xs
xsm
sm
md
lg

“บรรณวิทย์” หนุนปฏิวัติ คลี่คลายปัญหาในประเทศ-ชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน (แฟ้มภาพ)
“บรรณวิทย์” แนะตัดแขนขาเขมรด้วยการปิดพรมแดน ตัดช่องส่งกำลังบำรุง หนุน “ประยุทธ์” ปฏิวัติ-ประกาศกฎอัยการศึก ทางออกประเทศ เผย “เขมร” เล่นเกมปาหี่มองไทย “ไร้น้ำยา” ซัด “มาร์ค” เด็กดูดนม ประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง คุมม็อบ มองแต่จุดเล็ก จวก “กษิต” เหมือนคนวิกลจริตไม่เอาไหน ทำไทยเสียเปรียบเขมร

วันที่ 9 ก.พ.2554 พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ ว่า การสู้รบของกัมพูชาเปรียบเสมือนการปาหี่ทางการเมือง เนื่องจากเราไม่ยอมปิดพรมแดน ซึ่งเปรียบเสมือนยังเปิดช่องทางส่งกำลังบำรุงให้กับกัมพูชา ทั้งที่ความจริงแล้ว เราต้องปิดพรมแดน เพื่อตัดช่องทางส่งกำลังบำรุงต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมันและเชื้อเพลิง เพราะเป็นส่วนที่ช่วยในการสู้รบ ถ้าเราตัดกัมพูชาก็ขาด และไม่สามารถทำการสู้รบกับไทยได้ แต่นี่เราไม่ทำ มิหนำซ้ำ กระทรวงพลังงาน ยังออกมาพูดว่า หากเราทำการปิดพรมแดนกับกัมพูชา และไม่ส่งน้ำมันไปให้ ประเทศไทยก็จะสูญเสียรายได้ประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งถ้าเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว หากเรายังส่งน้ำมันให้เขา เพื่อให้เขาไปเติมอาวุธยุทโธปกรณ์มายิงเรา ทำให้ทหารบาดเจ็บ ล้มตาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน มันจะเสียหายมากกว่าเงินจำนวนแค่ 3 ล้าน

“ทำไม เราไม่โต้ตอบ ที่ผ่านมา เราตอบโต้น้อยมาก ทั้งที่อาวุธยุทโธปกรณ์เราก็มีเหนือกว่า ซึ่งทั่วโลกได้จัดอันดับ ว่า เรามียุทโธปกรณ์ที่สูงอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก โดยเฉพาะกำลังทางอากาศ ที่เรามีเหนือกว่า ถ้ารบกันจริง เขมรไม่มีทางสู้เราได้ แต่รัฐบาลไม่ยอมนำข้อได้เปรียบมาใช้ แต่กลับปล่อยให้เขมรตบหน้าเราด้วยการออกข่าวว่าทหารไทยถูกจับ และปล่อยตัวออกมา เรื่องนี้มันเสียหน้ามาก ทำไมเราไม่รุกเข้าไปเลย เพราะตอนนี้มันก็เหมือนสงครามแล้ว แต่เป็นสงครามเฉพาะจุด สิ่งที่เราได้เปรียบกลับไม่นำมาใช้ การที่เราเอาเครื่องบินมาใช้ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องบินเอาระเบิดไปทิ้งที่กรุงพนมเปญ เราแค่ใช้เครื่องบินเป็นตัวนำเปิดทางให้กองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปควบคุม พื้นที่ได้สะดวกมากขึ้น” พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว

เมื่อถามว่า การที่สมเด็จฮุนเซน ได้เรียกร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซี) เพื่อให้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็น เข้ามาช่วยเหลือนั้น จะส่งผลกระทบกับ ประเทศไทยหรือไม่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า มีผลอย่างแน่นอน เพราะกัมพูชาเก่งเรื่องต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาก็เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสมาก่อน คณะกรรมการบางคนในยูเอ็น ก็เป็นคนฝรั่งเศส และจะทำให้กัมพูชาได้เปรียบในส่วนนี้ เราก็จะเสียเปรียบเขา โดยเฉพาะ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของเราก็ทำงานไม่ได้เรื่อง เปรียบเสมือนคนวิกลจริต ปัญหาอะไรที่ใหญ่ๆ กลับไม่ทำ ทำแต่ปัญหาเล็กๆ และทุกครั้งที่มีการปะทะกัน เราก็จะต้องเป็นฝ่ายขอร้องเขาตลอด

“ตอนนี้เขมรมองว่าเราไม่มีน้ำยาแล้ว มีอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่ในมือ แต่ทำอะไรไม่ได้ ฮุนเซนยังมาพูดว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีหน้าซาลาเปา โทร.ไปหา เตีย บัญ ทำไมเราต้องไปขอร้องเขาตลอด ทั้งที่เขาก็เป็นคนเริ่มก่อน ที่เป็นอย่างนี้ เพราะเขมรมองว่าเราไม่กล้าทำอะไร เพราะประเทศไทยมัวแต่มาหวังผลประโยชน์ส่วนตัวในพื้นที่ชายแดน ทั้งบ่อนกาสิโนตามแนวชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของนักการเมือง และนักการเมืองก็ไปพูดบังคับให้พรรคต้นสังกัดของตัวเองช่วยเหลือไม่ให้ปิดชายแดน ซึ่งทำให้ประเทศเสียหายมาก นายกฯตอนนี้ก็เปรียบเสมือนเด็กดูดนมบริหารประเทศ ไม่เป็นธรรมาภิบาล” พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว

เมื่อถามว่า ทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาขณะนี้คืออะไร พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องให้อำนาจกองทัพในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยที่รัฐบาลไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งอาจจะหมายความถึงการประกาศกฎอัยการศึก เพราะตามอำนาจ ผบ.ทบ.มีอำนาจที่จะประกาศกฎอัยการศึกและคุมอำนาจทั้งหมด ให้การเมืองลงมาอยู่ด้านล่าง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เกิดความไม่สงบ นอกจากนี้ ยังมองว่า การปฏิวัติก็น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้คลี่คลายและสงบลง

“ตอนนี้กระแสปฏิวัติสามารถเป็นไปได้ และสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ผมมองว่า โอกาสการปฏิวัติเป็นไปได้มาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมตอนนี้ ทั้งส่วนของรัฐบาลที่บริหารงานล้มเหลว ไม่เป็นธรรมาภิบาล และส่วนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีที่พึ่ง กระแสปฏิวัติตรงนี้จึงหลุดออกมา ซึ่งผมคิดว่าถ้ามีการปฏิวัติน่าไม่น่าจะส่งผลเสีย แต่ตรงกันข้าม ผมกลับมองว่าจะเป็นผลดีกับประเทศมากกว่า เพราะมันช่วยให้ทหารทำงานได้สะดวกขึ้น แก้ปัญหาชายแดนได้ง่ายขึ้น เพราะจะทำอะไรแต่ละครั้ง ก็ต้องมารอฟังคำสั่งจากรัฐบาล จึงทำให้การปฏิบัติงานล่าช้าจะทำอะไรก็ไม่กล้าทำ แต่ถ้ามีอำนาจทางทหารอยู่ในมือก็สามารถทำได้เลย ปัญหามันก็จะจบเร็ว” พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น