“อัษฎา” เยือนกัมพูชา เข้าพบ “วาร์คิมฮง” เดินหน้าค้นหาหลักเขตที่สูญหาย 25 หลัก เริ่มต้นด้วยการส่งผู้เชี่ยวชาญค้นหาหลักเขต 1 และ 25 ที่ จ.พระวิหาร เผยงานเทคนิคไม่ต้องผ่านเห็นชอบจากรัฐสภาไทย ส่วนข้อตกลงเขตแดน (เจบีซี) 3 ฉบับจะส่งศาลรธน.ภายใน 30 วัน
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เปิดเผยรายงานข่าวของสำนักข่าวต้นมะขามของกัมพูชา รายงานวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนฝ่ายกัมพูชา นายวาร์ คิมฮง พบกับประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนฝ่ายไทย นายอัษฎา ชัยนาม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในช่วงเช้าวันนี้ ที่สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้หารือเกี่ยวกับการเริ่มต้นการเจรจาและจัดทำหลักเขตแดนที่ชะงักงันเนื่องจากการพิพาทเขตแดนระหว่างสองประเทศในช่วงสองปีที่ผ่านมา
นายวาร์ คิมฮง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือมีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การส่งผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเขตแดนไปค้นหาหลักเขตที่ 1 และหลักเขตที่ 25 ที่อำเภอจอมสะงำ จังหวัดพระวิหาร เขาเปิดเผยว่าฝ่ายไทยได้บอกกับตนว่าการทำงานเขตแดนลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีการรับรองของรัฐสภาไทยเหมือนข้อตกลงเขตแดนอื่น
นายวาร์ระบุว่า การเยือนกัมพูชาของประธานกรรมาธิการเขตแดนไทยเป็นก้าวบวกที่จะเร่งให้เกิดการเจรจาเขตแดนขึ้นอีกครั้ง “ผมคิดว่าการเยือนของประธานกรรมาธิการเขตแดนของไทยคนใหม่ครั้งนี้เป็นก้าวบวกที่จะเชื่อมต่อ (ความสัมพันธ์เขตแดน) อีกครั้ง” เขากล่าว
ขณะเดียวกัน นายอัษฎา ชัยนาม กล่าวว่า รัฐสภาไทยอยู่ระหว่างการอภิปรายข้อตกลงเขตแดนทั้ง 3 ฉบับ โดยระบุว่าอีก 30 วัน ข้อตกลงจะถูกส่งไปขอการรับรองจากศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งสองประเทศได้จัดทำหลักเขตแดนจำนวน 73 หลัก ตลอดแนวชายแดนที่มีความยาวมากว่า 300 กิโลเมตร ตามสนธิสัญญา ปี ค.ศ.1907 ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคเขตแดนของสองประเทศได้เริ่มค้นหาหลักเขตมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ขณะนี้พบหลักเขตจำนวน 48 หลัก มีเพียง 33 หลักที่ได้ทำการสำรวจและเห็นชอบแล้ว ส่วนอีก 15 หลักเขตที่ตรวจพบยังไม่ได้รับการตรวจสอบและให้ความเห็นชอบ ขณะที่ยังไม่พบหลักเขตอื่นอีก 25 หลัก และการค้นหาหลักเขตที่เหลือนั้นจะเริ่มต้นในเร็วๆ นี้