17 คกก.ปกป้องแผ่นดินฯ พร้อมเข้าพบ ตร.ตามหมายเรียกฐานผิดต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคง 15 ก.พ.นี้ เพื่อสนับสนุนกระบวนการยุติธรรม ย้ำเสียอิสรภาพดีกว่าเสียดินแดน “จำลอง” ยันไม่นำมวลชนไปกดดันแน่ โวยใช้กฎหมายกลั่นแกล้งผู้รักชาติ ไม่ห่วงพบวัตถุคล้ายบึ้มใกล้ที่ชุมนุม ชี้ เป็นหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ปฏิเสธคืนพื้นที่การชุมนุม ปัดปราศรัยยั่วยุ แค่ต้องพูดให้ตื่นเต้นบ้าง
วันนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พล.ร.อ.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ร่วมกันแถลงข่าวประจำวันต่อสื่อมวลชน โดย พล.อ.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกแกนนำ เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหา ฐานทำผิด พ.ร.บ.ความมั่นคง ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ว่า เราสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน จะเห็นได้จากที่ผ่านมา ซึ่งมีพวกเราบางคนต้องติดคุกก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมายเรียกมาก็จะไปตามนั้น ซึ่งหากเข้าพบแล้วมีขั้นตอนต่อไปในการออกหมายจับหรืออย่างไรเราก็ยอมรับ อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าเสียอิสรภาพดีกว่าเสียดินแดน แต่ก็จะมีการเตรียมแกนนำรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งมีผู้ที่พร้อมทำหน้าที่อีกมาก แต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียก จึงไม่ทราบว่าจะเรียกใครไปบ้าง หากหมายถึงแกนนำในการชุมนุมครั้งนี้ก็จะเป็นคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินที่มีทั้งหมด 17 คน
“ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ หากมีหมายเรียกมา ก็พร้อมที่จะทำตามกระบวนการยุติธรรม และไม่มีมวลชนติดตามไป ไม่มีการกดดันใครทั้งสิ้น” พล.ต.จำลอง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการขอพื้นที่คืนของรัฐบาล พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนได้บอกไปแล้วว่าเมื่อเราแน่ใจว่ารัฐบาลไม่ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน และจะทำให้เราเสียดินแดนแน่ พวกเราก็ถามกันว่าจะสู้ต่อหรือจะถอย คำตอบของพวกเรา ก็คือ เราจะสู้กันต่อไป ซึ่งก็ไม่มีแนวทางต่อสู้ที่ดีไปกว่าการชุมนุมปักหลักพักค้างกดดันรัฐบาลต่อไป และไม่ว่าจะเป็นกฎหมายหรือประกาศอะไรก็ตาม เราไม่ออกจากพื้นที่แน่นอน อย่างมากก็ถูกจับกุมและลงโทษไม่หนักเท่าไร ดังนั้นการที่รัฐบาลพยายามขอพ้นที่คืนไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนที่ว่ากระทบการจราจรนั้นเป็นเพียงข้ออ้างของรัฐบาลเท่านั้น เพราะเราหลายคนที่ออกไปข้างนอกก็ไม่ได้รับผลกระทบทางจราจรแต่อย่างใด พอหาเรื่องการจราจรแล้ว รัฐบาลก็ถือโอกาสยกระดับการกดดันพวกเราโดยประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาเล่นงานกับคนที่มาทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของชาติ
“ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่อวดดีหรือท้าทาย แต่เป็นเครื่องยืนยันว่าเราไม่หวั่นเกรงภยันตรายใดๆทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องออกมาช่วยบ้านเมือง” พล.ต.จำลอง กล่าว
เมื่อถามต่อถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ได้มีความกังวลอะไร แต่ก็มีการเตรียมพร้อมเพื่อความไม่ประมาท แต่เปิดเผยรูปแบบไม่ได้ ส่วนการประสานงานกับตำรวจในเบื้องต้นไม่มีการพูดคุยกัน จึงทำให้เราไม่รู้จะพึ่งใคร นอกจากพึ่งกันเอง แต่หากตำรวจจะเข้ามาช่วยดูแลก็เป็นเรื่องที่ดี หากเกิดเหตุขึ้นก็ต้องดูว่ากลุ่มหนึ่งชุมนุมอยู่ในที่ตั้งด้วยความสงบเรียบร้อย ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดูแล
พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการจับกุมบุคคลพร้อมวัตถุต้องสงสัยใกล้กับพื้นที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ ว่า ในส่วนมาตรการความปลอดภัยทำกันมาเต็มที่แล้ว ซึ่งก็เรียบร้อยดีตลอด 20 วันที่ชุมนุมกันมา เนื่องจากที่กฎระเบียบที่เคร่งครัดทั้งห้ามนำอาวุธและของมึนเมาเข้าพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความมีคุณภาพของผู้ชุมนุม ดังนั้น เมื่อเราอยู่มาด้วยความเรียบร้อย แล้วเกิดเหตุใดๆขึ้นก็สันนิษฐานได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์กลั่นแกล้งเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการพบประทัดปิงปองนั้นก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดูแลต่อไป
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า ผู้ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯพยายามยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการขอคืนพื้นที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า การชุมนุมที่อยู่ต่อเนื่องแบบตลอดวันต้องมีการพูดทีเล่นทีจริงให้ผู้ฟังตื่นเต้นบ้าง หรือให้ตำรวจตื่นตัวบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่นโยบายของเวทีพันธมิตรฯที่จะยั่วยุเจ้าหน้าที่ ซึ่งบางครั้งตนก็ได้ห้ามปรามทันบ้างไม่ทันบ้าง
ขณะที่ พล.ร.อ.ประทีป กล่าวถึงกรณีหมายเรียกของ ศอ.รส.ว่า ตนยังไม่เห็นหมายเรียก แต่หากมีมา ทางคณะกรรมการก็พร้อมที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตามหมายตามกระบวนการยุติธรรม ตามที่กล่าวหาผิด พ.ร.บ.มั่นคง