เลขาฯ ปชป.ง้างปากชี้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือเป็นความสวยงามตามระบอบ ปชต. เชื่อ “มิ่งขวัญ” มีศักยภาพ แต่ลีลาอาจแตกต่างกัน ยอมรับการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นเงื่อนไขในการยุบสภา แต่อ้ำอึ้งใช้แผนกระชับพื้นที่ อ้างน้ำมันปาล์มในประเทศไม่พอจึงต้องนำเข้าอีก 1.2 แสนตัน จี้พาณิชย์เอาผิดพวกกักตุนทำ ปชช.เดือดร้อน ยอมรับมีผลกระทบความนิยม รบ. เร่งทุกฝ่ายแก้ไข
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตีด้านความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยมีมติให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นผู้นำการอภิปรายในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ส่วนตัวมองว่าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเป็นความสวยงามอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบตามครรลองของประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองศักยภาพของผู้นำในการอภิปรายฯ อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า คนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับการยอมรับจากสมาชิกให้มาเป็นผู้นำในการอภิปรายฯ ก็ต้องเชื่อกันว่าเป็นผู้ที่มีฝีไม้ลายมือเป็นที่ยอมรับ ส่วนลีลาก็ต้องแล้วแต่
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะอยู่จนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ หรือจะยุบสภาก่อน นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลไม่รีบยุบสภาเพราะยังมีสิ่งที่จะต้องดำเนินการให้ครบตามปัจจัยที่นายกฯ บอกไว้ เมื่อถามว่าเห็นนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง บอกว่าอาจอยู่ไม่ถึงการทำงบประมาณปี 2555 เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตอนนี้พูดอะไรก็ถูกทั้งหมดก็ได้ หรือจะผิดทั้งหมดก็ได้เพราะเป็นเรื่องข้างหน้า สำหรับตนไม่มองว่าช่วงไหนเหมาะกับการเลือกตั้งเพราะทุกอย่างทำตามที่นายกฯ ประกาศ ถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย สถานการณ์บ้านเมืองไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจ มั่นใจได้ว่าลงไปเลือกตั้งแล้ว ไม่เป็นเหตุให้คนไทยทะเลาะกันรุนแรงไปมากกว่านี้รัฐบาลก็ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังอยู่ก็ยังถือว่าอยู่ในเงื่อนไขที่ยังไม่สามารถยุบสภาได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็ยอมรับว่ายังเป็นเงื่อนไขที่จะต้องหาทางให้จบโดยเร็ว แต่ตนก็ยังไม่คิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะอยู่กันนานขนาดนั้น เมื่อถามว่ารัฐบาลจะขอคืนพื้นที่หรือกระชับพื้นที่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องค่อยๆ เจรจาและหาทางแก้กันทุกวัน
นายสุเทพ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าได้คณะกรรมการฯ ได้มีมตินำเข้าน้ำมันปาล์มเข้ามาอีก 1.2 แสนตัน เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ผลผลิตปาล์มน้ำมันในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการที่จะบริโภคจริงๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะอนุมัตินำเข้ามาแล้ว 3 หมื่นตันก็ตาม แต่เรื่องราคาที่จำหน่าย เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ จะต้องไปบริหารจัดการ และควบคุมตามความเหมาะสม
“ต้องค่อยดูและแก้ไขกันไป เพราะปัญหามีตลอดโดยเฉพาะในเรื่องของราคาสินค้า ทั้งไข่ไก่ ทั้งราคาน้ำมันแพง หรือน้ำตาลแพง รัฐบาลมีหน้าที่แก้ไข ก็ต้องช่วยกันไป” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องราคาสินค้าแพงโดยเฉพาะไข่ไก่ชั่งกิโล ไม่เห็นมีผู้ประกอบการรายใหญ่ออกมาพูดเลย แสดงว่ามีการส่งซิกแนลกันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการส่งซิกแนลกันหรอก เพียงแต่ว่านายกฯ พยายามดูให้ประชาชนสามารถซื้อข้าวของด้วยความเป็นธรรม เมื่อถามว่ากรณีนี้ถือเป็นหนึ่งในโครางการประชาวิวัฒน์ของรัฐบาล หากประชาชนไม่พอใจนโยบายไข่ชั่งกิโล จะทำให้มีผลกระทบต่อความนิยมของประชาชนต่อรัฐบาลหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็ยอมรับว่าลำบาก ซึ่งรัฐบาลก็ต้องพิจารณากัน เราก็ต้องพยายามสร้างความสมดุลให้ได้ ซึ่งนายกฯ กังวลใจอยู่ตลอดแต่ผู้เกี่ยวข้องก็พยายามดูแลอยู่