xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ชี้ “มาร์ค” หวังช่วยแกนนำแดงพ้นคุกเพื่อถ่วงดุล พธม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ถามมาตรฐานความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ในขณะที่พันธมิตรฯ ชุมนุมเพื่อปกป้องแผ่นดิน รัฐบาลกลับหาช่องทางกลั่นแกล้งสารพัด ในขณะที่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ - รองนายกฯ ไปเป็นพยานขอประกันตัวแกนนำเสื้อแดง ตั้งข้อสังเกตหรือต้องการจับมือกับแกนนำบางคนเพื่อเพิ่มความนิยมให้ตัวเอง หรือไม่ก็ต้องการให้ออกมาจากคุก เพื่อถ่วงดุลการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (21 ก.พ.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมของพันธมิตรฯ ขึ้นปราศรัยบนเวทีรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ถึงกรณีที่มีผู้หญิงบุกหานายกฯ ขณะกำลังกล่าวเปิดงาน เพื่อร้องเรียนการรักษาอาการพยาธิตัวจี๊ดที่ทำให้หูหนวก นายประพันธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้จะเอากรณีนี้มาประจานใคร แต่อยากให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าผู้บริหารประเทศใส่ใจต่อประชาชน และเหตุการณ์แบบนี้เป็นสัญญาณบอกได้เลยว่าการอวสานมาถึงนายอภิสิทธิ์แล้ว

ก่อนหน้านี้ก็มีชายอาวุโสก็ออกมาตะโกนว่านายกฯ เป็นคนขายชาติ เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเหมือนเมื่อตอนที่พันธมิตรฯ ไล่ทักษิณ สมัคร และสมชาย มันเป็นสัญญาณให้รู้ว่านายกฯ คนนั้นถึงกาลอวสานแล้ว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า นักวิชาการ 7.1 ล้าน ก็เป็นตัวอย่างของการทุจริต นายอภิสิทธิ์ตั้งขึ้นมาก็แค่ต้องการแก้ปัญหาเอาตัวรอด โดยหาคนอื่นมาเป็นเป้าล่อให้พันธมิตรฯไปชกคนอื่นแทน

“วันนี้นายอภิสิทธิ์หุบปากอย่างเดียว พูดไม่ได้  ไม่ต่อปากต่อคำกับเราเหมือนเคย ตนก็ได้ไปถามคนใกล้ชิดไปว่าทำไม ปรากฎว่าเป็นอาการของโรคตอแหลลงตับ เลยพูดไม่ได้ โกหกตอแหลไปวันๆ จนพูดไม่ได้ในเรื่องนี้ เลยต้องไปเกณฑ์นักวิชาการ 7.1 ล้านมา ซึ่งพวกนี้ก็เป็นพวกน่าอัปยศอดสูที่สุด ขณะที่นายฮุนเซนสู้เพื่อชาติของตัวเองพวกนี้ไม่เคยด่า แต่กลับมาต่อว่าพันธมิตรฯ” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า เป้าหมายสำคัญของเรายังอยู่ที่รัฐบาล นักวิชาการ 7.1 ล้านพวกนี้เป็นแค่ลิ่วล้อ ที่เอามาเป็นแค่ไม้กันหมา ทั้งๆ พวกนี้รู้อยู่แก่ใจว่าเราสู้เพื่ออะไร เราสู้เพื่อแผ่นดินและชาติบ้านเมือง เรื่องสำคัญตามมาคือการทุจริต ล้มเหลวในการบริหารประเทศชาติจนประชาชนเดือดร้อน

ตนไม่ได้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ แต่ขอทำนายไว้ได้เลยว่าเศรษฐกิจไทยจะพินาศในกำมือนายอภิสิทธิ์แน่นอน สินค้าอุปโภคบริโภค จะขึ้นราคาทั้งหมด เพราะราคาน้ำมันปาล์มแพงขึ้นมา 2-3 เท่า สินค้าอย่างอื่นก็ขอขึ้นราคาตาม

“มีคนถามว่าเราจะชนะวันไหน ผมบอกไม่ได้ แต่บอกได้อย่างเดียวว่าไปแน่นอน และไปก่อนเวลาครบกำหนด ธ.ค. แน่นอน และขณะนี้ความชอบธรรมในการบริหารประเทศไม่เหลือแล้ว ไม่มียุคใดสมัยใดที่นายอภิสิทธิ์จะตกต่ำได้ขนาดนี้ ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่เป็นเพียงหุ่นเชิด นายฮุนเซนก็รู้ดีว่าใครเป็นนายกฯ ตัวจริง เวลาจะคุย ก็โทร.หานายสุเทพ และนายประวิตร” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องการโกงการทุจริตของรัฐบาลนี้ตนพูด 1 ปีก็ไม่หมด มันมากกว่ารัฐบาลที่แล้วเสียอีก นักธุรกิจบอกกับตนว่า เวลาพ่อค้าจะขอขึ้นราคาสินค้าพวกนักการเมืองจะต้องบวกเปอร์เซ็นต์เข้าไป เช่นขอขึ้น 10 บาท นักการเมืองเอา 5 บาท มันกินแบบหน้าด้านๆ แบบนี้ และที่นักการเมืองไทยกล้ากินเป็นหมื่นล้านแบบนี้ เพราะนายทักษิณทำตัวอย่างไว้ให้ เมื่อก่อนไม่เคยกินเยอะขนาดนี้ หลังจากนายทักษิณมาทำตัวอย่างไว้ ก็เดินตามแนวทางกันหมด ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้พวกเราต้องไปรายงานตัวกับตำรวจที่ออกหมายเรียกมา รัฐบาลใช้กฎหมายความมั่นคงเพื่อปิดปากเรา แต่เราให้ทนายไปยื่นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วว่าเป็นหมายเรียกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและสวนกลับอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่แปลกอยากจะฟ้องชาวไทยว่า ขณะที่เราชุมนุมอย่างสันติ ปกป้องแผ่นดิน รัฐบาลกลับหาช่องทางกฎหมายที่ไม่ชอบมากลั่นแกล้งเรา

แต่กรณีเสื้อแดง ตนไม่ว่าที่จะใช้สิทธิ์ประกันตัวตามกฎหมาย แต่ว่าพฤติกรรมวันนี้ที่นายอภิสิทธิ์ อนุญาตให้รองนายกฯ สนั่น ขจรประศาสน์ นายคณิต ณ นคร นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ  ไปเป็นพยานให้แกนนำเสื้อแดงให้ศาลประกันตัว เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ไม่มีใครทำอัปยศแบบนี้

ในขณะที่รัฐบาลคุมตัวพวกนั้นอยู่ แต่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ และรองนายกฯ ไปขอให้ประกันตัว เอาสมองส่วนไหนคิด มาตรฐานความยุติธรรมของคุณอยู่ที่ไหน แถมยังสั่งให้อัยการผู้ฟ้องห้ามทำการคัดค้านการประกันตัวด้วย แบบนี้ไม่เคยเห็น

“คุณต้องการทำอะไร ต้องการจับมือกับแกนนำบางคนเพื่อเอาเป็นเครื่องมือสร้างความนิยมให้ตัวเองใช่หรือไม่ หรือว่าต้องการให้กลุ่มเหล่านี้ออกมาเพื่อคานและดุลเวทีการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ” นายประพันธ์กล่าว  

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า วิธีที่ทำเป็นการเล่นเกมการเมืองที่สกปรก เรื่องอัปยศอย่างนี้ก็ยังทำ มาถึงวันนี้ประจักษ์ชัดแล้วว่ารัฐบาลไปไม่รอด หมดความชอบธรรมในการปกครองบ้านเมืองแล้ว

เรากำลังจะจัดงาน “วันรวมพลังแสดงตนคนรักชาติรักแผ่นดิน” แต่ขอรอดูฤกษ์งามยามดีในการนัดหมายก่อน วันนี้เราจะสั่งสอนนายอภิสิทธิ์ว่าคนเขาไม่เอาคุณแล้ว อย่าหน้าด้านต่อไปเลย

