“สุวิทย์” โต้เพื่อแม้วกล่าวหาละเลยปัญหาคลองด่านจนเสียค่าโง่ซ้ำซาก ยันสัญญาเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น คำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการไม่มีผล ลั่นจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำเงินที่เสียไปคืนมาให้ได้ พร้อมเอาผิดทั้งข้าราชการ เอกชนที่ทุจริตโครงการนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (17 ก.พ.) นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่องค่าโง่คลองด่าน 7,000 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ศาลแขวงดุสิตในคดีดำที่ 254/2547 ได้พิพากษาจนถึงที่สุดแล้วว่ากระบวนการก่อสร้างผิดตั้งแต่ต้นจึงถือว่าเป็นโมฆะ แต่ทำไม ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อให้สำรวจศึกษาโครงสร้างทางวิศวกรรมใหม่ ขณะเดียวกัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการอีกรอบ ทั้งที่ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ระงับโครงการตั้งแต่ปี 2546 ถือเป็นการจงใจให้เสียค่าโง่อีก 7 ,000 ล้านบาท ซึ่งผลการตัดสินที่ผ่านมาไม่อยู่เหนือความคาดหมาย อยากทราบว่ารัฐบาลได้ตรวจสอบประวัติความเป็นมาของ นายเคียง บุญเพิ่ม ร่วมเป็นอนุญาโตฯด้วยหรือไม่
และคำวินิจฉัยอนุญาโตฯ ออกมาวันที่ 12 ม.ค.แล้ว แต่ทำไมพึ่งมารู้วันที่ 10 ก.พ.ถือว่าล่าช้ามาก เรื่องนี้หากรัฐต่อสู้ยึดคำพิพากษาของศาลและหลักฐานทั้งหมดต้องชนะคดีอย่างแน่นอน แต่เราต้องสูญเสียภาษีประชาชนไปกง่า 2 3,000 ล้านบาท ไปกับมหากาพย์ทุจริตดังกล่าวจึงอยากรู้ว่ารัฐบาลจะมีแนวทางทวงคืนค่าโง่และดำเนินดการเอาผิดกับกระบวนการทุจริตนี้อย่างไร รัฐบาลจะยอมเสียค่าโง่ซ้ำซากของบริษัทในเครือข่ายรัฐบาลหรือไม่
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า ได้ติดตามโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ จนกระทั่งส่งเรื่องพิจารณาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ตั้งแต่ยังไม่มี ป.ป.ช.ยืนยันว่าตนไม่ใช่คนส่งเรื่องให้อนุญาโตฯ แต่เป็นเพราะบริษัทผู้รับจ้างเป็นผู้ส่งไป ขณะที่กรมควบคุมมลพิษได้ร้องคัดค้านไปแล้ว และในชั้นอนุญาโตฯก็ไม่ได้นำคำพิพากษาศาลมาประกอบการพิจารณา ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรฯจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและ ส่งให้กระทรวงการคลังกลับไปพิจารณาอีกครั้ง 1 เดือน ก่อนส่งเรื่องกับมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
นายสุวิทย์ กล่าวว่า เชื่อว่า การต่อสู้ในชั้นศาลจะมีการหยิบยกคำพิพากษาศาลมาประกอบการพิจารณา และคิดว่า ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงในส่วนนี้ เราพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของชาติ หรือการเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ทางกรมควบคุมมลพิษจะตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือบริษัทผู้รับเหมา และจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบอีกครั้ง
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ผลพิพากษาชี้ชัดว่าสัญญาเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น จึงไม่น่ามีผลให้รัฐต้องเสียค่าโง่ เรื่องนี้เราเร่งดำเนินการไม่นิ่งนอนใจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกเงินคืนมาให้ได้ จะไม่มีการทำแบบลูบหน้าปะจมูกแน่นอน
