เป็ดเหลิม-เจ๊มิ่ง คู่ฟัดเพื่อไทย-เดือดก่อนศึกซักฟอก!!

ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจดาดเดาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าการประชุมพรรคเพื่อไทยในวันนี้(18 มกราคม) ผลจะออกมาอย่างไร แต่จากให้สัมภาษณ์แย้มๆออกมาจากบุคคลที่เกี่ยวข้องในพรรคทำให้มองเห็นถึงความขัดแย้งที่รุนแรงจนไม่อาจหาข้อสรุปได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้าอย่างแน่นอน

เริ่มจากคำพูดของ วิทยา บูรณศิริ กรรมการบริหารพรรค และเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ที่ในสมัยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปีที่แล้วเป็นผู้อภิปรายนำในสภาได้ระบุว่าการประชุมพรรคจะยังไม่มีการสรุปว่าจะให้ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคนนำทัพในศึกซักฟอกครั้งนี้ รวมไปถึงคนอื่นๆด้วย พร้อมทั้งไม่อาจระบุได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่

ถัดมาก็เป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาย้ำว่า หากพรรคเสนอให้ มิ่งขวัญ เป็นหัวหน้าทีมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เขาก็จะไม่ร่วมการอภิปรายเป็นอันขาด พร้อมทั้งย้ำให้ได้ยินชัดๆเป็นครั้งแรกว่า เขาเป็น “เพื่อน”กับ ทักษิณ ชินวัตร “ไม่ใช่ลูกน้อง”

แม้ว่ายังมีคำพูดในรายละเอียดตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอ้างว่าการอภิปรายเที่ยวนี้หากนำโดยมิ่งขวัญ จะออกมาแบบสมานฉันท์ ไม่รุนแรง เน้นนโยบาย ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่ประเด็น ความหมายอยู่ที่ “ถ้ามิ่งขวัญนำทีม เฉลิมก็จะไม่ร่วม” ประมาณนี้แหละ

อย่างไรก็ดีเพื่อให้เห็นภาพก็ต้องอธิบายให้เข้าใจเสียก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร และจะต่อเนื่องเกิดผลตามมาอย่างไรบ้าง

ก็ต้องบอกว่า ระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม กับ มิ่งขวัญ นี่ถือว่าถือว่าเป็น “คู่ฟัด” กันมานาน ภายในพรรคเพื่อไทยนี่รับรู้กันมานานแล้ว และเชื่อว่าอีกไม่นานอาจถึงขั้นแตกหัก อาจต้องไปกันไปข้างหนึ่งก็เป็นได้ แต่พิจารณาจากแนวโน้มแล้วน่าจะออกมาเป็นว่า “เหลิม” น่าจะเป็นฝ่ายไปเสียมากกว่า

เพราะหากพิจารณาจากข้อมูลส่วนบุคคลแล้วจะพบว่า ความขัดแย้งที่ฝังลึกนั้นถึงขั้น “เข้ากระดูก” กันเลยทีเดียว และเป้าหมายก็ไม่ใช่เฉพาะตัวบุคคล แต่ยังพาดพิงไปถึงคนที่ถือหาง “ดันหลัง” ตามมาอีก

ภาพภายนอกที่เคยเห็น จะพบว่าส่วนใหญ่ ร.ต.อ.เฉลิม จะออกมาให้สัมภาษณ์ถล่มฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง แต่ละครั้งถือว่าดุเดือดตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีโพล่งสบถคำว่า “อีหน่อย” ออกมาเมื่อตอนที่มีข่าวแย่งชิงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งคราวนั้นพุ่งเป้าไปที่แกนนำพรรคคนหนึ่งที่ติดอยู่ในบ้านเลขที่ 111 แต่ยังพยายามชักใย ส.ส.ในสังกัดให้ต่อต้านเขา และในวงการก็ย่อมรู้ดีว่า เฉลิม หมายถึงใคร

คราวนั้นมีการแถลงตอบโต้กันอย่างรุนแรงระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม กับตัวแทนที่เป็น ส.ส.ในสังกัดคือ วิชาญ มีนชัยนันท์ มาแล้ว

หรือล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยังออกมาระบุถึง “นักรบห้องแอร์” ที่วิจารณ์ความผิดพลาดของเขาโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงในช่วงที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยแล้วพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมในหลายเขตช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งก็รับรู้กันว่าหมายถึง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นั่นเอง

ความขัดแย้งที่คุกรุ่นกันภายในพรรคเพื่อไทยกำลังรอวันระเบิดได้ในทุกเวลา เพราะมีอยู่หลายกลุ่มที่ “ซ่อนดาบในรอยยิ้ม” กันทั้งนั้น ต่างฝ่ายต่างรอจังหวะ ถือว่าไม่มีใครฟังใคร อย่างไรก็ดีที่มีความชัดเจนโจ่งแจ้งมากที่สุดก็เห็นจะเห็นคู่ระหว่าง เฉลิม กับมิ่งขวัญ นี่แหละ และต่างฝ่ายต่างก็มีคนถือหางด้วยกันทั้งสิ้น

เริ่มจากฝ่ายมิ่งขวัญก่อน หากสำรวจผู้สนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรคแล้วถือว่ามีไม่น้อยเหมือนกัน ด้วยลักษณะนิสัยอ่อนน้อม “นุ่มนิ่ม” ประกอบกับมีการ “จ่าย” บ้าง อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก “ขาใหญ่” ฝ่ายตรงข้ามกับเฉลิม เช่น กลุ่ม สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกมาหนุนเต็มที่อย่างน้อยเป็นการดับฝันฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ก่อนและก่อนหน้านี้ไม่นานก็จะเห็น ส.ส.กลุ่มหนึ่งเดินทางไปพบกับทักษิณ เพื่อขอให้ไฟเขียวแม้ว่าสัญญาณยังไม่ชัด แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเสียงสนับสนุนเขาก็มีไม่น้อยเหมือนกัน

ขณะที่ฝ่าย ร.ต.อ.เฉลิม นั้นเป็นที่เข้าใจมานานแล้วว่าเป้าหมายและความฝันสูงสุดในชีวิตก็คือขอเป็น นายกรัฐมนตรีสักครั้งก่อนตาย ส่วนจะเป็นได้กี่เดือนกี่วันค่อยว่ากัน ทำทุกอย่างเพื่อเอาใจ ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยให้สนับสนุน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ผ่านสักที ล่าสุดยังมีข่าวว่าเตรียมปัดกวาดเก้าอี้รอให้ “น้องสาว” คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาเสียบตั้งแต่แรกแล้วทำให้เขานิ่งไปพักใหญ่ อย่างไรก็ดี แม้ว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรคหากเป็นของน้องสาวทักษิณ ก็ต้องทำใจยอมรับได้ แต่การที่จะมอบหมายให้ มิ่งขวัญ เป็นผู้นำทัพในศึกซักฟอกหรืออาจเลยเถิดไปถึงดันให้เป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” นี่ซิ มันรับไม่ได้

เมื่อรับไม่ได้มันก็อาจต้องระเบิดออกมา เพราะอย่างน้อยคำว่า “ผมเป็นเพื่อนทักษิณไม่ใช่ลูกน้อง” ก็เริ่มนำร่องออกมาแล้ว !!