คำต่อคำ ประพันธ์ คูณมี ปราศรัย

วันนี้เตรียมตัวแทบไม่ทันเพราะว่ามาเร็วกว่ากำหนด ก็สวัสดีและกราบสวัสดีทักทายพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศทุกท่าน ปรบมือให้กำลังใจพวกเราซึ่งกันและกันด้วยนะครับ และที่ขาดไม่ได้ก็คือต้องส่งกำลังใจดังๆ ไปให้คุณวีระและคุณราตรีด้วยนะครับ ซึ่งวันนี้ผมก็คิดว่าคงมีเรื่องที่ต้องพูดถึงทั้งสองท่านด้วยว่า เป็นบุคคลที่เราจะต้องยกย่องจิตใจกล้าหาญ กล้าต่อสู้ของเขา ไว้ตราบชั่วนิรันดร์กาลเลยนะครับ เป็นคนไทยที่ไม่ยอมสยบต่ออำนาจเถื่อน อำนาจทมิฬ และอำนาจรัฐของนายฮุน เซน แต่อย่างใดเลยครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ก็คงเป็นที่ทราบกันแล้วว่าพี่สนธิไม่ค่อยสบาย เจ็บขามาก และได้ขอลาพักสักวัน แซงหน้าผมไปแล้วนะครับ ผมเพิ่งลา 1 วันเท่านั้นนะครับ ผมยังไม่ได้ขาดเลย มาทุกวัน ผมก็พยายามที่จะทำสถิติที่จะไม่ลาโดยไม่จำเป็น เว้นแต่พ่อแม่พี่น้องอนุญาตนะครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ ยอมรับว่าการต่อสู้ของเราครั้งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะว่าเป็นการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชาติ เอกราช และอธิปไตยของประเทศเรา ที่สำคัญก็คือ เราไม่ได้สู้กับนายฮุน เซน และกัมพูชาเท่านั้น เรายังต้องสู้กับรัฐบาลไทย นักการเมืองไทย นักวิชาการไทย และคนไทยที่หัวใจเป็นทาสเขมรอีกด้วยครับ

สู้กับทักษิณเราว่าเหนื่อย ก็ยังไม่เหนื่อยเท่า แต่ก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจครับ ว่าด้วยความอดทน ด้วยความมานะพยายาม ด้วยความกล้าหาญ ด้วยความเสียสละ ของพ่อแม่พี่น้องที่ยืนหยัดอยู่ร่วมกันมา ผมกล้ายืนยันได้ว่าวันนี้ประชาชนหูตาสว่างขึ้น และได้รู้ธาตุแท้ของผู้ปกครองประเทศ และนักการเมืองขายชาติ อย่างล่อนจ้อนแล้วครับ

ผมคิดว่าไม่มีครั้งใด และก็คงไม่มียุคสมัยใด ที่มีรัฐบาลที่อัปยศเหมือนรัฐบาลชุดนี้ แรกๆ เราพูด เราด่า เราวิพากษ์วิจารณ์ คนก็คงจะไม่เห็นด้วยอยู่เยอะ เป็นธรรมดา ยอมรับว่าผมโดนหนักที่สุดล่ะครับ เพราะผมเป็นคนแรกที่บอกว่านายอภิสิทธิ์คือนักประชาธิปไตยจอมปลอม คือนักการเมืองที่เป็นวิญญูชนจอมปลอม และก็คือนักการเมืองที่ไม่มีความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ และมีพฤติกรรมที่ไม่สมควรจะเป็นผู้บริหารผู้ปกครองประเทศนี้ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง หลายประการ แม้แต่คำที่บอกว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนตระบัดสัตย์ เป็นคนเนรคุณประชาชน ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำ แต่คนอื่นอาจจะยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ

ไม่ได้เพียงว่าพูดเต็มปากเต็มคำกับพี่น้องประชาชนเท่านั้น พูดใส่รูหูเขาเต็มรูหูเลยว่า คุณมันเนรคุณประชาชน

และผมก็เชื่อมั่นมาตลอดว่าเขาเป็นเช่นนั้น และผมก็ดูไม่ผิด ไม่ว่าฟ้าจะถล่มดินจะทลาย ใครจะเอาดาบ เอาพร้า เอามีด หลาวแหลมมาแทงมาตัดคอผม ผมก็จะบอกว่า คนๆ นี้เนรคุณประชาชน ไม่มีวันที่ผมจะเปลี่ยนคำพูด

ด้วยความที่ยืนหยัดและอดทนไม่ว่าจะมีใครไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ตามแต่ แต่ด้วยข้อมูลด้วยข้อเท็จจริงมันก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าคนๆ นี้เป็นอย่างไร และวันนี้ผมคิดว่าพี่น้องคงจะเห็นธาตุแท้ของเขาชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ให้เสนาธิการทหารบก และแม่ทัพเยิ้ม ไปเจรจาตกลงกับลูกชายของนายฮุน เซน และก็ไปทำความตกลง 8 ข้อ อย่างที่พ่อแม่พี่น้องรู้กันโดยทั่วไป

พี่น้องครับ ผมไม่ได้มาต้องการที่จะมาสอนนายอภิสิทธิ์หรอก แต่ผมอยากจะบอกให้รู้ว่า พฤติกรรม วิธีคิด วิธีทำงานของนายอภิสิทธิ์อย่างนี้มันยิ่งตอกช้ำความเชื่อของผมและของประชาชนไทยทุกคนว่า นายคนนี้ไร้เดียงสาและขาดวุฒิภาวะในการที่จะเป็นผู้นำประเทศจริงๆ

ทำไมผมต้องพูดอย่างนั้นครับพี่น้อง เมื่อเช้านี้ อ.ปานเทพ พล.ต.จำลอง ก็แถลงข่าวไปแล้ว ขนาด พล.ต.จำลอง ยังบอกว่าเป็นความตกลงที่โง่ ไม่โง่ก็ต้องขายชาติ หรือไม่มันก็เป็นทั้งโง่และขายชาติ ทั้งสองอย่างร่วมกันเลย ซึ่งน้อยครั้งที่ท่าน พล.ต.จำลอง จะกล้าพูดด้วยถ้อยคำที่รุนแรงอย่างนี้ แสดงว่าท่านคงเหลืออดจริงๆ ครับ

ถ้าเราย้อนไปดูในอดีตตั้งแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นว่านายอภิสิทธิ์นี่เปลี่ยนไปคนละคนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยครับ ซึ่งในวันที่เป็นฝ่ายค้าน อภิปรายนายสมัคร อภิปรายนายนพดล เห็นไหมครับ ชุดความคิดของเขาเป็นชุดความคิดหนึ่ง ยืนยันกับพวกเรามาตลอดว่าสันปันน้ำเป็นแนวอาณาเขตระหว่างไทย-กัมพูชา ปราสาทพระวิหารกัมพูชาได้ไปเพียงซากปราสาท จะไปล้อมรั้วขีดเส้นออกมาก็ถือว่าสละสิทธิ์แล้ว บริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของคนไทย ด่าเขาฉอดๆ ว่าท่านไปทำอย่างนี้ แล้วก็บอกว่าเอาล่ะ MOU แม้จะยังไม่เลิก แต่จะเป็นช่องทางที่ทำให้เราเจรจาเพื่อไม่ให้เขามารุกล้ำดินแดน จะทำให้เราไม่เสียดินแดน แต่ท้ายที่สุดพี่น้องเห็นไหมครับ ตั้งแต่วันที่เขาอภิปรายนายสมัคร มาจนกระทั่งถึงวันนี้ นโยบายทางการเมือง ทางการทูต และการดำเนินงานของนายอภิสิทธิ์ถอยร่น ถอยกรูด จนกระทั่งมาถึงวันนี้ พี่น้องเห็นหรือยังครับ แผ่นดินของเราจากที่แกบอกว่าตีขอบรอบตัวปราสาท เวลานี้กัมพูชามันกินอาณาเขตไปตลอด 4.6 ตารางกิโลเมตร และจะกินไปถึง 1.8 ล้านไร่ไปแล้ว ตลอดแนวชายแดน

มาถึงวันนี้ ผมคิดว่าคนไทยทุกคนไม่น่าจะมีคำถามและไม่น่าจะมีข้อสงสัยแล้ว ในความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหารและแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของนายอภิสิทธิ์ นี่เพียงเรื่องเดียวนะครับ เรื่องดินแดน เรื่องอธิปไตย เรื่องอาณาเขต ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทุกเรื่องนายอภิสิทธิ์ล้มเหลว ไม่มีแม้แต่เรื่องเดียวที่ทำให้คนไทยได้ภาคภูมิใจในความเป็นนายกฯ ของนายอภิสิทธิ์เลย

