เพื่อไทย เล็งซักฟอกรมว.ไอซีที ประมูล3Gไม่โปร่งใส

"เพื่อไทย" ไม่ปล่อยหลุดมือ เตรียมนำการประมูล 3G ไม่โปร่งใส่ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรมว.ไอซีที พร้อมจี้ "จุติ" ตรวจสอบการดำเนินการทุกระดับเพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ประธานสำนักปราบโกง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตนขอชื่นชมนายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม ประธานบอร์ด ทีโอที ที่ตั้งการให้คณะกรรมการประกวดราคาหาข้อมูลเพิ่มเติม ภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนจากจากบริษัทอื่นๆ ในการประมูลเพื่อติดตั้งโครงข่าย 3G ทีโอทีทั่วประเทศเพื่อความละเอียด รอบคอบ เนื่องจากการดำเนินการมีข้อครหาตลอด เรื่องความไม่โปร่งใส และการล็อคบริษัทที่ชนะการประมูลตั้งแต่ต้น รวมทั้งไม่เคยมีการประกาศทีโออาร์ ให้บุคคลที่สนใจหรือบริษัทผู้ประกอบการรับทราบล่วงหน้า

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า อยากเรียร้องไปยัง นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ตรวจสอบการดำเนินการของผู้รับผิดชอบทุกระดับให้โปร่งใส เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องความไม่ชอบมาพากล การทุจริตล็อคสเปก รวมถึงการฮั้วประมูลนั้นสำนักปราบโกงพรรคเพื่อไทย ได้รับข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จะรีบตรวจสอบ โดยในสัปดาห์หน้าจะขอให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทุกคณะเรียกเอกสารที่สำคัญๆ มาตรวจสอบ และจะนำเรื่องการประมูล 3G ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่ากรณีที่ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเซ็นสัญญาร่วมกันเกี่ยวกับการทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ HAPA เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิมของกสท.ว่า กสท.นั้นถือหุ้นโดย กระทรวงการคลัง 100% ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อรวบรวมข้อมูลไว้ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ทั้งนี้อยากฝากถึงนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที) ว่า นายจุติรู้ดีว่าสมัยที่ตนอยู่พรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนเป็นคนทำเรื่องเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะที่เรียกกันว่าการปลดล็อคอีมี่ซิมโทรศัพท์มือถือ วันนี้ตนกลับมาแล้วเพื่อที่จะตรวจสอบนายจุติและกระทรวงไอซีที ดังนั้นขอให้ทำทุกอย่างให้โปร่งใส ประชาชนจะได้ประโยชน์ นายจุติอย่ามาเสียชื่อตอนหนุ่ม เพราะอนาคตของท่านยังอีกไกล พรรคเพื่อไทยจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้ประชาชนเห็นถึงความไม่โปร่งใสว่าประชาชนเสียประโยชน์อย่างไรบ้าง