xs
xsm
sm
md
lg

กต.โยน กห.คุยหยุดยิง รอถก 2 ชาติ เวทีอาเซียน ปัดเข้าทางแขมร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (แฟ้มภาพ)
เลขาฯ “กษิต” รับเขมรไม่หยุดยิง อาจมีผลเจรจาทวิภาคี พร้อมแฉชาวโลกเพื่อนบ้านเกเรก่อน โยน “ประวิตร” เจรจา “เตีย บัณห์” ยังรอดูท่าทีคุยเจบีซี ยันศาลโลกไม่ได้พิพากษาใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ย้ำยึดสันปันน้ำตามอนุสัญญา 1904 อ้าง “นัมฮอง” รีบกลับบ้านทำนายอดคุย รอถกอีกทีที่จาการ์ตา ย้ำ พระวิหารชนวนขัดแย้ง ปัดคุยในเวทีอาเซียนเข้าทางแขมร์

วันนี้ (16 ก.พ.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา อีก 2 ครั้ง ที่ภูมะเขือ บริเวณช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไปชี้แจงสถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า จากการไปให้ข้อมูลกับยูเอ็นเอสซี มีผล 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ขอให้มีการหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่ายในพื้นที่ชายแดน และ 2.สนับสนุนกลไกทวิภาคี ซึ่งรัฐบาลไทยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ถ้ากัมพูชาไม่ยิงมาก่อน เราก็ไม่เปิดฉากยิงตอบโต้ ซึ่งเรามีเป้าหมายทางการทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนตามแนวชายแดน แต่ตนยอมรับว่าเรื่องนี้อาจมีผลต่อการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชา ถ้ากัมพูชายังไม่หยุดยิงโจมตีไทย

“อย่างไรก็ตาม สำหรับการปะทะที่เกิดขึ้น ต้องมีการบันทึกไว้ เพราะได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าอยากให้มีการหยุดยิง ถ้ายังมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม ก็ต้องมีการบันทึกเพื่อให้ชาติสมาชิกที่สนับสนุนทวิภาคีได้รับทราบว่าใคร เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อให้หยุดยิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.เตีย บัณห์ รมว.กลาโหมของกัมพูชา จะทำหน้าที่เจรจา หลังจากที่ นายกษิต กลับมาถึงประเทศไทย ก็จะนัดหารือกับพล.อ.ประวิตร เพื่อให้การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมมีความสอดคล้องกัน ก่อนที่จะไปเจรจากับ รมว.กลาโหมของกัมพูชา” นายชวนนท์ กล่าว

นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ต้องรอฝ่ายกัมพูชาว่าจะมีท่าทีตอบสนองอย่างไร แต่ตนก็รู้สึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใดกัมพูชาจึงปฏิเสธการเจรจาทวิภาคีกับไทย ซึ่งรายละเอียดเจบีซีฯยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ แม้ผลการประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา 3 ฉบับยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาไทย ก็ไม่มีผล เพราะสามารถจัดการประชุมเจบีซีเพื่อหารือในด้านอื่นๆได้ เช่น การทำภาพถ่ายทางอากาศ การสำรวจหลักหมุด เป็นต้น

เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงคำพูดที่สนับสนุนการเจรจาทวิภาคีตามกรอบที่เรามี กลไกอยู่ เพียงแต่กัมพูชาต้องเข้าใจว่าเรามีกระบวนการภายในตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราก็พยายามรักษาสมดุลระหว่างการเมืองภายในและการเมืองระหว่างประเทศ เราจึงอยากให้กัมพูชาแสดงความเข้าใจว่าเรามีความจริงใจในการร่วมกันแก้ปัญหา ส่วนพื้นที่เขาพระวิหารที่มีการตีความผิดออกไปจากคำตัดสินของศาลโลกนั้น ที่จริงคงไม่ใช่ จึงขอย้ำว่าคำตัดสินของศาลโลกไม่เคยพูดถึงความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 และแผนที่จะถูกต้องก็ต่อเมื่อเป็นไปตามแนวสันปันน้ำที่ระบุในอนุสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1904 และไทยไม่เคยทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงอดีต และดำเนินตามอนุสัญญาที่มีมาตั้งแต่อดีตเช่นกัน ดังนั้น ถ้ากัมพูชามั่นใจ ก็ควรมาพิสูจน์กันตามกระบวนการเจบีซี

เมื่อถามว่า ทำไมนายกษิต และนายฮอ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา จึงไม่มีการพบปะหารือกันที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี นายชวนนท์ กล่าวว่า นายนัม ฮง ไม่ได้ปฏิเสธการพบปะ แต่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าจะยังมีการพูดคุยกันอยู่แล้วในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อถามว่า การประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยจะพูดเรื่องใด นายชวนนท์ กล่าวว่า 1.ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้น และเราใช้ความอดทนอดกลั้น การโต้ตอบของเราเป็นการดำเนินการฝ่ายทหารเท่านั้น 2.การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งเราต้องยืนยันว่าเป็นชนวนแรกที่ทำให้เกิดความบาดหมาง จึงควรดูที่ต้นเหตุว่าเราจะสะสางปัญหานั้นได้อย่างไร 3.จะยืนยันว่าไทยยินดีที่จะเจรจาภายใต้กรอบทวิภาคีกับกัมพูชาเสมอ และยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ ผลการพูดคุยในครั้งนี้จะไม่เป็นการผูกมัดไทยกับกัมพูชา เพราะไม่ใช่ลักษณะที่อาเซียนจะเข้ามาแทรกแซง

เมื่อถามว่า ไทยคิดอย่างไรต่อการที่กัมพูชาระบุว่าการหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่เวทีอาเซียน จะเป็นการเข้าทางฝ่ายกัมพูชา นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะกัมพูชาน่าจะทราบดีว่าที่ได้พูดคุยตกลงกันก่อนไปชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี โดย รมว.ต่างประเทศของอินโดนีเซีย ก็พูดชัดว่ากรอบเจรจาอยู่ตรงไหน อย่างไร

"ผมไม่คิด ใครอย่าไปพูดว่าเป็นชัยชนะของไทย อย่าไปพูดว่าเป็นความพ่ายแพ้ของกัมพูชา ผมก็ไม่เคยพูดว่าการดำเนินการเรื่องนี้เป็นชัยชนะ โดยเฉพาะเรื่องนี้ไทยไม่ได้หยิบยกเข้าไปที่ยูเอ็นเอสซี แต่กัมพูชาเป็นผู้ส่งเรื่องไป แต่เขาต้องการให้ยูเอ็นเอสซีเข้ามาแทรกแซง แม้แต่กลับไปที่ศาลโลก แต่ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น และไทยก็พอใจกับผลการตัดสินใจ และสอดคล้องกับแนวทางของไทยที่จะให้มีการเจรจากับทวิภาคี ชัยชนะที่ดีสำหรับ 2 ประเทศคือให้หันมาพูดคุยกันและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข" นายชวนนท์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น