เลขาธิการ ก.ม.ม.แนะ ก.คลัง ทบทวนจ่ายค่าโง่คลองด่าน 9 พันล้าน ชี้ คำตัดสินอนุญาโตฯมีพิรุธเพียบ คาด มีเอี่ยวผลประโยชน์ ติง อสส.ทำงานเต็มที่หรือไม่ จี้ผู้เกี่ยวข้องแจงสังคมให้กระจ่าง งงเหตุอัยการไม่ใช้คำตัดสินศาลการเมืองต่อสู้
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ก.ม.ม.เปิดเผยถึงกรณีที่อนุญาโตตุลาการตัดสินให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จ่ายเงินชดเชยหรือค่าโง่ในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน 9 พันล้านบาทให้แก่เอกชน ว่า ตนขอเรียกร้องให้กระทรวงการคลังปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าว ที่ให้จ่ายเงินชดเชยแก่กิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี ในฐานะที่เป็นคู่สัญญากับกรมควบคุมมลพิษ กรณีผิดสัญญาในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน วงเงินงบประมาณ 6.2 พันล้านบาท รวมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 เป็นเงิน รวมทั้งหมดประมาณ 9 พันล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการครั้งนี้มีเงื่อนงำ และมิชอบด้วยกฎหมายหลายประการ
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนการพิจารณาและชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการครั้งนี้ มีพิรุธ และขาดความโปร่งใส โดยไม่มีการระบุรายละเอียดต่อสังคม โดยเฉพาะจุดยืนของกรมควบคุมมลพิษที่ไม่ชัดเจนในแนวทางของการต่อสู้ตั้งแต่ต้น ว่า จะปฏิเสธ หรือจะเลือกแนวทางไกล่เกลี่ยในรูปแบบที่อนุญาโตตุลาการแนะนำ ทำให้แนวทางและวิธีการต่อสู้สับสนและไม่ยืนหยัดต่อผลประโยชน์ของรัฐหรือประชาชนอย่างเต็มที่
“จุดยืนของกรมควบคุมมลพิษที่สับสนเช่นนี้เป็นไปได้ หรือไม่ว่ามีผลประโยชน์ส่วนตนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงการคลัง ต้องเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดและชี้แจงต่อประชาชนโดยเร็ว” นายสุริยะใส กล่าว
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวด้วยว่า เงื่อนงำในการต่อสู้ของอัยการในฐานะที่เป็นอนุญาโตตุลาการ ตัวแทนฝ่ายรัฐได้ต่อสู้อย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ โดยเฉพาะได้นำคำพิพากษาของศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลแขวงดุสิตที่พิพากษาไว้ก่อนหน้านี้ ว่า โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน มีความผิดปกติในเรื่องสัญญา และการซื้อขายที่ดิน ซึ่งเป็นความผิดทางอาญามาพิจารณาด้วยหรือไม่ หรือพิจารณาเฉพาะความผิดทางแพ่งเท่านั้น รวมทั้งขั้นตอนการนำสืบเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ ตัวแทนอัยการได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาแล้วหรือยัง