“สมศักดิ์” เหน็บ “กษิต” เพี้ยนเพราะธาตุแท้กำเริบ ซัดพวกปากดีอ้างชุมนุมจะทำคนแถวชายแดนเดือดร้อน แล้วคนที่เขาถูกชาวเขมรยึดที่ดินไม่เดือดร้อนหรือ กระตุ้นสติ รบ.เราไม่ได้รุกรานใคร แต่ถ้าใครรุกรานเรา เราต้องสู้ไม่ใช่กลัวหัวหด พร้อมให้คำคม “สภาคือที่อยู่ของสัตบุรุษ ถ้าสภาไม่มีสัตบุรุษก็ไม่มีสภาพเป็นสภา”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายสมศักดิ์ โกศัยสุข"
วันที่ 27 ม.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า แปลกประหลาดมากทำไมบ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้ คนที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุดก็เมื่อมาเป็นนักการเมือง ไม่รู้ว่า นายกษิต ภิรมย์ เพิ่งเป็นหรือเป็นมานานแล้ว แต่ปกปิดเอาไว้อาการเพิ่งออกเมื่อได้ตำแหน่งรัฐมนตรี หรือว่าเป็นเพราะผูกไท้ใส่สูตร หรือเป็นเพราะเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หากไปนั่งแล้วเป็นแบบนี้ทุกคนแล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็มีลักษณะคล้ายๆ กัน ตนเชื่อว่า อีกไม่นานคงได้รู้ว่า นายกฯพูด คิดอะไรอยู่ เมื่อก่อน นายกษิต เคยพูดว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ของไทย แต่พอเป็นรัฐมนตรีกลับบอกว่าเป็นของกัมพูชาไปเสียได้ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า พฤติกรรมของคนมันอยู่ที่ธาตุแท้ ถ้าเป็นคนจริงคนต่อสู้มันจะไม่เพี้ยนอย่างนี้
ทั้งนี้ นักเลือกตั้งทั้งหลายส่วนมากพูดอย่างทำอย่าง เป็นเพราะไม่ได้เอาธรรมะนำหน้า ตนเคยพูดเสมอว่าอย่าดูคนที่คำพูดให้ดูที่พฤติกรรมแล้วจะรู้ว่าใครเป็นของแท้ ของแท้ต้องใช้เวลาพิสูจน์ คนที่ซื่อสัตย์จริงใจต่อสังคมมักจะถูกคนใส่ร้ายโจมตีเพื่อให้เกิดภาพลบจะได้แยกไม่ออก คนที่ไม่รู้ก็จะบอกว่าอย่าไปยุ่งกับการเมืองยุ่งการเมืองมันจะชั่วอีก สุดท้ายคนชั่วก็ครองเมืองอยู่ตลอดไป
“สภาคือที่อยู่ของสัตบุรุษ ถ้าสภาไม่มีสัตบุรุษ สภานั้นก็ไม่มีสภาพเป็นสภา หน้าที่ของผู้แทนประชรชน ต้องทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ นายกษิต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลักนโยบายที่เป็นสากลของประเทศต่างๆ เป็นไปในแนวทางเดียวกันหมด คือ คำนึงเสมอว่าไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร มีแต่ผลประโยชน์ของประเทศชาติเท่านั้นที่ถาวร นักการเมืองชั่วระหว่างประเทศสมคบกันแบ่งผลประโยชน์ อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าประชาธิปไตยแต่เขาเรียกว่าเผด็จการเสียงข้างมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ชาวบ้านเรียกร้องว่าเขามีหนังสือรับรองการทำกิน ส.ค.1 น.ส.3 แต่เข้าไปทำกินไม่ได้เนื่องจากทหารกัมพูชาเข้ามายึดครอง เขามาร้องเรียนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลแต่รัฐบาลช่วยอะไรไม่ได้ อย่างนี้จะมีหน้ามาประกาศประชาภิวัฒน์อีกหรือ รัฐบาลแก้ปัญหาให้คนยากจนไม่ได้ห่วงแต่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่มีงานอะไรจะทำ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี พอ ส.ส.สุราษฏร์ธานี เสียชีวิต ก็ให้ นายสุเทพ ลาออกแล้วไปเลือกตั้ง เบ็ดเสร็จ นายสุเทพ ก็กลับมาเป็นรองนายกฯเหมือนเดิม ทำให้สิ้นเปลืองภาษีประชาชนเปล่าๆ นี่หรือผลงานอันทรงเกียรติของรัฐบาล รัฐบาลมีหน้าที่โดยตรงในการรักษาอธิปไตยของประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 กลับไม่ทำ ยังไม่สะใจมากล่าวหาคนที่เรียกร้องให้รักษาดินแดนเป็นพวกคลั่งชาติอีก หากรัฐบาลคิดได้แค่นี้แล้วบอกว่าอยากอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี แนะนำให้ริบอาวุธของทหารคืนให้หมด จะไปซื้อทำไม เพราะเป็นเงินจากภาษีจากประชาชนทั้งนั้น อย่างจับคนไทยในพื้นที่ของไทยก็ทะลึ่งไปบอกว่าอยู่ในเขตแดนเขา แถมยังของคุณอีกที่จับคนไทยไปขึ้นศาล อ้างอย่าสร้างความตึงเครียดเดี๋ยวคนแถวชายแดนเขาเดือดร้อน ตนก็ต้องถามกลับไปว่าแล้วคนที่เขาถูกชาวกัมพูชาเข้ามายึดที่ดินทำกินเป็นหมื่นๆคนเขาไม่เดือดร้อนหรือ ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลแล้วที่เราออกมา รัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง
“เรามีเหตุผลเพียงพอในการต่อสู้เพื่อบ้านเมืองดำเนินรอยตามบรรพบุรุษ เราไม่ได้รุกรานใครแต่ถ้าใครรุกรานเรา เราต้องสู้ ไม่ใช่กลัวหัวหด ไม่อย่างนั้นคุณไม่สามารถทำหน้าที่ในฐานะรัฐบาลได้ สู้ไปทำงานที่คุณถนัดจัดมหกรรมแฟชั่นโชว์ดีกว่า” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราอย่าเหน็ดเหนือยกับการทำความดี ต้องอดทน หากไม่มีคนอย่างพี่น้องมาต่อสู้ คนก็ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่รู้ว่าหน้าที่รัฐบาลทำอะไรซึ่งนอกจากไม่แก้ปัญหาการทำมาหากินแล้วยังปล่อยให้ต่างชาติรุกรานอีก พวกเราลุกขึ้นต่อสู้รัฐบาลก็แว้งกลับมาต่อสู้กับเราอีก อย่างไรก็ดีหากรู้ตัวว่าผิดไปก็พอให้อภัยได้ แล้วประกาศออกไปเลยว่าเลยว่ายกเลิกเอ็มโอยู43 โดยอ้างว่าประชาชนมาชุมนุมต้องเคารพประชาชน จากนั้นก็ผลักดันให้คนที่บุกรุกออกไปเพราะเขาบุกรุกเรา เรื่องอย่างนี้อย่างนี้ทั่วโลกเขารับได้ เราไม่ได้รังแกใคร
“เรามีจิตสำนึกสาธารณ ชุมนุมเสร็จเราเก็บทำความสะอาดทุกอย่าง ไม่สร้างภาระให้สังคม หากการชุมนุมครั้งนี้ทำให้พี่น้องรถติดบ้าง เราต้องกราบแทบเท้าเพราะเราเห็นว่าบ้านเมืองต้องมาก่อนรถติด” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอถามนายกฯคำเดียวว่า ตอนนี้กัมพูชาบุกรุกเราจริงหรือไม่ เมื่อบุกรุกแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร หากตอบไม่ได้ก็ไม่สมควรเป็นนายกฯ แต่หากตอบว่าต้องทำตามรัฐธรรมนูญก็ต้องไปบอกกัมพูชาว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของไทย แล้วขีดเส้นตายให้ออกไปหากดื้อดึงจะเอาทหารบุก ตนมั่นใจว่าหากรัฐบาลประกาศนโยบายที่หนักแน่น คำสั่งชัดเจน ทหารผลักสามารถผลักดันชาวเขมรออกไปได้แน่