“น้าชวน” ให้กำลังใจ จนท.ใต้ - เชื่อนายกฯ เจตนาดีชั่งกิโลขายไข่ - ค้านเคอร์ฟิวเด็ก

ประธานสภาที่ปรึกษาประชาธิปัตย์ เอาใจช่วยเจ้าหน้าที่แก้ไฟใต้ เผย เคยสั่ง “ถาวร” คลุกพื้นที่ แต่เจ้าตัวอ้างไม่มีอำนาจ ชี้ ปัญหาความมั่นคงไม่ใช่เรื่องทดลอง แนะศึกษาทั้งอดีตและปัจจุบัน - เชื่อ “มาร์ค” เจตนาดี ขายไข่ไก่เป็นกิโล - เผยโทร.ติง “ปณิธาน” ข่าวเคอร์ฟิวเด็ก 18 ยันทำไม่ได้ แนะเข้มงวดสถานบันเทิง แหล่งอบายมุขแทน

วันนี้ (20 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล ว่า ตนเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ เพราะเข้าใจดีว่าคนทำงานต้องเสี่ยงตลอดเวลา อีกทั้งยังได้ขอร้องนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ให้ไปอยู่ประจำในพื้นที่เป็นหลัก แต่ได้รับการชี้แจงว่าไม่มีอำนาจ ซึ่งตนคิดว่าอย่างน้อยหากมีคนประสานบ้างก็จะดี เพราะการเป็นหนึ่งเดียวกันในการทำงาน หรือการร่วมมือของแต่ละฝ่าย เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะโยนความรับผิดชอบไปให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแต่ผู้เดียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งมีทั้งเรื่องการป้องกัน การพัฒนาผสมผสานกันไป เพราะเขามองยาวไปข้างหน้า ต้องพัฒนาพื้นที่ ต้องมีอาชีพ ขณะเดียวกันต้องปราบปรามป้องกันไปด้วย

ส่วนการปรับโครงสร้าง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นั้น นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ต้องให้เวลาเรื่องนี้ เพราะกฎหมายเพิ่งออกมา ส่วนจะใช้ได้หรือไม่ต้องดูกันต่อไป เพราะปัญหาความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องทดลองที่พลาดมาเมื่อพ.ศ.2544-2545 เกิดจากการไม่เข้าใจปัญหา ที่เราสูญเสียไป 4,000 คน ก็มาจากความผิดพลาดครั้งนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อพลาดไปแล้วจะมาแก้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ไปถึงพลิกเปลี่ยนได้ทันที เพราะเงื่อนไขที่สร้างไว้ก็มีอยู่ คนที่ก่อเหตุร้ายก็มีตัวตน จะไปทำให้หมดไปทันทีคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็ควรจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้

เมื่อถามว่า การให้อำนาจ ศอ.บต.สามารถโยกย้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติงานในพื้นที่ได้จะส่งผลอย่างไรต่อการแก้ปัญหา นายชวน กล่าวว่า เป็นอำนาจในอดีตตั้งแต่สมัยก่อนที่มี ศอ.บต. ที่มีอำนาจจะสามารถเสนอได้และนายกฯ จะเป็นผู้สั่ง หากเห็นว่า เจ้าหน้าที่มีปัญหาสามารถขอเปลี่ยนได้ทันทีในวันนั้น ซึ่งเป็นความรวดเร็วที่ดี ถ้าใช้อำนาจในทางที่ถูกก็เป็นเรื่องดี ในพื้นที่ควรศึกษาทั้งอดีตและปัจจุบัน ว่า ในอดีตที่เขาทำได้ดีสามารถคลี่คลายปัญหาได้ แม้เหตุการณ์จะเปลี่ยนไป แต่สิ่งไหนที่เป็นจุดดีในอดีตก็ควรนำมาลองทบทวนดู แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปมาก

ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายให้มีการชั่งกิโลขายไข่ ว่า นายกฯ เสนอด้วยเจตนาดี เพราะเป็นวิธีหนึ่งในการลดต้นทุน แต่จะทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นราคาไข่ไม่ค่อยมีปัญหา จึงไม่มีแนวคิดในการชั่งกิโลไข่

ขณะที่แนวคิดห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกจากบ้านหลังเวลา 22.00 น.นายชวน กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่มีแนวคิดดังกล่าว ตนได้โทรศัพท์ไปหา นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้บอกไปยังรัฐบาลว่าเรื่องนี้ทำไม่ได้ เพราะเป็นการออกระเบียบห้ามเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่หวังดี อยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ซึ่งตนได้คุยกับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น) แล้วได้รับคำชี้แจงว่าไม่ได้ทำอย่างนั้น

นายชวน กล่าวต่อว่า แต่เมื่อเจตนาดีอย่างนี้ เราควรเข้มงวด สถานบันเทิง สถานที่เป็นแหล่งอบายมุข ใครที่ทำผิดกฎหมายจะต้องจัดการ โดยต้องรักษากฎหมายให้เข้มขึ้น จะเป็นวิธีป้องกันที่ดี เพราะแทนที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อน โดยผลจากการกระทำของคนส่วนน้อยก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ยังได้คุยกันเล่นๆ ว่า สมมติว่า เด็กอายุ 18 ปี อยากออกมาดูพระจันทร์ตอน 23.00 น.ก็มีสิทธิ์ที่ทำได้ เพราะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร