“สนธิ” ยกจีนตัวอย่างชาติเอเชียที่เคยถูกฝรั่งใช้กำลังบีบบังคับเหมือนกับไทยในอดีต แต่สามารถถีบตัวเองขึ้นเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะหวงแหนดินแดน ไม่ยอมใครหน้าไหน เทียบกับนายกฯ ไทยขณะนี้ที่ยอมให้ฮุนเซนเอารองเท้าตบหน้าวันละ 3 เวลา เผยอยากให้มีโทษประหารชีวิตนักการเมืองที่ทำให้เสียดินแดน กันขายแผ่นดินซ้ำ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
เมื่อเวลา 20.55 น.วันที่ 2 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” โดยได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์ชาติจีน ซึ่งเมื่อ 100 ปีก่อนก็ถูกมหาอำนาจตะวันตกยกกองกำลังเข้ามาบีบบังคับเอาดินแดนไปครอบครองเช่นเดียวกับประเทศไทย โดยจีนนั้นถูกโจรสลัดอังกฤษเข้าไปทำสงครามฝิ่น เมื่อจีนแพ้ต้องยกเกาะฮ่องกงให้อังกฤษเช่าและยกมาเก๊าให้โปรตุเกส ขณะที่ประเทศไทยนั้นถูกฝรั่งเศสยกกองทัพเรือมาบีบบังคับให้เรายกดินแดนในลาวและกัมพูชาให้ ซึ่งไทยตอนนั้นต้องยอมทำตาม เพราะเราไม่มีอาวุธสมัยใหม่ที่จะสู้ได้
ประเทศจีนนั้น เมื่อเหมาเจ๋อตงขับไล่เจียงไคเช็กออกไปแล้วยกทัพเข้าปักกิ่ง ได้ก็ประกาศให้ประเทศจีนเป็นอิสระในปี 1949 หรือ พ.ศ. 2492 หลังจากนั้นมาจนปัจจุบันจีนก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นเสาหลักในการบริหาร จากประเทศที่ไม่มีข้าวกิน น้ำท่วมแถบลุ่มแม่น้ำฮวงโหคนตายเป็น 10 ล้าน กลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ก้าวหน้า สามารถยิงจรวดขึ้นอวกาศได้ มีกองทัพเรือที่ยิ่งใหญ่ และกำลังจะสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินเองอีก 2-3 ลำ มีทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึง 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สหรัฐอเมริกาเป็นหนี้จีนเกือบ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกไม่ให้ตกต่ำ
นายสนธิกล่าวว่า ที่เล่าเรื่องนี้เพราะต้องการเปรียบเทียบจีนกับไทย ตอนนั้นถูกมหาอำนาจยกกำลังมาบีบบังคับเหมือนกับไทย จนเวลานี้จีนมีหน้าที่ปกป้องดินแดนทั่วประเทศ เคยรบกับอินเดียเพราะเส้นแบ่งเขตแดนอยู่บนยอดเขาระยะทางแค่ 1 กิโลเมตร ไม่มีใครยอมใคร นอกจากนี้ตอนที่นายพลแมคอาร์เธอร์ของสหรัฐฯ ยกพลบุกเส้นขนานที่ 38 ของเกาหลี จีนห้ามข้ามแม่น้ำยาลู่ที่เป็นเส้นเขตแดนจีนแต่อเมริกาไม่เชื่อ ยกกำลังจะข้ามไป ก็ถูกทหารมาไล่จีนออกไป ย้อนไปสมัยราชวงศ์ชิง ทิเบตถือเป็นประเทศราชของจีน ทั้งอังกฤษและรัสเซียต่างก็ต้องการครอบครองทิเบต ต่อมาก็พยายามยุพระลามะให้เป็นกบฏ ซึ่งเหมาเจ๋อตงไม่ยอม เพราะถือว่าทิเบตเป็นของจีน เมื่อต่างชาติพยายามจะเข้ามาก็ยกกองทัพไปขับไล่ จนทะไลลามาะต้องหนีออกนอกประเทศจีนทุกวันนี้