ทำให้เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี เกียรติยศของคนไทยทั้งชาติ กลายเป็นลูกไล่ เป็นเบี้ยล่างของรัฐบาลกัมพูชา นายฮุน เซน ทั้งๆ ที่คนที่รู้กำพืดนายฮุน เซน ดีที่สุด พวกผมนี่รู้กำพืดมัน มันเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัว เป็นขี้ข้า เป็นทหารกระจอก ที่ไม่มีพลังอะไรเลย ไม่มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีอะไรเลย เมื่อก่อนเขมรแตก 3 ฝ่าย ทุกคนมาขอพึ่งแผ่นดินไทยหมด ผมอยู่กระทรวงต่างประเทศ ท่านประสงค์เป็นรัฐมนตรีฯ ต่างประเทศ พี่น้องเชื่อไหม วันนี้ไอ้ฮุน เซนมา วันรุ่งขึ้นกลุ่มซอนซานมา วันต่อสีหนุ รณฤทธิ์ มา วันต่อไปกลุ่มนู้นกลุ่มนี้มา เขมรแดงมา แต่ละกลุ่มแตกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า แล้วก็มาขอความช่วยเหลือจากประเทศไทย

วันนี้ฮุน เซน มา บอกพ่อตาแม่ยายมันจะมารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ขอประสาน ขออำนวยความสะดวก เราก็ให้ความสะดวกช่วยเหลือ วันนี้ไอ้พ่อตาแม่ยายคนนี้จะมาถอนฟัน เราก็อำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือ วันนี้ลูกมันจะมาเข้าเรียนหนังสืออยู่ที่นั่นที่นี่ กระทรวงต่างประเทศก็ประสานงานให้ความช่วยเหลือ รัฐบาลประเทศกัมพูชายังไม่มีเป็นตัวเป็นตน รัฐธรรมนูญก็ยังไม่มี เราก็ส่งนักวิชาการไทยไปช่วยร่างรัฐธรรมนูญให้ สหประชาชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เราก็ไปช่วยสังเกตการณ์เลือกตั้ง ช่วยจนกระทั่งมันตั้งเป็นประเทศขึ้นมาได้ คนพวกนี้ใส่รองเท้าแตะ ไม่มีราคาอะไรเลยในสายตา และคนไทยเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือชุบเลี้ยงมาทั้งนั้น แต่วันนี้ไฉนเวลามันกลับไป กลายเป็นพวกนายทหารไทย พวกนักการเมืองไทย นายไตรรงค์ หรือใครต่อใคร เวลาเจอฮุน เซน ทำเป็นอ้อมค้อม แหมถ้าเป็นผมอยาก ... สักที ตื้บสักที

เป็นรองนายกฯ ไทยน่ะ ยืนให้มันสง่าผ่าเผยสมศักดิ์ศรีหน่อยสิ เป็นทหารไทย เป็นนายกฯ ไทย ไอ้นี่มันขี้ข้าเก่าเรามาทั้งนั้น เอาล่ะเราไม่ไปยืนดูถูกเขา แต่มันก็ควรจะยืนอย่างสง่าผ่าเผย ไอ้บ้าเอ๊ย ไม่จำเป็นเลย เราให้เกียรติกันโดยสุภาพบุรุษก็พอแล้ว แล้วยังไปเรียกสมเด็จ นี่ลุงจำลองบอกว่าอย่าไปเรียกไอ้ฮุน เซน ว่าสมเด็จ ถ้าสมเด็จเดียรัจฉานน่ะเรียกได้ ไปเรียกมันทำไม เพราะฉะนั้นไอ้พวกที่ไปเรียกน่ะ ทหารไทยบางคน พวกหนีคดี พวกพ่อค้า พวกนายบ่อน พวกหากินในกัมพูชา ก็ต้องไปเอาอกเอาใจนายฮุน เซน เพราะอยากได้สัมปทาน อยากจะได้ประโยชน์ แต่ไม่จำเป็นที่คนไทยจะต้องไปก้มหัวให้ และคนที่เป็นรัฐบาล เป็นตัวแทนของรัฐไทย รัฐบาลไทย ก็ต้องมีเกียรติมีศักด์ศรี ในฐานะที่เราเป็นประเทศเอกราชด้วยกัน เราให้เกียรติในฐานะเป็นประเทศกัมพูชา ประเทศเล็ก เราไม่ไปดูถูก ไม่ไปตบหัวมันก็นับว่าบุญแล้ว

ฉะนั้นวันนี้ถามว่านายอภิสิทธิ์ คุณทำอะไรให้คนไทยภาคภูมิใจในตัวคุณบ้าง มีสักเรื่องไหมครับ ผมนับดู ผมพยายามจะมองหาว่าคุณทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์ในฐานะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา แผ่นดินคุณก็ยกให้เขา ทหารเขารุกเข้ามา ชุมชนเขาเข้ามาตั้ง คุณก็ไม่ขับไล่เขา คนไทยถูกจับ ขึ้นศาลกัมพูชา ตัดสินจนลงโทษจำคุก เราบอกให้ช่วยเหลือ ดำเนินมาตรการต่างๆ ไม่สนใจ ไม่ทำ แล้ววันนี้ที่อัปยศที่สุดคืออะไร ทนายของนายวีระ กับราตรี ที่กลุ่มเครือข่ายคนรักชาติเขาต้องถอน เพราะคนของรัฐบาลมันเข้าไปแทรก ไปซื้อ ไปเสี้ยมทนายของคนเหล่านั้นให้ทำตามแนวทางที่รัฐบาลต้องการ

แล้วผมรู้ด้วยว่าไอ้ผู้ใหญ่คนไหนมันเสือกเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมไม่อยากพูดชื่อ ทำงานรับใช้รัฐบาล อยากจะไปเกลี้ยกล่อมให้เขาขออภัยโทษ ไอ้ฮุน เซน มันก็รู้อยู่แล้วว่าวีระ กับราตรี ไม่มีวันจะก้มหัวขออภัยโทษมัน ฮุน เซน มันก็เลยบอกว่ารับโทษ 2 ใน 3 ก่อน

2 ใน 3 ห้าปี วีระบอก ไม่ต้องรอ วีระ เดี๋ยวประชาชนไทยเปลี่ยนรัฐบาลเมื่อไรจะไปบุกกัมพูชาเอาคุณออกมาจากคุกเอง

บอกฮุน เซน คุณจำไว้ ถ้ารัฐบาลไม่ใช่นายอภิสิทธิ์เมื่อไร มึงเตรียมตัวตายแล้วกัน วันนี้บอกตรงๆ ครับพี่น้อง คนไทยกับคนกัมพูชาต้องจับมือกันโค่นนายฮุน เซน คุณคอยดูฮุน เซน คุณจะไม่มีแผ่นดินอยู่ แล้วคุณจะเหมือนกับเผด็จการคนอื่นๆ ไม่ว่ามูบารัก ไม่ว่าตูนิเซีย คุณน่ะจะต้องโดนประชาชนกัมพูชาโค่นคุณแน่นอนครับ

และในวันนี้ คนกัมพูชาฟังเอาไว้ นายฮุน เซน มันโกงที่สุดในเอเชียเลยครับพี่น้องครับ ที่ดิน สัมปทาน ที่พ่อค้าไทย ไม่ว่าไปทำไร่อ้อย ไม่ว่าไปปลูกเกษตร หรือไม่ว่าไปทำสัญญาโรงแรมหรือบ่อน หรือทำห้างสรรพสินค้า ไอ้ฮุน เซน มันทำสัญญากับนักธุรกิจไทย นักธุรกิจต่างชาติ 99 ปีทั้งนั้นเลย คนกัมพูชารู้หรือเปล่า ในขณะที่จีนเพิ่งหลุดพ้น เกาะฮ่องกง มาเก๊าเพิ่งหลุดพ้นจากอาณานิคมอังกฤษ ฝรั่งเศส จำได้ไหมที่สนธิเล่าให้ฟังในวันที่มาการ์เร็ต แธตเชอร์ กับเติ้ง เสี่ยว ผิง มาเจรจากันเรื่องจะคืนเกาะอังกฤษให้กับเติ้ง เสี่ยว ผิง ให้กับจีน มาการ์เร็ต แธตเชอร์ และอังกฤษ ยังมีความอาลัยอาวรณ์อยากจะต่อสัญญาเช่าเกาะอังกฤษอยู่ เติ้ง เสี่ยว ผิง ซึ่งบอกล่ามแปลตรงๆ ช่วยบอกอีห่านี่หน่อยให้มันหุบปาก อันนี้คำพูดของเติ้ง เสี่ยว ผิง นะครับ ไม่ใช่คำพูดของผม และผมก็ถ่ายทอดมาจากคนจีนด้วย เขาบอกว่า ช่วยบอกคนนี้ด้วย บอกว่า (ขอโทษนะครับไม่ใช่คำด่าของผมด่าเขานะ) เติ้ง เสี่ยว ผิง ด่าว่าให้อีห่านี่หุบปาก คือด่ามาการ์เร็ต แธตเชอร์ นี่คือความหวงแหนในแผ่นดิน เอกราช และอธิปไตยของเขาขนาดไหน

