ศอ.รส.นำประกาศห้ามชุมนุมให้ "จำลอง"-แฉผู้ใหญ่เขมรยกหูถึงไทยสลายชุมนุมพธม.

มวลชนพันธมิตรฯปักหลักชุมนุมเหนียวแน่น ขณะที่ "กรีรินทร์-วิชัย" นำประกาศ ศอ.รส.ห้ามเข้าออกพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล มอบให้ "จำลอง" ขอคืนพื้นที่ เจ้าตัวเซ็นรับด้วยตัวเอง ก่อนเผยเตรียมถกกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินเย็นนี้ แฉมีแหล่งข่าวเผยผู้ใหญ่จากกัมพูชายกมือถึงผู้ใหญ่ในรัฐบาลไทยให้จัดการเลิกชุมนุมพันธมิตร



ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เช้าวันนี้ (12 ก.พ.) มวลชนกลุ่มพันธมิตรฯยังคงปักหลักฟังการสรุปข่าวของพิธีกรบนเวที โดยเนื้อหาจะเป็นการสรุปข่าวเกี่ยวกับข้อพิพาทของประเทศไทยกับกัมพูชา จากนั้นเป็นการปราศรัยของแกนนำเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะที่ ประชาชนบางส่วน ยังคงปฏิบัติภารกิจส่วนตัวภายในเต็นท์ที่พัก 2 ข้างทาง

ส่วนระบบการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ยังคงมีการ์ดพันธมิตรฯ คอยตรวจตราบุคคลที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างเข้มข้น

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 นำหมายของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. จำนวน 2 ฉบับ มามอบให้กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกอาคารทำเนียบรัฐบาล บริเวณ ถ.พิษณุโลก จากแยกพาณิชยการมุ่งหน้าแยกสวนมิสกวัน ถ.พระราม 5 จากสะพานมัฆวานฯ ถึงทำเนียบรัฐบาล ถ.นครปฐม ถ.ลูกหลวง และ ถ.ราชดำเนินนอก จากสวนมิสกวันมุ่งหน้าสะพานมัฆวานรังสรรค์ หรือถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และห้ามใช้ยานพาหนะ โดยรอบอาคารรัฐสภา โดยพล.ต.จำลอง ได้เซ็นรับทราบในหมายของ ศอ.รส.ดังกล่าว ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุม และสื่อมวลชนที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า สำหรับหมายดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 แต่ตามขั้นตอน ต้องเข้ามาเจรจาเพื่อรับทราบในหลักการก่อน

ด้านพล.ต.จำลอง พร้อมด้วย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายประพันธ์ คูณมี โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงยืนยันว่าจะชุมนุมต่อ แม้รับทราบประกาศของศอ.รส. แล้วก็ตาม เนื่องจากเห็นว่าประกาศของ ศอ.รส และ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 รวมทั้งมติของคณะรัฐมนตรี ที่ประกาศใช้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เข้าองค์ประกอบในการประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว โดยในเวลา 16.00 น. วันนี้ คณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน จะประชุมเพื่อกำหนดมาตรการให้รัฐบาล และกองทัพทำหน้าที่รักษาอธิปไตย โดยจะแจ้งผลการประชุมในเวลา 17.00 น. แต่หากเจ้าหน้าที่จะใช้กำลังเข้าจับกุมพร้อมให้ดำเนินคดี เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ

พล.ต.จำลอง ระบุด้วยว่า ได้รับทราบข่าวจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่าผู้ใหญ่ในประเทศกัมพูชา ติดต่อทางโทรศัพท์กับผู้ใหญ่ในรัฐบาลไทย ขอให้ทำลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย และมีแนวโน้มว่ารัฐบาลไทยจะเชื่อและปฏิบัติตามแนวทางของฝ่ายกัมพูชา อย่างไรก็ตามจากเดิมที่รัฐบาลอ้างว่าประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ต้องการความช่วยเหลือของกลุ่มพันธมิตรฯนั้นไม่เป็นความจริง เพราะจากการนำคาราวานความช่วยเหลือ 4 คันรถออกเดินทางไปยัง จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าหน่วยงานทหารใน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ออกมาขอสิ่งของช่วยเหลือ เพราะทหารในจุดดังกล่าวมีความขาดแคลน ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จึงต้องจัดแบ่งสิ่งของช่วยเหลือในขบวนรถไปให้ 3 คันรถ และใช้เงินอีกกว่าล้านบาทไปซื้อสิ่งของเครื่องใช้เพิ่ม เพื่อส่งความช่วยเหลือไปยัง จ.ศรีสะเกษ ให้ครบถ้วน ดังนั้นในภาวะที่ไม่ปกติเช่นนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเฉพาะกิจใน 3 ข้อเรียกร้องเดิม คือ ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา เพื่อตัดยุทธภัณฑ์ กดดันด้วยการเข้าไปทำลายถนน โดยสามารถทำได้ง่ายดายแค่เพียงวางระเบิดถนน 3 จุด และแสดงออกให้เห็นถึงแสนยานุภาพของฝ่ายไทย