“จำลอง” ชี้ทหารลงนามหยุดยิงเสี่ยงเสียดินแดนถาวร ชี้ถ้ารัฐยึด 3 แนวทางจะทวงดินแดนคืนสำเร็จโดยไม่ต้องมีสงคราม แต่ใช้อำนาจต่อรองด้านเศรษฐกิจ-กองทัพกดดัน ชูแขมร์ฉลาด ถามกองทัพสะสมยุทโธปกรณ์เพื่ออะไร ซัดสุดโง่ ท้า “มาร์ค” ลงพื้นที่พระวิหาร เป็นของไทยหรือไม่ ชี้นโยบายรัฐอ่อนด้อยเพราะกลัวพวกพ้องเสียประโยชน์
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการที่ทหารไทยลงนามหยุดยิงกับกัมพูชาว่า ถือเป็นเรื่องที่อันตรายร้ายแรงอย่างยิ่งต่อการสูญเสียดินแดนอย่างถาวร โดยวัตถุประสงค์การชุมนุม คือ 1.ยกเลิก MOU 2543 2.ถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก และ 3.ผลักดันชุมชนและกองกำลังกัมพูชาออกจากดินแดนไทย ซึ่งหากรัฐบาลทำตามนี้จะสามารถนำดินแดนที่เสียไปแล้วกลับคืนมาได้ ไม่จำเป็นต้องมีสงคราม เพียงแต่ใช้ความฉลาดในการนำอำนาจการต่อรองที่มีอยู่ทั้งด้านเศรษฐกิจหรือกองทัพ มากดดันบีบคั้นให้กัมพูชาทำตามที่เราต้องการ หากรัฐบาลยังมีนโยบายแบบนี้ก็ตกเป็นเบี้ยล่างต่อไป ยอมเสียดินแดนทั้งที่มีอำนาจการต่อรองที่เหนือกว่ามากมาย กัมพูชาฉลาดกว่าเรามาก เขาเห็นว่ากองทัพสู้เราไม่ได้ จึงออกข้อตกลงเหล่านี้ออกมา เมื่อไปยอมตามเขาแล้วก็เท่ากับไม่มีกองทัพ แล้วจะใช้งบประมาณสั่งสมอาวุธยุทโปกรณ์ไว้เพื่ออะไร
“ถือเป็นความโง่ของทั้งรัฐบาลและฝ่ายทหารที่ไปลงนามเช่นนี้แล้วยังไม่ผลักดันเขาออกไป ประเทศต่างๆ มีกองทัพไว้ปกป้องประเทศ จากเหตุกระทบกระทั่งบริเวณชายแดน เมื่อลงนามแล้วแสดงว่าห้ามใช้กำลังโดยสิ้นเชิง ก็ไม่จำเป็นต้องมีกองทัพ เพราะโอกาสที่สงครามใหญ่ๆเกิดขึ้นยากในสมัยนี้” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าขอให้มั่นใจว่าแม้จะลงนามในข้อตกลงหยุดยิงไปแล้วก็สามารถรักษาอธิปไตยของชาติได้นั้น ตนอยากท้าให้นายอภิสิทธิ์ลงไปดูในพื้นที่ทั้งที่เขาพระวิหาร ภูมะเขือ หรือบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ว่ายังเป็นของไทยอยู่หรือไม่ เพราะในข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่าคนไทยถูกรุกที่ดินทำมาหากินมากมาย แต่นายอภิสิทธิ์ยังมาพูดวกไปเวียนมาว่ายังไม่เสียอธิปไตย โกหกทำให้ชาติเสียหาย ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าแนวนโยบายที่อ่อนด้อยของรัฐบาลนั้นมาจากความไม่รู้เท่าทัน หรือมีผลประโยชน์ของผู้ที่มีอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะแก้ปัญหาตามที่พันธมิตรฯเสนอไปนั้นจะทำให้การค้าขายตามชายแดนต้องหยุดลง บ่อนต่างๆ ก็ต้องปิด การขนน้ำมันผ่านชายแดนก็ชะงัก เป็นต้น ถือเป็นการขาดผลประโยชน์ของเขา จึงไม่แก้ปัญหาใดๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง พวกพ้อง และนายทุนไว้เช่นเดิม