กว่าจะหลุดพ้นจากมรดกบาปของลัทธิล่าอาณานิคม 99 ปี วันนี้คนกัมพูชารู้สำนึกไหม ฮุน เซน มันเอาประเทศกัมพูชา แผ่นดินกัมพูชา ไปขายเป็นดินแดนอาณานิคมให้นักลงทุนต่างชาติทุกประเทศเหมือนกันหมด 90 ปีเหมือนกันหมดเลย

คำถาม ทำไมฮุน เซน มันต้องไปทำสัญญา 90 ปี ก็เพราะว่าค่าแป๊ะเจี๊ยะไงครับ ค่าเช่า 10 ปี ปีละ 5 ล้าน มันก็ 50 ล้าน ถูกไหม ถ้า 90 ปี ปีละ 5 ล้าน มันก็ 450 ล้าน ทีนี้ค่าแป๊ะเจี๊ยะ หน้าดิน ค่าสัมปทาน ถ้า 10 ล้าน 90 ปี มันก็ 900 ล้าน มันทำสัญญาแต่ละรายมันกินเงินใต้โต๊ะไปหมด คนกัมพูชาไม่ได้อะไรเลย ไอ้ฮุน เซน กินล่วงหน้าไป 90 ปีแล้ว เพราะยังไงฮุน เซน มันก็อยู่ไม่ถึง 90 ปี มันตายก่อนแน่นอน มันก็ทิ้งมรดกบาปไว้ให้กับคนกัมพูชา

คนไทย นักธุรกิจไทย ถึงชอบไอ้ฮุน เซน ตรงนี้ไงครับ เพราะว่าไอ้ฮุน เซน มันก็เห็นแก่เงิน นักธุรกิจไทยก็บ้า เห็นแก่เงิน จนลืมชาติบ้านเมืองของตัวเอง

ส่วนทหารไทยบางคนที่หากินตามชายแดน พอเห็นพ่อค้าได้ประโยชน์อย่างนี้ก็เอาบ้าง บ้านเมืองมันก็เลยฉิบหายด้วยพ่อค้า ทหาร และนักการเมืองเลว 3 ประเภทนี้ล่ะครับที่มันทำให้เป็นปัญหา อุปสรรคในการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา

สำคัญนอกจากนั้นก็คือไอ้พวกนี้มันมีอำนาจ อิทธิพล เหนือรัฐบาล มันก็เข้ามาครอบงำควบคุมรัฐบาล เรื่องทั้งหมดมันมีแค่นี้ ที่ประเทศไทยของเรา มันถึงตกต่ำและอัปยศอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทีนี้ มาดูนายอภิสิทธิ์ เราก็นึกว่าเขาจะเป็นคนที่มีความคิด มีความอ่าน มีความสำนึกในความเป็นชาติของคนไทย ของประเทศไทย แต่ปรากฏว่าไม่มีอยู่ใน DNA เลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จะเป็นเพราะว่าไปเกิดอยู่ที่อังกฤษ ก็เลยรับ DNA ของพวกลัทธิล่าอาณานิคมมา ก็เลยไปสมคบกับฮุน เซน มาล่าอาณานิคมประเทศของตัวเอง ไม่เข้าใจจริงๆ

แล้วสุดท้ายพี่น้องเห็นหรือยังครับ ข้อตกลง 8 ข้อ มันมีที่ไหนครับ ผมไม่เข้าใจว่ามีนายกฯ ประเทศไหนมันจะโง่ขนาดนี้ ผมก็เกิดมาไม่เคยเจอเลยครับ ในขณะที่กัมพูชาเอากำลังเข้ามายึดดินแดนไทย 4.6 ตารางกิโลเมตร สร้างวัด สร้างฐาน สร้าง ตัดถนนขึ้นมา แล้วคุณให้ทหารไทย แม่ทัพภาคที่ 2 และเสนาธิการทหาร ไปเจรจาตกลงกับรองแม่ทัพบกของกัมพูชา และทำข้อตกลงหยุดยิง 8 ข้อได้อย่างไร โดยต่างฝ่ายจะไม่หยุด จะไม่ยิง จะไม่เคลื่อนกำลัง อาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดหนักเข้าไปอีกในพื้นที่ จะไม่สร้างสิ่งปลูกสร้างต่อไปอีกในพื้นที่ สรุปแล้วไม่มีข้อไหนเลยบอกให้กัมพูชาถอนออกจากแผ่นดินที่รุกรานเข้ามา ในแผ่นดินไทย โง่หรือฉลาดครับ

เพราะฉะนั้นไปทำอย่างนี้ไม่ได้ เมื่อเย็นนี้ผมก็กล่าวประณามไปแล้วว่า รัฐบาลจะไปทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะการที่จะปล่อยให้ทหารไปตกลงเจรจาอันมีผลให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดน ไปทำความตกลงอันเป็นผลกระทบต่อดินแดนและอธิปไตยของประเทศ มันต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ขณะนี้รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ฉบับ พ.ศ.2550 ยังคงใช้อยู่ และแม้รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 รัฐธรรมนูญที่แก้ไขก็ยังไม่ได้ประกาศใช้ ถึงประกาศใช้ เนื้อหาสาระที่ขอแก้ไข ก็ยังมีลักษณะ ก็คงหลักการเดิมทั้งสิ้น คือ ข้อตกลงใดที่จะไปทำสัญญากับต่างประเทศ แล้วมีผลกระทบต่ออธิปไตยและดินแดนของประเทศ จะต้องได้รับกรอบเจรจาจากสภา และขอความเห็นชอบมาให้ประชาชนรับฟังความคิดเห็น และขอความเห็นชอบจากสภาเสียก่อน จึงจะไปทำความตกลงได้

แต่ทันทีที่ปรากฏข่าวว่า แม่ทัพภาค 2 กับเสนาธิการกองทัพบกไปเจรจากับกัมพูชา นายอภิสิทธิ์พูดว่าอย่างไรครับ นายอภิสิทธิ์ออกมาให้สัมภาษณ์เลยพี่น้อง บอกว่า ก็เป็นการเจรจาตกลงที่เหมาะสม และทำได้ และเป็นประโยชน์ ไม่ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน ดูมันพูดสิครับ

ที่ผมจะชี้ให้พี่น้องฟังก็คือว่า พี่น้องครับ ไม่มีใครเรียนหนังสือ จบจากมหาวิทยาลัย แล้วเขามีหลักสูตรสถาบันนายกรัฐมนตรี ยังไม่มี แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่จะมาเป็นนักการเมือง มาเป็นนายกรัฐมนตรี มาเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นนักการเมือง ไม่ถึงขนาดเป็นนายกรัฐมนตรีหรอก ทุกคนต้องรู้หมดว่า เรื่องการเมืองและความตกลงระหว่างประเทศนั้น นายกฯ จะไปพูดพล่อยๆ สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นายกฯ จะไปพูดอะไรอันเป็นผลผูกพันระหว่างดินแดน ระหว่างอาณาเขต และอธิปไตยของประเทศไม่ได้ และการเจรจาความเมืองระหว่างประเทศหนึ่ง กับประเทศหนึ่งนั้น ต้องเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น

นี่ไม่ต้องเรียนมาจากที่ไหนเลย ใครก็รู้ ไม่ใช่ผมมาอวดดี มาสั่งสอนนายกฯ ใครเขาก็รู้ทั้งนั้น แต่ไฉนนายกรัฐมนตรีไทย พอแม่ทัพภาค 2 กับเสนาธิการทหารไปเจรจาปั๊บ ทำไมคุณสนับสนุนทันที และก็บอกว่าเป็นผลดี ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน ตกลงนี่คุณเรียนจากโรงเรียนอีต้ม หรือโรงเรียนอีตั้นกันแน่ จบจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดจริงหรือเปล่า ผมสงสัยในสติปัญญาของคุณจริงๆ คุณไม่มีพื้นฐานเลย นี่ไงครับพี่น้อง คนที่ไม่เคยบริหารบ้านเมือง ไม่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการ ไม่เคยทำงานการเมืองมาก่อน มันจะโง่และบกพร่อง และขาดประสบการณ์แบบนี้ล่ะ ที่ผมบอก
ไม่มีนายกฯ ผู้นำประเทศคนไหนเขาจะไปพูดเรื่องนี้พล่อยๆ แต่นายอภิสิทธิ์พูดเลย แล้ววันนี้เป็นอย่างไรครับ พอพูดเสร็จ มาดูรัฐมนตรีต่างประเทศ วันนี้ไปประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ อยู่ใกล้ๆ นี่ ถ.ศรีอยุธยา นี่ นายกษิตพูดว่าอย่างไร นายกษิต ภิรมย์ ให้สัมภาษณ์พูดว่าอย่างไร นายกษิต ภิรมย์ ให้สัมภาษณ์นี่เท่ากับตบหน้านายกฯ แล้วผมก็เพิ่งรู้ว่านายกษิต ภิรมย์ เอ๊ะ คุณเคยอยู่กระทรวงการต่างประเทศ พูดภาษากระทรวงต่างประเทศเป็นเหมือนกันแฮะ ผมนึกว่าเขาจะพูดไม่เป็น

