กมธ.กิจการชายแดนฯ ร้องทหารไทย-เขมร ออกพ้นพื้นที่พิพาท ใช้ ตชด.คุมแทน

กมธ.กิจการชายแดนฯ สภาผู้แทนฯ ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ทหารไทย-กัมพูชา อดกลั้นยุติการสู้รบ และให้ 2 ฝ่ายออกจากพื้นที่ เพื่อลดการเผชิญหน้า แล้วส่ง ตชด.ดูแลพื้นที่ พร้อมเร่งแก้ข้อพิพาทเขตแดน ขณะเดียวกัน ขอให้รัฐบาลกำชับกองทัพระมัดระวังการให้ข่าวที่อาจกระทบกระทั่งกัน

ที่รัฐสภา วันนี้ (10 ก.พ.) คณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์กรณีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่เขาพระวิหาร ว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนทำให้เกิดผลกระทบทั้งมิติความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศนั้น กมธ.มีความเป็นกังวลในเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขอแสดงความคิดเห็นเสนอไปยังรัฐบาล ดังนี้ 1.ขอให้กองกำลังของทั้ง 2 ประเทศ ใช้ขันติธรรม และความอดกลั้นยุติการสู้รบ โดยทันทีเพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนและกองทัพตามชายแดนของทั้ง 2 ฝ่าย 2.ขอให้ถอนกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายออกจากพื้นที่ที่มีการสู้รบกันอย่างเร่งด่วนเพื่อลดการเผชิญหน้าทางทหารตามชายแดนระหว่างกัน

3.ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่มีอยู่แล้ว เข้าไปรักษาพื้นที่ตามสถานะเดิมที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีสิทธิ์ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะไปลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2543 เพื่อลดการเผชิญหน้าและลดภาวะการคุกคามซึ่งกันและกันโดยทันที 4.ขอให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาพิพาทเรื่องเขตแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่พิพาทบริเวณปราสาทพระวิหาร โดยผ่านกลไกการเจรจาทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว อันได้แก่ เอ็มโอยู 43

5.ขอให้รัฐบาลดำเนินการกำชับให้กองทัพระมัดระวังการให้ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะที่อาจเป็นการกระทบกระทั่งกัน และอาจนำมาสู่การปะทะของทั้ง 2 ฝ่ายได้ แม้ว่าการปฏิบัติการข่าวสารที่ต้องการการสนับสนุนจากงานข่าวกรองที่มีรายละเอียด และชัดเจนต้องกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกที่ดูหมิ่นเหยียดหยามซึ่งกันและกัน

6.ในพื้นที่ด่านช่องจอม รัฐบาลควรพิจารณาจัดวางกำลังหน่วยงานให้เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้กำลังทหารมาเฝ้าระวังทำให้เกิดบรรยากาศคุกคามได้ตลอดเวลา ดังนั้น ควรถอยกำลังทหารออกจากด่านพอประมาณและใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่แทน และเปิดให้มีการค้าขายตามปกติ

และ 7.ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลกัมพูชาให้ปฏิบัติในลักษณะเดียวกันและหากยังมีการปะทะกันอีกขอให้ระมัดระวังอย่าให้ผลของการปะทะเกิดขึ้นในเขตพลเรือน นอกจากนี้ตามที่ กมธ.ได้จัดกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟการกุศล เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2553 ได้มีผู้บริจาคเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3.4 แสนบาท ซึ่ง กมธ.ขอมอบเงินส่วนนี้ให้กับ พล.ต.ต.โกสินทร์ บุญสร้าง รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อนำไปใช้ในดำเนินการของ ตชด.ต่อไป