ส.ว.ขอนแก่น ปูด 8 เดือนก่อน พ่อค้าหัวคะแนนนักการเมืองใหญ่ภาคใต้ ส่งออกน้ำมันปาล์มไปเก็บไว้ที่ไซโลสิงคโปร์ เพราะประเมินฝนแล้ง จะทำผลผลิตตกต่ำ ทำให้น้ำมันปาล์มในประเทศขาดแคลน แม้พาณิชย์ให้ขึ้นราคาได้ ก็ยังมีพ่อค้ากักตุน เพื่อเก็งกำไรสมประโยชน์เด็กนักการเมือง จี้ถาม “เทพเทือก” หากนำเข้าจะสั่งซื้อจากใคร เกี่ยวข้องกับพ่อค้าที่เป็นหัวคะแนนนักการเมืองใหญ่ภาคใต้หรือไม่ พร้อมเรียกร้องรัฐบาลเอาจริงลากคอคนผิดมาลงโทษ
นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธุ์ ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เปิดเผยว่า เป็นห่วงประชาชนทั่วประเทศที่ต้องบริโภคน้ำมันปาล์มแพง และยังขาดตลาด ซึ่งคล้ายกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสมัย 2 จอมพล กับ 1 พันเอก บริหารประเทศ ที่เกิดข้าวสารแพงและขาดตลาด ทั้งที่ประเทศไทยเป็นแหล่งปลูกข้าวของโลก โดยพันเอกคนดังกล่าวคาดโทษว่าพ่อค้าคนใดกักตุนข้าวจะถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างรุนแรง แต่วิกฤตครั้งนั้นทำให้ประชาชนต้องนำทะเบียนบ้านไปแสดงต่อผู้ค้าข้าวจึงจะได้รับส่วนแบ่งตามจำนวนสมาชิกในบ้านนั้น
นายประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อ 8 เดือนก่อน มีพ่อค้าที่เป็นหัวคะแนนของนักการเมืองใหญ่ทางใต้ส่งออกน้ำมันปาล์มในราคาที่ถูกไปเก็บไซโลที่สิงคโปร์เป็นจำนวนมาก เพราะรู้ว่าภาวะฝนแล้งต่อเนื่อง จะทำให้น้ำมันปาล์มขาดแคลน เมื่อกระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้น้ำมันปาล์มขึ้นราคา ทันทีที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนที่น้ำมันปาล์มจะพอใช้ กลับมีการกักตุนเพื่อเก็งกำไรในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้สมประโยชน์ของพ่อค้าหัวใสคนดังกล่าว ทั้งนี้ ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ จะพิจารณานำเข้าอีก 120,000 ตัน จึงอยากถามว่าสั่งซื้อจากใคร เกี่ยวข้องกับพ่อค้าคนดังกล่าวหรือไม่ แต่ในระยะเวลาดังกล่าวผลปาล์มของชาวไร่จะออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือน มี.ค.-พ.ค.ก็จะทำให้เกษตรกรที่ปลูกปาล์มเดือดร้อน เพราะขายไม่ได้ราคา และรัฐบาลต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย
ส่วนการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร รัฐต้องทำลายอำนาจผูกขาดของพ่อค้าคนกลางที่ผูกพันกับนักการเมือง และต้องประกันพืชผลกรณีฝนแล้ง รวมถึงต้องส่งเสริมผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น นายกฯต้องเอาจริง ใครทำผิดต้องลงโทษ อย่าทำแบบลูบหน้าปะจมูก ใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเครื่องซักฟอก