นายกษิตบอกว่า นี่มันไม่ใช่การเจรจา แต่เป็นการพูดจาปรึกษาหารือและความเป็นไปได้ทั้งหลายที่คุยกันแล้วต้องมาเสนอระดับสูง เออ พูดเป็น ทำไมไม่สั่งสอนนายกฯ บักหำน้อยบ้าง ทำไมมันปากเสีย

เห็นไหมครับ ออกตัวแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศออกตัวแล้วว่านี่ไม่ใช่การเจรจา เพราะอะไร เพราะโดนพวกเราด่าไปเช็ดเลยเห็นไหม จะไปเจรจาได้อย่างไร ทหารไม่มีสิทธิ์ไปเจรจาเรื่องนี้ ต้องเป็นกระทรวงต่างประเทศ จะหยุดยิง จะตกลงหรือไม่ตกลง อย่างไร มันเป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศ และวันที่ 22 จะประชุมกันอยู่แล้ว ที่อินโดนีเซีย ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศไทยกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ที่เรียกว่าเป็นการเจรจาทวิภาคี แล้วมีอาเซียนมาเป็นสักขีพยาน แล้วนี่ทำไมสองคนเสือกทะลึ่งไปตกลง เจรจาหยุดยิงทำข้อตกลงเขามา 8 ข้อ วันนี้นายกษิตก็เลยต้องรีบออกตัวปฏิเสธ ว่านี่ไม่ใช่การเจรจา เป็นการพูดคุยกันเฉยๆ ไม่มีผลผูกมัดประเทศไทย ถ้าจะมีความตกลงใดๆ ต้องขออนุมัติในระดับสูง นั่นหมายถึง ครม. รัฐบาล เสียก่อน นี่ดีนะยังออกตัวทัน

แต่ผมไม่รู้ว่าไอ้ที่คุณเซ็นไปแล้วน่ะ คุณกษิต คุณเห็นหรือยัง 8 ข้อ คุณรีบเอามาฉีกทิ้งเดี๋ยวนี้ แล้วมาฉีกทิ้งต่อหน้าประชาชน

เพราะมิเช่นนั้นฝ่ายกัมพูชาก็จะเอาหลักฐานอันนี้ไปอ้างอิงในเวทีประชุมอาเซียน และเวทีระดับโลก ไทยก็เสียค่าโง่ และนายอภิสิทธิ์ก็เสียค่าโง่ ไอ้คนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง ไอ้คนหนึ่งไปเซ็นข้อตกลงกับเขา อีกคนหนึ่งมาปฏิเสธ ตกลงพวกคุณนี่มันทำงานคุ้มเงินภาษีประชาชนหรือเปล่า

ผมไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนมันจะอัปยศและแสดงความบ้องตื้น หรือแสดงความอ่อนด้อยทางปัญญาเท่ารัฐบาลนี้ ทำงานไม่มีความเป็นทีม ไม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีการทูตการเมืองในเชิงรุกอะไรเลย เหมือนกับที่ท่านอดีตทูตยูเอ็นเขาพูด คุณดอน ปรมัตถ์วินัย ผมรู้จักตั้งแต่สมัยที่ผมทำงานอยู่กระทรวงต่างประเทศแล้ว คุณดอนเป็นอธิบดีกรมอาเซียน เคยไปจีน แผ่นดินใหญ่ด้วยกัน ไปเจรจาทางการค้า พานักธุรกิจไทยไปดูเรื่องลู่ทางการลงทุน อย่างนี้เขาเรียกคนอย่างนี้คือเป็นนักการเมืองการทูตที่เอาประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้งครับ

คือจิตวิญญา เลือดเนื้อของคนกระทรวงต่างประเทศที่ถูกอบรมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เขาให้ยึดเอาประโยชน์ชาติและประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง สิ่งใดถ้าพูดแล้วจะทำให้เสียประโยชน์ต่อชาติ เสียประโยชน์ต่อประชาชน ต้องหุบปาก อย่าพูด อันนี้ควรจะเอาไปอบรมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะไปติวเข้าคอร์ส หลักสูตรการเมืองการทูตที่กระทรวงต่างประเทศ สัก 3 วัน 3 คืน อย่าให้มันออกจากห้อง ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ

ก็เหมือนที่คนไทยถูกจับ มันพูดเลยว่าถูกจับในดินแดนกัมพูชา ไอ้นี่ก็บ้า โง่อีกครับพี่น้อง ไม่มีนายกฯ ที่ไหนประเทศไหนจะพูดปรักปรำประชาชนพลเมืองของประเทศตน แสดงว่ามันไม่ได้เรียนการเมืองการทูต ไม่ได้รู้อะไรเลย เขาเรียกว่าอ่อนด้อยประสบการณ์ เห็นไหมครับ ความละอ่อนมันทำให้เสียหายกับบ้านเมือง

ตรงข้ามกับฮุน เซน มันเก๋ามาก ทีมงานมันเป็นแผงเลย มันเล่นลูกนี้ยื่นยูเอ็นเสร็จ จะประชุมอาเซียน มันเตรียมยื่นข้อเสนอ จะประชุมวันพรุ่งนี้ มันมาแล้ว เป็นชุดๆ เป็นทีม ไอ้นี่ยังวิ่งไล่แก้ปัญหาตลอด และก็ไปคนละทิศละทาง ทีมฟุตบอลมันเตะกันคนละทิศละทางครับพี่น้องครับ ไม่เข้าใจจริงๆ

เพราะฉะนั้น กษิตนี่รีบมาออกตัว แต่ว่าคุณกษิต คุณต้องไปเอาอะไรไปลูบปากบักหำน้อยก่อน แล้วบิดปากมันให้มันกลับคำพูดใหม่ ว่าทีหลังเป็นนายกฯ อย่าทะลึ่งปากพล่อยพูดง่ายๆ

วันนี้คุณกษิตก็พูดต่อมา ให้สัมภาษณ์ต่อมาว่า เขาเสนอ.. ไอ้นี่ล่ะที่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณกษิต คุณจำไว้ เขาบอกว่าในการประชุมอาเซียนจะมีการเสนอให้มีตัวแทนเข้ามาสังเกตการณ์อยู่ฝ่ายกองกำลังฝ่ายไทย ดูว่าเราตอบโต้หรือใครยิงก่อน ไม่ยิงก่อน ผมว่านี่คุณก็บ้าแล้ว ไอ้นี่ก็บ้าแล้วอีกอันหนึ่ง คือดีอย่างหนึ่งแต่บ้าอีกอย่างหนึ่ง

เรื่องอะไรไปเอาอาเซียนเข้ามาเกี่ยว ไม่ต้องมาสังเกตการณ์ ถ้ามันยิงมาหรือมันรุกมา กูยิงแม่งกลับไปเลย ไม่ต้องไปฟังใคร จะเอามาทำไมอาเซียน มานั่งสังเกตการณ์ เท่ากับคุณไปดึงประเทศอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวทำไม เรื่องระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา คุณไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาด้วยตัวคุณเองเหรอ

เพราะฉะนั้น นี่ประเด็นที่ 2 คุณพูดดีในประเด็นแรก แต่ประเด็นที่ 2 ที่จะเอาอาเซียนเข้ามาน่ะ ไม่ถูกต้อง ส่วนข้อเสนอเรื่องหยุดยิง คุณพูดถูก คุณกษิต คุณบอกว่าคนเหล่านั้น 2 แม่ทัพนั้นไปเจรจาเรื่องหยุดยิงนั้น คุณกษิตบอกว่า ไม่จำเป็น ข้อเสนอหยุดยิงไม่จำเป็น อันนี้ถูกต้องแล้ว จะไปทะลึ่งไปเสนอหยุดยิงทำไม มันต้องบอกว่ากูพร้อมจะยิงถ้าใครก็ตามรุกล้ำเข้ามาดินแดนไทยแม้แต่ 1 ตารางนิ้วเดียว จะไปเสนอหยุดยิงทำไม มันต้องเรียกกัมพูชามาเสนอ ลงนามข้อตกลงว่า กูกับมึงพร้อมจะยิงกันถ้ามึงรุกล้ำเข้ามา มันต้องอย่างนั้น ไม่ใช่ไปทำข้อเสนอหยุดยิง

