เลขาฯ “กษิต” เผยกระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์โต้เขมรแล้ว พูดแปร่งๆ! ยันไม่มีใครควรอ้างสิทธิพื้นที่พิพาท จี้กัมพูชาหยุดยั่วยุ ชี้เอ็มโอยู 43 แค่ช่วยการเจรจาไม่มีผลผูกพัน ด้านชายแดนพระวิหารตึงเครียด! ทหารแขมร์ส่งพลปืนใหญ่ รบพิเศษเสริม ขณะทหารไทยตั้งด่านเข้มห้ามคนเข้า
วันนี้ (30 ม.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังนายเขียว กันหะริด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาข่าวสารกัมพูชา เปิดเผยว่ากัมพูชาเตรียมกำลังพร้อมรบกับไทยฐานมีเจตนารุกดินแดนกัมพูชา พร้อมทั้งกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ปฏิเสธความต้องการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้กัมพูชาปลดธงชาติออกจากวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ใกล้กับปราสาทพระวิหาร โดยอ้างเป็นพื้นที่กัมพูชาว่า ทางกระทรวงฯ ได้ออกแถลงการณ์โต้แย้งแถลงการณ์ของกัมพูชาแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ควรมีใครไปอ้างสิทธิในพื้นที่นั้น และขอให้กัมพูชาหยุดพฤติกรรมใดๆ ที่จะเป็นการยั่วยุ หรือออกแถลงการณ์ที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ขณะที่บันทึกข้อตกลง MOU 2543 เป็นเพียงบันทึกความเข้าใจให้สองประเทศมีกลไกและกรอบการเจรจา ไม่ได้มีผลผูกพันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่รัฐบาลกัมพูชากล่าวอ้างในแถลงการณ์ดังกล่าว
ขณะที่บรรยากาศบริเวณชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยังมีความเคลื่อนไหวของทหารจากไทยและกัมพูชา โดยกัมพูชาส่งกำลังพลปืนใหญ่ กองพลหน่วยรบพิเศษ และกองพลจากภูมิภาคที่ 4 เข้ามาเสริม และสับเปลี่ยนเข้า-ออกอย่างต่อเนื่อง หลังประกาศพร้อมรบกับไทย ด้านทหารไทยตั้งด่านคุมเข้ม พร้อมห้ามประชาชนเข้าใกล้ชายแดนเด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อตลาดการค้าที่จุดผ่านแดนช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ ซึ่งมีตลาดนัดไทย-กัมพูชาทุกวันอาทิตย์ แม้จะยังเปิดการค้าตามปกติ แต่มีคนน้อยมาก ซึ่งได้รับผลกระทบมาตั้งแต่กัมพูชาชักธงชาติในพื้นที่พิพาท