ปปง.นัดประชุมตั้งคณะกรรมการยึดทรัพย์ พร้อมตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทำผิด ด้านเลขาธิการ ปปง.แจงเรื่องท่อน้ำเลี้ยงแดงเป็นการรายงานผลการดำเนินงาน
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ครั้งที่ 1/2554 ทั้งนี้ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รองเลขาธิการ ปปง.ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเลขาธิการ ปปง.ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ว่า ที่ประชุม ปปง.เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการธุรกรรม ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งมีการเสนอชื่อเข้ามาเป็นคณะกรรมการจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายวิรัตน์ ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นางกรรณิกา สารพานิช อดีตรองผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน นายกำชัย จงจักรพันธ์ ผู้แทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จาก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นายวรุจจ์พร นิมิตกุล อธิบดีอัยการฝ่ายคดีแพ่งกรุงเทพใต้ จากคณะกรรมการอัยการ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรม หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด สั่งยับยั้งการธุรกรรม และมีอำนาจสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินและพิจารณาคดีที่คั่งค้าง
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ปปง.ได้มีการพิจารณาร่างระเบียบของคณะกรรมการ ปปง.ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนจำนวนหนึ่งฉบับ และระเบียบการบริหารจัดการทรัพย์สิน จำนวนสามฉบับ โดยระเบียบทั้ง 4 ฉบับอาจจะต่อใช้ระยะเวลาซักระยะเพื่อพิจารณาร่าง และตรวจร่างกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง ซึ่งก็จะมีการพิจารณาระเบียบทั้ง 4 ฉบับอีกครั้งแล้วจะออกเป็นระเบียบของคณะกรรมการ ปปง.ตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า คณะกรรมการ ปปง.รับทราบการรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง.ในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยสำนักงาน ปปง.ได้ดำเนินการไปหลายเรื่อง อาทิ การรับรายงานธุรกรรม การบริหารจัดการทรัพย์สิน การดำเนินคดี การอายัดทรัพย์สิน ทั้งก่อนและหลังที่ไม่มีคณะกรรมการ ปปง.รวมทั้งการรายงานแผนยุทธศาสตร์ชาติในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยแผนนี้เป็นแผนของประเทศที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านกลุ่มการเงินที่เกี่ยวกับการก่อการร้าย เพราะไทยให้ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในเรื่องนี้
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังนำกรณีศึกษาสถาบันการเงิน หรือผู้มีหน้าที่รายงานธุรกรรมการเงินฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฟอกเงินให้คณะกรรมการ ปปง.พิจารณา รวมทั้งมาตรการรายงานผลการดำเนินการใช้ข้อมูลของสำนักงาน ปปง.เพราะบางกรณีมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมูลฐานหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามกฎหมายอื่นตามที่สำนักงาน ปปง.ส่งให้หน่วยงานต่างๆ ไปดำเนินการ ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะเป็นการกำหนดระยะเวลาและแนวทางให้หน่วยงานต่างๆ ว่า ได้รับข้อมูลหรือรายงานที่สำนักงาน ปปง.แจ้งไปแล้ว ต้องแจ้งกลับมาด้วยว่าเป็นเช่นใด ทั้งนี้ จะเสนอให้ ครม.พิจารณา เพื่อประกาศเป็นมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ปปง.มาตรา 25(1) ต่อไป จากนั้นจะหารือกับหน่วยงานต่างๆ ด้วยว่ามีความเห็นอย่างไรบ้าง
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยงของคนเสื้อแดง ในช่วงที่มีการชุมนุมเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ว่า เป็นงานที่ทำกันปกติและรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการ ปปง.ทราบ แต่จะไม่รายงานละเอียดมากนัก ว่า ไปตรวจสอบใครและอย่างไรบ้าง เพราะเอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารลับ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบในเรื่องนี้นั้นว่าพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม่นั้น ขอเรียนว่า มันเป็นรายงานผลการดำเนินงานตามกฎหมายในช่วงที่ผ่านมาว่าช่วงที่ ปปง.ทำงานใน 2 ปีเศษนั้น ปปง.ได้วิเคราะห์ธุรกรรมใดบ้าง