การเจรจาในระดับนี้มันมี 3 ระดับครับ ในระดับพื้นที่ ระดับแม่ทัพภาค เขาเรียกว่า การเจรจาในระดับ RBC คือเป็นการเจรจาในระดับของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-เขมร ฝั่งเราก็มีแม่ทัพ ฝั่งเขาก็มีแม่ทัพภูมิภาคที่อยู่ตรงนั้น กรรมการชุดที่ 2 เขาเรียกว่าคณะกรรมการชายแดนทั่วไป มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน คือรัฐมนตรีกลาโหมของเราเป็นประธาน รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา เตีย บัญห์ เป็นประธาน เขาเรียกคณะกรรมการว่า GBC หรือว่า General Border Committee กรรมการชุดที่ 3 เป็นกรรมการ JBC ที่เรียกว่า Joint Border Committee ที่มีฝ่ายไทยเป็นประธานคนหนึ่ง และฝ่ายกัมพูชาก็มีนายฮอร์ นัมฮง หรือวา คิมฮง เป็นประธานคนหนึ่ง

ส่วนการเจรจาระดับสูงขึ้นมาก็เป็นการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศเรากับรัฐมนตรีต่างประเทศเขา ถ้าเป็นการเจรจาระดับสูงขึ้นไป เป็นระดับสุดยอด ก็คือการเจรจาระดับผู้นำประเทศ คือนายกฯ ต่อนายกฯ นี่คือการเจรจาที่ไล่มาสู่ระดับสูงสุด ให้ความรู้พี่น้อง พี่น้องจะได้รู้ว่าเวทีเจรจาแต่ละแห่งนั้น มันมีขอบเขตความรับผิดชอบต่างกัน

เวทีเจรจาระดับแม่ทัพพภาคนั้น จะเจรจาตกลงอะไรได้ต้องได้รับกรอบอนุมัติจากฝ่ายนโยบาย คือรัฐมนตรีกลาโหม และนายกรัฐมนตรีเสียก่อน และเมื่อไปเจรจา คุยกันแล้ว จะไปลงนามยังไม่ได้ ต้องมาขอความเห็นชอบจากระดับสูง ผ่าน ครม.ถ้าเป็นเรื่องต้องขอความเห็นชอบจาก ครม. ถ้าเป็นเรื่องต้องเข้าสภาเพื่อขอความเห็นชอบจากสภา ในเรื่องที่เป็นสัญญาหรือข้อตกลงที่มีผลกระทบต่ออธิปไตย ก็ต้องเข้าสภาผู้แทนฯ ตามรัฐธรรมนูญ นี่ผมให้ความรู้พ่อแม่พี่น้องว่า วันนี้พี่น้องชาวไร่ชาวนา ตาสีตาสา ก็ด่านายกฯ ได้ ถ้ามันโง่ เสือกไปตกลงรับปากมาชุ่ยๆ โดยยังไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง

เพราะฉะนั้นวันนี้ ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ ข้อตกลง 8 ข้อที่แม่ทัพภาค 2 กับเสนาธิการทหารบก ไปทำความตกลงกับเขานั้น ถ้าคุณยืนยันว่ามันไม่มีผลตกลงตามกฎหมาย คุณต้องเอามาฉีกทิ้งให้ประชาชนเห็นเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกัมพูชาจะเอาไปอ้าง และก็จะเป็นปัญหากับชาติบ้านเมืองต่อไปอีก ว่าพวกคุณขยันโง่และสร้างหลักฐานให้กัมพูชาไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้นจริงๆ เลย

นี่คือความอ่อนด้อย อ่อนหัด ของคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ เป็นเด็กวานซืน แต่ทะลึ่งอยากเป็นใหญ่เป็นโต อยากจะเป็นนายกฯ แต่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าการจะบริหารประเทศแต่ละเรื่องแต่ละด้านเป็นอย่างไร เมื่อเราได้นายกฯ ที่อ่อนหัดไร้เดียงสามาปกครองประเทศ มันก็ขายขี้หน้า ขายโง่ และเสียรู้ และสร้างความเสียหายให้กับประเทศแบบนี้ล่ะครับ

เรื่องอื่นไม่นับรวมเลยครับ ว่าเรื่องทางเศรษฐกิจ นายอภิสิทธฺ์ก็ทำอะไรไม่สำเร็จสักเรื่องเดียวครับ ผมจะบอกให้ เรื่องน้ำมันปาล์มพูดไปแล้ว เรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคทุกตัวจะขึ้นราคาหมด เรื่องขายไข่ชั่งกิโลขายก็หน้าแตก เขาเอาไข่ปาหน้าไปเรียบร้อยแล้ว หุบปากแล้ว ไม่กล้าพูดถึงแล้ว เรื่องปัญหาภาคใต้ โอ้โห วันนี้พี่น้อง ดูปัญหาภาคใต้พอๆ กับดูปัญหาที่อิรัก คาร์บอมบ์นี่เป็นเรื่องที่เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองเลย ผมถามซิเขามีเรื่องอะไรที่เขาทำสำเร็จสักเรื่องไหม

เรื่องการแก้ไขปัญหาการเมือง ความไม่สงบเรียบร้อย ปัญหาทางการเมืองของประชาชน ก็ไม่คุ้มครอง ไม่รักษาสิทธิประชาชน วันนี้ผมไปเจอเจ้าของห้างเซ็นเตอร์วัน เขาโดนไฟไหม้ ไฟเผา ห้างของเขาเสียหายหมดเลย รัฐบาลช่วยผู้ประกอบการค้ารายละ 10,000-50,000 แต่เจ้าของห้างไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย บริษัทประกันภัยก็ไม่ยอมจ่ายให้ อ้างว่าเป็นเหตุจลาจล ก่อการร้าย เขาต้องช่วยตัวเองอย่างเดียว นายอภิสิทธิ์แก้ปัญหาได้อย่างเดียว คือไปคุยปลอบใจว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาหาทางช่วยเหลืออยู่ ใจเย็นๆ นะครับ ผมไม่ทอดทิ้งท่าน อย่างนั้นอย่างนี้ มันพูดจนเขาอยากจะถุยน้ำลายใส่หน้าเอาแล้วครับ

ผ่านมาปีกว่า ยังไม่มีอะไรดีขึ้น จนวันนี้เขาต้องไปกู้เงินแบงก์มาสร้างห้างเอง ต้องรับภาระหนี้ แก้ปัญหาด้วยตัวเองทั้งนั้น เขาแก้ปัญหาโดยดูดายและทอดทิ้งประชาชนให้รับชะตากรรมโดยลำพังทั้งสิ้น ไม่มีเรื่องไหนที่ทำสำเร็จสักอย่าง

ผมคิดว่ามาถึงวันนี้ ผมพูดกับนายอภิสิทธิ์มา และพูดกับรัฐบาลนี้มา ผมคิดว่ามันน่าจะมากพอแล้ว เหลืออีก 2 พรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นที่ผมยังไม่พูดถึง คือพรรคภูมิใจไทย กับพรรคชาติไทยพัฒนา ครับ

และถ้าพูดถึง 2 พรรคนี้เมื่อไหร่นะพี่น้องจะยิ่งสลบ เป็นลมตายไปเลยครับ ว่านายอภิสิทธิ์นั้นบริหารชาติบ้านเมืองเพื่อนำชาติบ้านเมืองไปสู่ความล่มจมโดยแท้ การทุจริตคดโกงในสุวรรณภูมิ เดี๋ยวผมจะรวบรวมมาให้หมด ว่ามันอัปยศขนาดไหน การประมูลรถไฟฟ้า การประมูลโทรศัพท์ 3จี การหากินโดยการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ การประมูลเครื่องคอมพิวเตอร์ การประมูลพวกบัตรประชาชน ทั้งหลาย สมาร์ทการ์ดทั้งหลาย โอ้โห กินมโหฬาร และที่สำคัญคือที่สุวรรณภูมิ และกระทรวงคมนาคม ถนนหนทางที่ตัด อยู่ในอำนาจของพรรคภูมิใจไทย สวาปามเต็มๆ ครับ

