ชทพ.ผวายุบสภา เรียกร้องนายกฯทบทวน ระบุยังไม่ถึงเวลา เหตุมีหลายปัจจัยที่รัฐบาลต้องทำต่อ ทั้งการผลักดดันกฎหมายสำคัญ และสถานการณ์นอกสภาที่นายกฯ ต้องเร่งเจรจาปลดชนวนความขัดแย้ง แสดงความจริงใจให้มวลชนผู้ชุมนุมเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหา ขณะเดียวกัน ยืนยัน “เสธ.หนั่น” ไม่ทิ้งพรรค มีแต่จะทาบทามา ส.ส.เข้าสังกัดเพิ่ม
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมจะไปตั้งพรรคใหม่ว่า พล.ต.สนั่น ยังอยู่ทำงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา และนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีรอยร้าวหรือรอยปริในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะกับนายบรรหาร แทบจะบอกได้ว่ามองตาก็รู้ใจกัน กระแสข่าวการตั้งพรรคใหม่ห่างจากพื้นฐานความเป็นจริงมาก เพราะที่เท่าที่ทราบมีแต่ พล.ต.สนั่นพยายามจะที่เพิ่มสมาชิกพรรคให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ได้ประสานกลุ่มการเมือง และสมัครพรรคพวก มาร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีทั้ง ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน และผู้สมัครตัวเต็งที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส. เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะเปิดตัว โดยคำนึงถึงมารยาททางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการเคลื่อนไหวมานานแล้ว
นายวัชระกล่าวว่า เรื่องการยุบสภา แม้จะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว แต่พรรคเห็นว่าขณะนี้ยังไม่สมควรที่จะยุบสภา เนื่องจากปัจจัยที่สำคัญคือการเมืองนอกสภาการชุมนุมประท้วงของมวลชนสีต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งเจรจาเพื่อให้บ้านเมืองเข้าสู่ความสงบพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง นอกจากนี้การเมืองในสภา ควรเปิดโอกาสให้พรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งการอภิปรายฯ ถือเป็นคุณต่อรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลที่จะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาในประเด็นต่างๆ
ส่วนการจะยุบสภาเพื่อลดระดับกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารนั้น พรรคเชื่อว่าจะไม่มีการยึดอำนาจเกิดขึ้น เห็นได้จากท่าทีของผู้นำกองทัพที่ยืนยันความเป็นทหารประชาธิปไตย ประกอบกับเชื่อว่าผู้นำฝ่ายทหารจะไม่หลงกลหรือหลงเหลี่ยมฝ่ายต่างๆ ที่ต้องการให้เกิดการยึดอำนาจ อย่างไรก็ดี การยุบสภาที่จะมาจากเหตุผลเพื่อหนีการยึดอำนาจคงเป็นไปไม่ได้เพราะหากจะมีการยึดอำนาจจริงการยุบสภาคงไม่มีความหมายอะไร
โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า รัฐบาลยังมีภารกิจที่จะผลักดันกฎหมายสำคัญ เช่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ, ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พรรคขอย้ำว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีสิทธิอันชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป การยุบสภาเพื่อหนีปัญหาถือเป็นความไม่ชอบธรรมที่จะผลักภาระไปให้รัฐบาลชุดใหม่ต้องรับภาระแก้ไขปัญหาต่อไป
“จึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอย่างรอบคอบในการตัดสินใจยุบสภาบนเหตุและผล โดยตัดสินใจบนหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ตัดสินใจในฐานะของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรามองภาพรวมของประเทศและมองสถานการณ์โดยรวมโดยเห็นชัดว่ากลุ่มมวลชนสีต่างๆ ที่ส่งสัญญาณชุมนุมยืดเยื้อและหมิ่นเหม่ผิดกฎหมายมากขึ้น เราไม่มั่นใจว่าถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้การเลือกตั้งภายในสถานการณ์ที่สงบจะเกิดขึ้น ท่านนายกฯ จึงควรเร่งเจรจาเพื่อปลดชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้น การยุบสภาจริงๆ แล้วปัญหาไม่จบรัฐบาลปลดชนวนได้มีหลายประเด็นแล้วน่าจะคุยกันได้ สำคัญคือรัฐบาลต้องจริงใจแสดงความจริงใจให้กลุ่มมวลชนเห็นว่าตั้งใจแก้ปัญหา โดยขอเรียกร้องไปยังแกนนำทุกสีให้ข้อเสนอที่เรียกร้องต้องอยู่บนความเป็นไปได้”
