xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” ย้ำ MOU 43 แค่ถุงยางรั่ว แนะใช้ศักยภาพสั่งยกเลิก เชื่อเขมรไม่กล้าเปิดสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำนูณ สิทธิสมาน
ส.ว.สรรหา โต้ “มาร์ค” อ้าง 3 ข้อเรียกร้องพันธมิตรฯ จะนำไปสู่ภาวะสงคราม แค่ขู่คนไทยด้วยกันเอง ทั้งที่แสนยานุภาพทางทหารเหนือกว่ามาก ย้ำ เอ็มโอยู 43 แค่ถุงยางอนามัยที่รั่ว และไม่สามารถปกป้องอธิปไตยได้ แนะให้ยกเลิกทันที และใช้ศักยภาพที่เหนือกว่าทุกด้านเปิดโต๊ะเจรจา โดยไม่ต้องใช้กำลังทหาร



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายคำนูณ สิทธิสมาน"  

วันนี้ (26 ม.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้กล่าวบนเวทีรวมพลังปกป้องแผ่นดิน จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาระบุหากดำเนินการ 3 ข้อเรียกร้องของแนวร่วมพันธมิตรฯ จะนำไปสู่ภาวะสงคราม ซึ่งถือว่าเป็นการบิดเบือนและข่มขู่คนไทยด้วยกันเอง เพราะโดยนิสัยไม่นิยมใช้ความรุนแรง แต่หากรัฐบาลจะตระหนักให้ดี ศักยภาพของไทยเหนือกว่ากัมพูชา และไม่ได้หมายความว่า ต้องใช้กำลังทหารไปทำสงครามกัมพูชา แต่กองทัพต้องมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทย ในพื้นที่ที่มีข้อพิาท

ไทยนั้นมีแสนยานุภาพเหนือกว่ากัมพูชามาก ดังนั้น เราต้องใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ เพราะเมื่อเกิดปัญหาในพื้นที่แถบชายแดน หากรัฐบาลไทยแข็งกร้าว กัมพูชาก็ต้องถอย หลังจากนั้นเราก็ใช้หลักเจรจาผ่านทางการทูตตามมาตรฐานสากล

“ต้องยอมรับว่า ในอดีตประชาชนกัมพูชาเข้ามารุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยเรื่อยมา เพราะปัญหาการสู้รบภายในประเทศเขา แม้จะไม่มีเจตนา แต่รัฐบาลไทยในอดีตก็ปล่อยปละละเลย จนกลายเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ ทั้งที่เป็นแผ่นดินไทย จนกระทั่งเกิดเอ็มโอยู 43 และไปยอมรับการจัดทำแผนที่ฝรั่งเศส 1 ต่อ 2 แสน จนถูกนำขึ้นมาบนต้องเจรจา โดยเขมรก็จะใช้เป็นข้ออ้างในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งจะทำให้ไทยต้องเสียอธิปไตยแน่นอน จึงเป็นที่มาให้พันธมิตรฯต้องเรียกร้องให้ยกเลิก และถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลกในครั้งนี้” นายคำนูณ กล่าวและว่า

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์มาโดยตลอด ว่า รัฐบาลจะยึดหลักสันปันน้ำ และไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน แต่ไม่ยอมเลิกเอ็มโอยู 43 จึงถือว่าเป็นการขัดแย้งในอุดมการณ์ของตัวเอง หรือต้องการหลอกประชาชนคนไทยด้วยกันเอง เอ็มโอยู 43 ฉบับนี้ จึงกลายเป็นถุงยางอนามัยที่รั่ว ไม่มีประโยชน์ที่จะคุ้มครองอธิปไตยไทยอีกต่อไป และสามารถยกเลิกได้ทันที และทำเอ็มโอยูฉบับใหม่ โดยใช้หลักเจรจาโดยอยู่บนพื้นฐานที่เหนือกว่าทั้งด้านการทหาร เศรษฐกิจ และพลเมือง

ด้านนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ กล่าววว่า เอกสารต้นร่างของ เอ็มโอยู 43 ที่ทำขึ้นในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นั้น ระบุชัดเจนว่า ผูกพันกับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน โดยมีสารัตถะสำคัญคือไม่ต้องการให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียดินแดน แต่ในความเป็ฯจริงไทยเสียไปแล้ว และข้อที่ 8 ก็ไม่สามารถบังคับเขมรได้ ดังนั้น นอกจากนายกอภิสิทธิแล้วนายฮุนเซนก็ต้องการกอดเอ็มโอยูนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเขมรได้ประโยชน์และเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ด้านน้ำมันในทะเล ที่สำคัญคือทีโออาร์ 46 ที่ร่างกันตามดอ็มโอยู.2543 นั้นมีแต่แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนหมดแลย เอ็มโอยู.2543 จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และขอท้านายกฯ มาโต้กันเรื่องนี้ที่เวทีเลย

นายปานเทพ พัวพังษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธฺปไตยกว่า ที่นายอภิสิทธิ์ รวมทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าการยกเลิกเอ็มโอยู.2543 เป็นอันตรายและจะทำให้เกิดสงครามนั้น ไม่เป็นความจริง การคงเอ็มโอยู.2543 ไว้ต่างหากที่จะทำให้เกิดสงครามได้ง่ายกว่า เพราะเขมรสามารถรุกเข้ามาตั้งชุมชนในเขตแดนไทยได้มากขึ้น และจะกลายเป็นสงครามที่ใหญ่กว่า เมื่อชุมชนเขมรที่เข้ามาตั้งในเขตไทยใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น