ส่วนพรรคชาติไทยฯ ก็ไม่น้อยหน้า สรุปแล้วทุกคนมีความสุขหมดภายใต้รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ นายอภิสิทธิ์เขาอยากให้คุณอยู่นานๆ พวกนี้ อยากให้คุณอยู่นานๆ เพราะเขาหากินสะดวก ขณะเดียวกันคุณก็จะได้ตายทีละเล็กทีละน้อย พรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้ตาย เสื่อมลงไปทีละเล็กละน้อย

ถึงเวลาเลือกตั้ง พวกนั้นมันอยากให้คุณอยู่นานๆ เพราะว่าพอไปเลือกตั้ง ถึงเดือนธันวาฯ พอเลือกตั้งเสร็จไม่นาน พวก 111 คน จะได้กลับเข้ามา มันก็จะให้ลูกน้องมันบางคนลาออก เพื่อให้ลูกพี่บางคนเลือกตั้งซ่อมแทน มันก็จะเตะคุณออกไปไกลๆ เลยครับ

และแต่ละพรรคมีเงินเป็นหมื่นๆ ล้าน ทุกพรรคครับ ที่ร่วมรัฐบาลชุดนี้ ไม่มีพรรคไหนโกงต่ำกว่าหมื่นล้าน เอาอย่างนี้แล้วกันครับ หมื่นล้าน 5 หมื่นล้าน เกือบจะแสนล้านก็มี บางพรรค หรืออาจจะทะลุแสนไปแล้ว พี่น้องดูสิครับ บ้านเมืองมันจะอยู่ได้อย่างไรครับ นี่คือความอัปยศของประเทศเราภายใต้การปกครองของนายอภิสิทธิ์ และขอถามพี่น้องประชาชนครับ เราจะเอานายคนนี้ไว้ทำไม ผมไม่เข้าใจเลย

เพราะฉะนั้น พ่อแม่พี่น้องครับ ถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่ออกมาช่วยกัน เราเสียแผ่นดินแน่ ถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่ออกมาช่วยกัน เราสิ้นชาติแน่ ถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่ออกมาช่วยกัน ประเทศเราล่มสลาย ล่มจมแน่ ถ้าพ่อแม่พี่น้องประชาชนไม่ออกมาช่วยกัน วันนี้ข้อสรุปของพวกเราผมคิดว่ามาถึงจุดชัดเจนแล้วครับ ไล่กัมพูชาออกไปจากแผ่นดิน ไล่ทหารกัมพูชาที่ยึดครองแผ่นดินเรานั้น ไล่ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ไล่นายอภิสิทธิ์ออกจากแผ่นดินเสียก่อน ถ้าไม่ไล่รัฐบาลนี้ออกกจากแผ่นดินเสียก่อน เราไม่มีวันที่จะแก้ไขปัญหาอธิปไตยเราได้เลย เพราะคนที่หากินกับประโยชน์กับกัมพูชา และหากินอยู่ตลอดแนวชายแดน เกาะชายหลังนายอภิสิทธิ์ทั้งนั้นเลยครับ รัฐบาลอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ จึงเป็นตัวแทนของกลุ่มอำนาจและทุนสามานย์ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา

ปัญหาก็คือ เราจะจัดการกับนายอภิสิทธิ์อย่างไร นี่คือโจทย์ใหญ่และคือการบ้านของเราครับ พรุ่งนี้บ่ายโมงคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินคงต้องหารือกันเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมที่เราชุมนุมาถึงวันนี้ 25-26 วันแล้ว จะ 27 แล้วใช่ไหม เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องประชุมและประเมินสถานการณ์ เพื่อจะกำหนดบทบาทและท่าทีของพวกเราต่อไป

และวันนี้ พวกเราไม่ได้หวาดกลัวและวิตกอะไรเลยต่อพระราชบัญญัติความมั่นคง นายอภิสิทธิ์ คุณจำเอาไว้ คุณนี่ได้ทำความเลวแบบครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่นายกฯ ไทยเคยทำมา กับคนรักชาติ กับประชาชนที่มาต่อสู้ปกป้องแผ่นดิน คุณก็ยังสามารถที่จะให้ตำรวจออกหมายเรียก หมายจับ เพื่อจะกลั่นแกล้งเล่นงานพี่น้องประชาชนได้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจของคุณยังมีความเป็นคนเหลืออยู่หรือเปล่า คุณยังมีวิญญาณของความป็นมนุษย์เหลืออยู่หรือเปล่า

ผมท้าได้เลยว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าคุณไม่กลับเนื้อกลับตัวนะ ชาติตระกูลของคุณ ต้นตระกูลของคุณ เวชชาชีวะ จะจมธรณีไปกับความอัปยศของคุณอย่างแน่นอน ใครก็ตามที่เป็นญาติพี่น้องและร่วมสายสกุลเวชชาชีวะ ถ้าพวกคุณยังอยู่นิ่งเฉย และปล่อยให้นายอภิสิทธิ์หน้าด้านอยู่ในตำแหน่งอย่างนี้ต่อไป โดยที่คุณไม่หาทาง ที่จะให้เขาถอนตัวออกจากตำแหน่งเสีย ถือว่าทั้งโคตรเหง้าตระกูลคุณสมคบกันทำความชั่วกับแผ่นดินครับ

คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาอ้างเหตุผลใดๆ เลย และเหนืออื่นใด ท่านพูดไม่ได้ และท่านปฏิเสธไม่ได้หรอก หลายคนบอกว่า อย่าไปพูดถึงพ่อท่าน ถึงพ่อของนายอภิสิทธิ์ ผมนี่ล่ะจะพูด ขอผมคนเดียว ทำไมผมต้องพูดถึงพ่อนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ใช่เพราะคุณเหรอที่กระสันอยากให้คุณเป็นนายกฯ บ้านเมืองมันถึงได้ฉิบหายอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะพ่อคุณเหรอ ที่เอาคุณไปฝากไว้กับนายชวน หลีกภัย ขอให้ช่วยสนับสนุนลูกคุณเป็นนายกฯ ไม่ใช่เพราะพ่อคุณเหรอ และไม่ใช่เพราะพ่อคุณเหรอ ที่เดินสายล็อบบี้สื่อมวลชน นักวิชาการ ให้มาช่วยลูกคุณทั้งที่ลูกคุณทำความเลวอัปยศกับแผ่นดินขนาดนี้

ผมไม่สนใจเลย ว่าพ่อคุณจะเป็นใคร แต่ถ้าพ่อคุณตามใจลูกแบบเสียๆ อย่างนี้ พ่อคุณก็ไม่ใช่คนที่ดีที่ผมควรจะเคารพนับถือ

พ่อที่ดี ต้องรู้ว่าลูกกำลังทำความเสียหาย กำลังเดินไปสู่หุบเหวแห่งความหายนะ กำลังพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความล่มจม กำลังจะสร้างความเสียหายให้กับคนไทยทั้งชาติ พ่อที่ดีและรักลูกจะต้องดึงลูกออกมาจากปลัก หุบเหวแห่งความหายนะนั้น ถูกไหมครับ

และผมก็รู้ด้วยว่าพ่อคุณชื่นชมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาก และรู้สึกว่าพ่อคุณเป็นหนี้บุญคุณนายสุเทพมาก ที่ทำให้คุณได้เป็นนายกฯ พ่อคุณดีหรือเลว สาธารณชนพิจารณาเอาเอง

ผมขอพูด เพราะผมไม่เกรงใจคุณเนื่องจากว่าคุณเป็นนายกฯ และคุณกำลังทำความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุดต่อชาติบ้านเมือง อย่างที่ไม่เคยมีนายกฯ คนไหนทำมาก่อน และครอบครัวของคุณไม่ได้อนาทรร้อนใจกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ในขณะที่คนทั้งแผ่นดินเขาเดือดร้อน เขาไม่พอใจ กับการบริหารชาติบ้านเมืองของลูกชายคุณ ลูกชายคุณทำให้คนฉิบหายทั้งบ้านทั้งเมือง ธุรกิจเขาเจ๊งเสียหายหมด ไฟไหม้ราชประสงค์เสียหายไปกี่แสนล้าน เศรษฐกิจทุกวันนี้ย่อยยับ สินค้าราคาแพง แผ่นดินก็เสีย ปักษ์ใต้ก็ลุกเป็นไฟ แล้วยังมีความสุขดีอยู่หรือที่ได้นั่งบนกองเพลิงและความหายนะของคนทั้งชาติ

