มหาดไทย แจงกรณีใช้กม.ความมั่นคง นำร่องในพื้นที่ 4 อำเภอจว.สงขลา เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการเมืองนำการทหาร แต่ขอเวลา 1 สัปดาห์เพื่อให้กฤษฎีกาพิจารณาฐานความผิด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา เพราะหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
วันนี้ (7 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากล่าสุดคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการประกาศกำหนดลักษณะความผิดอันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามความในมาตรา 21 แห่งพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เสนอ เพื่อประกาศใช้ในพื้นที่นำร่อง 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการเมืองนำการทหารของรัฐบาล ซึ่งจะต้องรอคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณารายละเอียดของลักษณะความผิดซึ่งมีรวม 18 ฐานความผิดภายใน 1 สัปดาห์
“ การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลมีจุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงด้วยความหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งฐานความผิดจะมีอาทิ ความผิดต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือกระทั่งการวางระเบิด โดยจะมีคณะกรรการที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการ 3 คณะ คือ คณะกรรมการรับมอบตัว คณะกรรมการกลั่นกรองและสอบสวนพิเศษ คณะกรรมการช่วยเหลือทางคดีและเยียวยา โดยเฉพาะการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกผู้กระทำความผิด ซึ่งจะต้องคำนึงถึงท่าทีความรู้สึกของผู้เสียหายด้วย และการสั่งยุติการดำเนินคดีโดยให้เข้ารับการอบรมในโรงเรียนสันติสุขยังขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลด้วย”