หลังจากเจียงไคเช็กหนีไปไต้หวันและตั้งเป็นสาธารณรัฐจีนนั้น จีนไม่ยอมรับให้เป็นประเทศ และพูดมาตลอดว่าไต้หวันเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของจีน และคัดค้านการเป็นสมาชิกสหประชาชาติของไต้หวัน ในปี 1997 ที่มีการคืนเกาะฮ่องกงให้จีนนั้น ฝนตกทั่วเกาะ และในพิธีเชิญธงอังกฤษลงแล้วให้ธงจีนขึ้นแทนนั้น คนจีนต่างดีใจน้ำตาไหลที่ได้แผ่นดินกลับคืน มีแต่พวกไฮโซที่มีชื่อจีนปนฝรั่งเท่านั้นที่เสียดาย
นายสนธิกล่าวอีกว่า ก่อนปี 1997 นั้นนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ พยายามเจรจากับนายเติ้ง เสี่ยวผิง เพื่อหาทางเช่าเกาะฮ่องกงต่อ แต่เติ้งเสี่ยวผิงไม่สนใจ และด่านางแธตเชอร์จนหัวคะมำตกเก้าอี้ นี่คือผู้นำประเทศที่เห็นดินแดนเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ เขาเข้มแข็ง วันนี้จีนยิ่งใหญ่ในโลกการทูต เป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถ้าเขามีเรื่องหมู่เกาะสแปรตลีย์เขาไม่ยอม เรือญี่ปุ่นมาชนกับเรือจีนแล้วจับเรือจีนไปเขาก็ไม่ยอม ห้ามเอาคนจีนไปขึ้นศาล เพราะบริเวณที่เรือชนกันเป็นอาณาเขตของจีน
นายสนธิกล่าวว่า จีนกับญี่ปุ่นถือว่าเป็นมวยรุ่นเดียวกันก็ยังพอมีโอกาสที่จะทำสงครามกันได้ แต่เขมรกับไทยคนละเรื่อง กองทัพเรามีศักยภาพสูงกว่ามาก แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังปล่อยให้นายฮุนเซนเอารองเท้าตบหน้าวันละ 3 เวลา สมัยที่เวียดนามยังหนุนหลังเขมร จีนเคยทำสงครามสั่งสอนเวียดนามครามโดยการยกทหารจีน 5 แสนคนบุกเวียดนามผ่านมณฑลกวางสี เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าในโลกนี้เขามีแต่ปกป้องดินแดนของเขา
นายสนธิได้เล่าเกร็ดประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ซ้องว่า หลังจากที่จอมทัพงักฮุย ซึ่งเป็นนายทหารที่จงรักภักดี ถูกฉินไคว่ใช่เล่ห์เพทุบายเพ็ดทูลฮ่องเต้จนถูกประหารชีวิตแล้ว ก็ทำให้ราชวงศ์ซ้องแตก บ้านเมืองก็แตก ชาวเมืองจึงโกรธแค้นฉินไคว่และภรรยามาก จึงพากันจับฉินไคว่และภรรยาไปแขวนคอที่กำแพงเมือง และทำขนมปาท่องโก๋ เป็นตัวแทนฉินไคว่และภรรยา เพื่อกินให้หายแค้น
“ผมใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะให้มีการประหารชีวิตนักการเมืองที่ทำให้เสียดินแดน วันหนึ่งข้างหน้าจะได้ไม่มีใครกล้าทำให้เสียดินแดนอีก เพราะจะต้องถูกประหาร และไล่โคตรเหง้ามันออกไป อย่าให้มันอยู่ในประเทศไทย แต่ปัญหาสำคัญคือ งักฮุยบ้านเราอยู่ที่ไหน เรายังมองไม่เห็น” นายสนธิกล่าว