xs
xsm
sm
md
lg

“เป็ดเหลิม” ยัน MOU43 ต้นเหตุชายแดนเดือด สั่งกักตัว “กษิต” ห้ามเจรจาเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย
ส.ส.แนวตะเข็บชายแดน ยื่นญัตติปากเปล่า รุมชำแหละนโยบายด้านการต่างประเทศ และทหาร ล้มเหลว เสนอปลด “กษิต” สังเวยความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ “เป็ดเหลิม” แนะ “มาร์ค” ทบทวนตัวเอง สั่งกักบริเวณ “กษิต” ห้ามเจรจาเขมร ย้ำ เอ็มโอยู 43 ต้นตอปัญหา ตอก รมว.บัวแก้ว กลับกลอกเขมรไม่อยากเจรจาด้วย “ไอ้ตู่” ตบท้ายรัฐบาล “มาร์ค” ขายชาติ



วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาญัตติปากเปล่าเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณชายแดน ตามที่ นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มารับฟังข้อเสนอและค่อยชี้แจง

ทั้งนี้ นายธเนศ อภิปรายว่า ปัญหาไทย-กัมพูชา เริ่มตึงเครียด ตั้งแต่ในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกัมพูชา และทางไทยได้ตัดความสัมพันธ์ทุกด้าน ต่อมายังมีการชุมนุมทางการเมืองของไทย ที่เอาปัญหาภายในไปพาดพึงถึงปัญหาระหว่างประเทศ รัฐบาลต้องแก้ไข และ รมว.ต่างประเทศ ยังได้เปลี่ยนสนามการค้าให้เป็นสนามรบ ส่วนที่ทางการไทยได้ถอนทหารออกจากพื้นที่ทับซ้อน ทำให้เกิดปัญหามาก ชาวบ้านในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ เดือดร้อน เข้าไปหาของป่าไม่ได้ ดังนั้น ให้รัฐบาลแก้ไขเรื่องนี้ และอยากให้ระดับหัวหน้ารัฐบาล 2 ประเทศ ได้เจรจากันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่ส่งนายกษิต ที่ทางกัมพูชาไม่อยากคุยด้วยไปเจรจา

จากนั้นมี ส.ส.โดยเฉพาะ ส.ส.ในจังหวัด ที่มีเขตแดนติดกัมพูชาจากพรรคต่างผลัดกันลุกขึ้นอภิปราย ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลต้องเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า คนในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ ไม่ได้คิดว่า บริเวณที่เป็นปัญหาเป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่คิดว่าเป็นพื้นที่ของไทย แต่ไม่มีปัญหาเพราะคนทั้งสองประเทศไปมาหาสู่ ติดต่อสัมพันธ์กันตลอด จนเกิดเหตุปะทะของทหาร 2 ประเทศ ตอนนี้รัฐบาลต้องเจรจาให้ข้อพิพาทยุติโดยเร็ว และรวบรวมข้อมูลเสนอสหประชาชาติ ว่า คนไทยไม่เคยรุกล้ำเพื่อนบ้าน แต่กัมพูชารุกเข้ามาตลอด และขอให้คนที่กำลังยุแหย่ให้เกิดสงคราม อย่าทำอย่างนั้น เพราะประชาชนชายแดนได้รับผลกระทบเต็มๆ

นายปวีณ แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนในพื้นที่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่รัฐบาลนี้ทำให้เกิดขึ้นได้ คน 4 ตำบลใน อ.กันทรลักษ์ ต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง ไม่ได้เตรียมตัว ไม่มีจุดหมายปลายทาง ผัวไปทางเมียไปทาง ทรัพย์สินและวัวควาย ไม่มีใครดูแล รัฐบาลไม่ได้เตรียมการอพยพผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามเป็นขั้นเป็นตอน นอกจากนี้ สื่อทีวีช่องหนึ่งก็ปลุกระดม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ในอดีตเคยด่ากัมพูชา ดังนั้น ต้องปลดเอาคนที่มีธรรมเนียมการทูตดีกว่านี้ไปเจรจา เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นมิตร ไม่ใช่เอาคนที่ไม่ถูกกันไปเจรจา

นายวิวัฒชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลประเมินว่า ปัญหาเกิดจากรัฐบาลบริหารผิดพลาดด้านนโยบาย ด้าน รมว.ต่างประเทศ หรือด้านการทหาร หรือเกิดจากทุกปัจจัยร่วมกัน ทั้งนี้ รัฐบาลและกองทัพมีศักยภาพดู แลประชาชนให้เป็นสุขหรือไม่เพราะได้รับงบประมาณปีหนึ่งจำนวนมาก ขอให้รัฐบาลอย่าเล่นการเมือง และเจรจาโดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ทางด้าน นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า หากนายกฯพิจารณาแล้วเห็นว่า รมว.ต่างประเทศ เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง ขอให้พิจารณาเปลี่ยนได้ เพราะมีคนมีความสามารถอีกเยอะที่สามารถเป็นได้ จะได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สงครามคูเสดรบกัน 500 ปี ยังจบด้วยการเจรจา นายกฯต้องทบทวนตัวเองถึงการบริหารประเทศที่ผ่านมา เช่น นายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พูดเรื่องเดียวกันไปคนละทาง ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นประชาชนในพื้นที่ชายแดนได้รับผลกระทบ ฝ่ายรัฐบาลเอาเปรียบ เอางบไปแจกโดยให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางพรรคไป จนเอางบประมาณหลวงไปแจก ทั้งที่เป็นภาษีของประชาชน สมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นฝ่ายค้าน อภิปรายรัฐบาลพรรคพลังประชาชน จุดกระแสคลั่งชาติ โดยระบุว่า ให้ยึดแนวสันปันน้ำ ทำให้คนเข้าใจว่า ต้องทวงคืนปราสาทพระวิหาร ส่วนเอ็มโอยู43 ไม่ขอแตะ เพราะเลิกยาก ส่วนปัญหาไทย-กัมพูชา นั้น เกิดจาก 1.นายกฯกัมพูชา ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเป็นที่ปรึกษา เป็นเรื่องกัมพูชาที่ไทยไม่ควรไปยุ่ง แต่ไทยกลับต่อว่ากัมพูชารุนแรง 2.นายกษิต เป็นตัวปัญหา หากยังเป็น รมว.ต่างประเทศ ไม่มีทางให้สัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ไปสู่จุดที่ดีขึ้น หากใช้ นายสุเทพ ไปเจรจาจะดีกว่า ดังนั้น นายกฯต้องกักบริเวณนายกษิต อย่าไปกัมพูชา และอย่าให้สัมภาษณ์ 3.กรณีวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เมื่อปี 41 ฝ่ายทหารขอให้ประท้วง แต่รัฐบาลไทยขณะนั้น คือ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ประท้วง พอปี 43 เอ็มโอยูเกิดขึ้น จึงมีปัญหา ประท้วงไม่ได้แล้ว 4.กรณี 7 คนไทยโดนจับทั้งที่เจ้าหน้าที่ไทยก็เตือนแล้วว่าอย่าเข้าไป 1 ในจำนวนนั้น มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปด้วย แถมบอกว่า เรื่องนี้นายกฯรู้คนเดียว แล้วฝ่ายกัมพูชาจะคิดอย่างไร นี่คือความผิดพลาด

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดแก้ไขด้วยกระสุนปืนไม่ได้ ต้องเจรจา แต่รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการเจรจาเท่าฝ่ายทหารแน่ เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย มีสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชาตั้งแต่เป็นพันเอกแล้ว โทรศัพท์ไปนิดเดียวก็คุยกันได้ แต่รัฐบาลใช้ นายกษิต เป็นคนเจรจา แต่ นายกษิต คนนี้เป็นคนไปด่านายกฯกัมพูชา ตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐมนตรี โดยไม่นึกว่าตัวเองจะได้เป็นรัฐมนตรี วันนี้จึงเกิดปัญหา เพราะไปดูหมิ่นดูแคลนนายกฯกัมพูชา ว่า เป็นกุ๊ย คอร์รัปชันเยอะ แต่ตอนหลังมาแปลว่า ไลออนฮาร์ท หรือหัวใจสิงห์ แปลกันหน้าตาเฉยแบบนี้ และทั้งนายกฯ และ นายกษิต ยังดำเนินนโยบายทางการต่างประเทศผิดทาง เพราะทำแบบผิดฝาผิดตัวมาตลอด แทนที่จะไปประเทศนี้ก่อน กลับไปอีกประเทศหนึ่งก่อน แถม นายกษิต มีท่าทีแข็งกร้าว พูดจากลับไปมา มีภาวะในฐานะผู้นำการเจรจากับต่างประเทศต่ำมาก

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการสั่งสมความไม่เข้าใจของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องเอ็มโอยู 43 ที่พรรคประชาธิปัตย์ จะกอดไปจนตาย สภาพของรัฐบาลเหมือนกระต่ายสามขา พยายามอธิบายว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูก และท่วงทำนองความอวดดีของ รมว.ต่างประเทศ แต่วันที่ไปทำกลับไม่ได้ถามกองทัพเลย การปักปันเขตแดน ไม่ใช่ผูกพันต่อกัมพูชาอย่างเดียว แต่ยังผูกพันลาวด้วย ปัญหาทั้งหมดสามารถแก้ไขด้วยการทูต ตอนนี้ต้องพูดถึงการหยุดปะทะได้อย่างไร วันนี้ตนสงสัยว่าใครจุดชนวนในวันนั้น เรื่องนี้มันซับซ้อนก็ไม่ต้องการนำมาขยายความ แต่วิธีการจัดการ คือ เราต้องรู้ว่าหลังจากนี้อาจจะถูกนำไปสู่ศาลโลก สุดท้ายอาจต้องเสียดินแดนได้ ดังนั้น อยากถามรัฐบาลว่าในทางการทูตเราจะทำอย่างไร และอีกฝ่ายจะจำกัดพื้นที่การปะทะหรือไม่ รวมทั้งจะยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่ลุกลามจนกลายเป็นสงคราม ขอแนะนำว่า อย่าไปขยายสงคราม ตนรู้สึกเจ็บปวดเวลาที่พันธมิตรฯ และรัฐบาล บอกว่า รัฐบาลสมัคร รัฐบาลทักษิณขายชาติ จนพวกเดียวกับท่านมาชี้ว่าพวกท่านขายชาติเอง แสดงว่า พวกผมขายไม่ได้ จนเหลือมาให้พวกท่านขาย รู้สึกอย่างไรที่ถูกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ขายชาติ จากกลุ่มที่เคยอยู่กับพวกท่าน





จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย

กำลังโหลดความคิดเห็น