ถ้าคุณเป็นคนที่มีชาติตระกูลจริง คุณต้องมียางอาย ต้องมีสำนึก ต้องรู้ว่าวันนี้คุณทำความเสียหาย ทำความผิดพลาดแล้ว ไม่ใช่มาหน้าด้านแล้วมาเถียงฉอดๆๆๆ เถียงคุณคนเดียว ยังเอาวงศาคณาญาติมาช่วยเถียงด้วย ผมต้องประณามนะครับ

ผมบอกว่าวันนี้คนในตระกูลเวชชาชีวะทุกคน ถ้าคุณไม่กระชากนายอภิสิทธิ์ลงมาจากตำแหน่งนายกฯ นะ พวกคุณทั้งหมดผมเชื่อได้เลยว่าคุณเดินถนนในประเทศไทยไม่ได้แน่ครับพี่น้อง เพราะการเมืองมันต้องเปลี่ยนแปลง จอมพลถนอม จอมพลประพาส เมื่อวันที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ลุกขึ้นเรียกร้องประชาธิปไตย ท่านก็ลาออก และถวายบังคมลาออก สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในแผ่นดินไทยได้โดยที่คนไทยให้อภัย พล.อ.สุจินดา คราประยูร ประชาชนคัดค้านการสืบทอดอำนาจ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองได้กลับมาเป็นนายกฯ ประชาชนชุมนุมไปทั่ว เกิดการจลาจล เขาลาออก ถวายบังคมลาออก แสดงความรับผิดชอบ เขาก็อยู่อย่างมีความสุข ในวันนี้คนไทยก็ให้อภัย

มีใครบ้างที่เขาหน้าด้านอย่างคุณ เอาล่ะ นายสมัครนั้นก็ถือว่าศาลช่วย เขาก็ไปแล้ว แต่คุณนี่ วันนี้ประชาชนเรียกร้องให้คุณรับผิดชอบ คุณยังไม่แสดงความรับผิดชอบเลย ทั้งๆ ที่คุณทำความหายนะมากกว่าจอมพลถนอม รวมจอมพลประพาส รวม พล.อ.สุจินดา รวมนายสมัคร ความเสียหายที่คุณก่อกับชาติบ้านเมืองมันมากกว่านายกฯ ทุกๆ คนรวมกัน คุณยังไม่สำนึกเลย ผมถึงบอกว่าวันนี้คุณควรจะจบชีวิตทางการเมืองได้แล้ว แล้วอย่าไปเอานักวิชาการกำมะลอทั้งหลาย นักวิชาการที่ขายชาติทั้งหลาย มาประจบสอพลอ สอพลอแล้วเถียงแทนคุณ เพราะมันจะฉุดลากคุณลงขุมนรกทั้งนั้นครับ

พี่น้องครับ วันนี้ผมขอพูดแต่เพียงเท่านี้ก่อน เพราะว่าผมตื้นตันใจกับพี่น้องไทยและประเทศไทย นึกไม่ถึงว่าเรามีอายุมาถึงทุกวันนี้แล้ว จะต้องมาเจอกับคนประเภทนี้อีก นึกไม่ถึงว่าบ้านเมืองจะมีสิ่งเหล่านี้หลงเหลืออยู่ ผมไม่รู้ว่าประเทศชาติบ้านเมืองของเรามันจะอยู่อย่างไรถ้ายังปล่อยให้นักการเมืองพวกนี้ปกครองประเทศต่อไป

ผมก็ได้แต่ภาวนาว่า พระสยามเทวาธิราชและแผ่นดินนี้มันคงจะศักดิ์สิทธิ์ น่าจะได้ลงโทษคนเลวคนชั่วพวกนี้เสียที ถ้าผมยังไม่ตาย ถ้าชีวิตนี้ผมยังไม่ตาย และถ้าผมมีวาสนานะ ผมจะล้างพวกนักการเมืองชั่วพวกนี้ให้ตายให้หมดเลยครับ ผมสัญญากับพี่น้องว่า ถ้าผมมีโอกาสได้ทำงานรับใช้บ้านเมือง ผมจะไม่เอาไว้ทำพันธุ์แม้แต่คนเดียวเลยครับ

พี่น้องครับ เมื่อคืนผมได้ร้องเพลงแผ่นดินของเรา แต่ที่ผมร้องไปนั้นมันเป็นเพลงในเวอร์ชั่นอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ก็ปรากฏว่ามีท่านผู้รู้ได้ส่งข้อความมาในเฟสบุ๊คผม ว่าเพลงแผ่นดินของเราที่คุณประพันธ์ร้องเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เพลงที่ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ สนิทวงศ์ บุนนาค หรือท่านผู้หญิงมณีรัตน์ ท่านผู้หญิงหม่อมหลวง รู้สึกมีคนบอกผมว่าท่านเป็นหม่อมหลวงด้วย มณีรัตน์ สนิทวงศ์ บุนนาค เป็นผู้ประพันธ์คำร้อง มันเป็นคนละเวอร์ชั่น แต่เนื้อหาดี เข้าใจว่าน่าจะเป็นของคุณสุรพล โทณวณิก แต่ว่าเพลงแผ่นดินของเรานั้นมีจริงครับ เป็นอีกเนื้อหาหนึ่ง และก็เพราะมาก ผมได้ไปสืบค้นมา ต้องขอบคุณท่านอาจารย์ที่ได้กรุณาให้รายละเอียดมา ผมจึงไปสืบค้นก็ได้ข้อมูลมาว่า เพลงแผ่นดินของเรานั้น เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่อยู่ในเนื้อหาอีกแบบหนึ่ง แต่ชื่อมาตรงกับที่ผมร้อง

เพลงนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ขึ้นในช่วงที่ท่านไปรอรับเจ้าหญิงอเล็กซานดรา แห่งเพนส์ ของสหราชอาณาจักร ระหว่างที่รอเครื่องบินลง จากดอนเมือง เมื่อปี 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ขึ้นมา ชื่อเพลงว่า อเล็กซานดรา เป็นเพลงซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ Alexandra, welcome to thee, here in this land of sunshine and of flowers. May ye be blessed by the blessing, that has made our country happy. นี่คือเนื้อภาษาอังกฤษ ท่านพระราชนิพนธ์เสร็จก็ส่งให้ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อส่งให้ไปทำเป็นโน้ตเพลง

หลังจากนั้นในปี 2516 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงมีพระราชดำริว่า ท่วงทำนองเพลงพระราชนิพนธ์อเล็กซานดรา (เดี๋ยวถ้ามีภาพ ขึ้นภาพเจ้าหญิงอเล็กซานดรา) เป็นเพลงที่ไพเราะ และน่าใส่คำร้องและทำนองภาษาไทย จึงกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระบรมราชานุญาต ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ประพันธ์คำร้องเป็นภาษาไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ทรงพิจารณาเห็นว่าเพลงอเล็กซานดรา มีเพียง 16 ห้องเพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพิ่มเติม โดยมีท่อนกลางและท่อนท้ายจนจบ 32 ห้องเพลง

เพลงนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ และให้ทำนอง และทรงเล่นเปียโนด้วยพระองค์ท่านเอง ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ก็มาประพันธ์คำร้องเป็นภาษาไทย ในเพลงนี้ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่แต่งในวันที่ไปต้อนรับเจ้าหญิงอเล็กซานดรา ซึ่งเป็นเจ้าหญิงแห่งเพนส์ (***) ของสหราชอาณาจักร วันนี้ผมก็เลยเอาเพลงแผ่นดินของเรา มาเชิญพี่น้องร่วมร้องด้วยกัน ซึ่งเพลงนี้เพราะมากครับ

(ร้องเพลงแผ่นดินของเรา)

เป็นเพลงที่มีความหมายมากครับ เราต้องรวมพี่รวมน้องเทิดทูนเมืองไทยนั้นให้ยืนยง นี่เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นะครับ และเนื้อร้องภาษาไทยโดยท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค

เอาล่ะครับ วันนี้ก่อนที่ผมจะจากไป ผมมีเพื่อนมารายงานตัวกับพี่น้องคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้พี่สนธิถามถึง แล้ววันนี้เขาขอมากราบคารวะจิตใจพ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน ว่าเขายังเป็นคนไทยที่มีจิตใจรักชาติร่วมกับพี่น้องอยู่นะครับ ขอให้โอกาสและให้เกียรติหรั่ง ร็อกเคสตร้า มาร่วมร้องเพลงรักชาติกับพวกเราด้วยครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น