิดนั่งผู้ช่วย ผอ. ไม่ชัดเจนทำธุรกิจใหม่ - เจ้าตัวแนะรวมประเด็นจะชง “องอาจ” ให้
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นำ โดยนางอรวรรณ ชูดี ประธานสหภาพแรงงาน ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อยื่นจดหมายขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจ สอบการบริหารงานภายใน อสมท ภายหลังสหภาพฯ ได้ข้อยุติร่วมกันว่าผู้บริหารและประธานกรรมการของบริษัทมีการพฤติกรรมการปฏิบัติ หน้าที่ไม่โปร่งใส ขาดหลักธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพในการทำงาน จนส่งผลกระทบต่ออนาคตขององค์กร
ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้ได้เกิดปัญหาขึ้นภายใน บมจ.อสมท ทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท และพนักงานมีความกังวลภายใต้การกำกับของนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บมจ.อสมท และนายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ว่าอาจไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท ที่มีกระทรวงการคลัง เนื่องจาก 1.มีการปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส ไม่รักษาผลประโยชน์ของ บมจ.อสมท จากกรณีการกำกับดูแลคู่สัญญาสัมปทานช่อง 3 ที่ต่อสัญญาไปอีก 10 ปี โดยได้รับค่าตอบแทนคงที่ตลอดอายุสัญญา จำนวน 2,002 ล้านบาท ขณะที่ประธานกรรมการ บมจ.อสมท เจรจาขอให้ช่อง 3 ชดเชยค่าเสียหายจำนวน 405 ล้านบาท แต่ยังมีข้อโต้แย้งจากบุคคลภายนอกและกรรมการบมจ.อสมท.ส่วนหนึ่ง จนเกรงว่าท้ายที่สุดจะทำให้ บมจ.อสมท จะเสียผลประโยชน์ รวมถึงกรณีการให้บริษัททรูวิชั่นส์มีโฆษณาตามมติคณะกรรมการ บมจ.อสมท ซึ่งมีการระบุให้จ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเป็นเงินร้อยละ 6.5 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย แต่จนถึงขณะนี้ บมจ.อสมท ยังไมได้รับค่าตอบแทนใดๆ
รวมถึงการจัดหาวัสดุด้วยวิธีพิเศษระบบ Tele Presence ระยะเวลา 24 เดือน ในวงเงิน 24 ล้านบาท โดยอ้างถึงการไปดูงานของคณะกรรมการ บมจ.อสมท ที่บริษีท ซีสโก้ ซีสเต็มส์ สหรัฐอเมริกา ทำให้มีการตั้งเรื่องจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวด้วยวิธีพิเศษ
2.การบริหารที่ขาดหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส สร้างความแตกแยกภายในองค์กร โดยมีการล้วงลูกการบริหาร การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรแต่ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน และมีการแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มาดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และ 3.ขาดประสิทธิภาพเชิงบริหาร กระทบต่ออนาคตขององค์กร โดยมีความล่าช้าในการเตรียมแผนรองรับ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และ พ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ ไม่มีความชัดเจนเรื่องแผนงานของธุรกิจใหม่
นายกฯ กล่าวว่า ให้สหภาพรวบรวมประเด็นปัญหา เรื่องไหนที่คิดว่าไม่โปร่งใสเสนอมาที่ตน และจะส่งเรื่องไปยังรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ เพื่อทำหนังสือถึงผู้บริหาร อสมท และประธานบอร์ด อสมท ชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ อย่างในเรื่องของทรูไปศึกษาข้อสัญญา ไปเจรจาความเสียหายให้ประธานบอร์ดชี้แจงมาที่ไปเรียกค่าเสียหายจากช่อง 3 คืออะไร พร้อมกับยืนยันว่า เรื่องของการจัดหาวัสดุพิเศษระบบ Tele Presence ไม่เกี่ยวสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องที่สำนักนายกฯ มีโครงการนี้อยู่แล้ว เพียงแต่อยู่การศึกษาความคุ้มค่าระหว่างการเช่าหรือซื้อมา ไม่เกี่ยวกันเป็นเรื่องที่ ผอ.อสมท ต้องชี้แจงกับทางสหภาพฯ ขณะที่ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกฯ ชี้แจงว่า สำนักนายกฯ กำลังดำเนินการนี้อยู่ เพื่อให้นายกฯสามารถแถลงภารกิจระหว่างไปต่างประเทศกลับยังประเทศได้ และมีการเชื่อมต่อไปยังสำนักข่าวต่างๆ ได้