“อภิสิทธิ์” ยังท่องคาถาใช้เอ็มโอยู 43 เป็นต้วแก้ปัญหาข้อพิพาท อ้อนกัมพูชาเคารพข้อตกลงปัญหาก็จะหมดไป ระหว่างนี้เล่น “สงครามจิตวิทยา” สั่งชักธงไทยขึ้นเสา ตอบโต้ “กัมพูชา” ดื้อไม่ยอมเอาธงลง พร้อมตรึงกำลังชายแดนเข้ม ยอมรับต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจะนานอีกแค่ไหน
วันนี้ (1 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ได้มีการหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนความคืบหน้าในการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด แกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่อยู่ระหว่างการตัดสินของศาลกัมพูชานั้น ตอนนี้ยังไม่ทราบความคืบหน้าตรงนี้ แต่ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รายงานเรื่องบริเวณพระวิหารว่าได้มีการชักธงไทยขึ้น และมีการตรึงกำลังกันอยู่ ทั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการรื้อถอนวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ แต่เป็นการพูดถึงก่อนหน้าที่ที่ทางกัมพูชาชักธงขึ้น ซึ่งเราเห็นว่า ทางกัมพูชาควรจะเอาธงลง โดยระหว่างนี้เราก็เอาธงของเราขึ้นไปก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างนี้เหมือนกับต่างฝ่ายต่างเผชิญหน้ากันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ครับ หมายถึงว่ามันก็ตรึงกำลังกันอยู่ แต่เรายืนยันว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้ถ้าทุกฝ่ายเคารพข้อตกลงปัญหาก็จะหมดไป ฉะนั้นเห็นว่าถ้าทุกอย่างกลับไปสู่กระบวนของการใช้เอ็มโอยูเข้ามาแก้ไขปัญหา ปัญหาก็จะลดลง ตรงนั้นน่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เมื่อถามว่า ระหว่างนี้ผู้นำของสองประเทศคุยกันไม่ได้เลยใช่ไหม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอย่างนั้น เมื่อถามว่า ตอนนี้โดยสถานะอยู่ระหว่างไหนในการที่จะดำเนินการผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีอยู่ในตอนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการติดต่อประสานงาน โดยทำอย่างไรไม่ให้เกิดความตึงเครียด หรือกระทบกับสิทธิของแต่ละฝ่าย
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกฯเคยบอกว่า อยากให้มีการพูดคุยกันระหว่างสองประเทศ ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิถุนายนนี้ และก่อนหน้านี้ได้มีการนัดหารือกับนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรี กัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เชิญไว้ ซึ่งเขาก็รับหลักการอยู่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกระทบส่วนนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยัง คิดว่าตรงนี้เป็นสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น เหมือนกับเรื่องป้ายถือเป็นสถานการณ์เฉพาะหน้า ก็ต้องคลี่คลายกันไป เมื่อถามว่า ต้องอยู่กับสถานการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้อีกนานแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราพยายามประสานงานให้เกิดความเรียบร้อย
