“มาร์ค” เครียดงดจ้อสื่อ “เทพเทือก-กษิต-พีระพันธุ์” ตบเท้าหารือกรณี 7 คนไทยถูกจับกุม ด้านบัวแก้ว หมดท่าต้องรอประกัน 7 คนไทย สัปดาห์หน้า หลังตรงกับวันชาติเขมร “วีระ” ส่อเจอข้อหาจารกรรมข้อมูลด้วย หลังทราบข่าวถูกกักไต่สวนเป็นคนสุดท้าย
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล จากกรณีพิจารณาไต่สวนคดีคนไทยทั้ง 7 คน ของศาลกัมพูชา ทำให้ผู้นำรัฐบาลอย่างนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดทั้งวันที่ปฏิบัติภารกิจ และไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์ทุกวัน แม้ว่าจะมีสื่อจำนวนมากไปรอดักเพื่อขอสัมภาษณ์ก็ตาม
จนกระทั่งเมื่อเวลา 16.00 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เดินออกจากห้องทำงานตึกบัญชาการไปยังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า โดยในการหารือครั้งนี้ มี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งคาดว่า เป็นการหารือกันเพื่อช่วยคนไทยทั้ง 7 คน ที่มี นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.รวมอยู่ด้วย หลังจากที่ทางศาลกัมพูชาได้พิจารณาไต่สวนและตั้งข้อหาทั้ง 7 คนในวันนี้ โดยทั้งหมดใช่เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นเมื่อเวลา 17.00 น.นายสุเทพ พร้อมด้วย นายกษิต และ นายชวนนท์ ได้เดินออกมาจากห้องทำงานนายกฯ และเดินขึ้นไปยังห้องทำงานนายสุเทพ ที่ตึกบัญชาการอีกครั้งหนึ่งเพื่อหารือกันต่อ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ โดย นายสุเทพ บอกกับสื่อมวลชนว่า “ชวนนายกษิต ไปกินกาแฟที่ห้องทำงานผมต่อ”
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหวางการหารือ นายกฯไม่ได้มีสีหน้ากังวลแต่อย่างใด แต่ก็ติดตามความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ที่เมืองพนมเปญ ตลอด ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันว่า ศาลกัมพูชาจะตรวจสำนวนทั้ง 7 คนให้เสร็จในเย็นวันนี้ (6 ม.ค.) และหลังจากนั้นต้องรอดูว่าแต่ละคนจะมีข้อหาอะไรบ้าง เราจะได้ดูแนวทางในการยื่นประกันตัวต่อไป ซึ่งการไต่สวนสำนวนจะยังไม่สามารถนำไปสู่การตัดสินคดี และยังไม่สามารถยื่นประกันตัวได้ ตนเข้าใจว่า ต้องเป็นคนละวันกัน เพราะหลังจากการไต่สวนแล้ว ต้องมีเวลาไปเตรียมเอกสาร ให้ตรงกับข้อกล่าวหา ก่อนที่จะมีการยื่นประกันตัว
เมื่อถามว่า ในวันที่ 7 ม.ค.จะเป็นวันหยุดเนื่องจากเป็นวันชาติกัมพูชา และต่อไปก็ตรงกับวันหยุดราชการ เสาร์ อาทิตย์ เท่ากับว่า หยุดยาว 3 วัน นายชวนนท์ กล่าวว่า คงต้องเป็นอย่างนั้น และตนคิดว่า วันแรกที่เปิดทำการคงต้องดำเนินการทันที แต่ขณะนี้ที่ พนมเปญ ยังไม่ได้แจ้งมาว่าเสร็จหรือยัง ดังนั้น คงต้องรอก่อนว่า การไต่สวนสำนวนคนไทยทั้ง 7 คนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า กระบวนการที่จะดำเนินการช่วยเหลือ หลังจากที่สามารถทำได้ทันทีนั้น จะทำอย่างไร นายชวนนท์ กล่าวว่า ต้องรอดู หากเรายื่นประกันได้ และเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 7 คน ก็จะทำทันที ซึ่งจะมีความชัดเจนในวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.เมื่อถามต่อว่า ในระหว่างที่ยื่นประกัน และมีการตัดสินสำเร็จโทษกับ 7 คนไทยแล้ว จะมีการขอพระราชทานอภัยโทษเลยหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ถ้าประกันตัวแล้ว ทางกัมพูชาคงต้องใช้เวลาประมาณ 5 วัน ในการพิจารณาคำขอประกัน จึงต้องรอดูว่าเราควรยื่นประกันทันทีเลยหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องรอดูข้อกล่าวหาว่าเป็นอย่างไร ตอนนั้นแนวทางการต่อสู้จึงจะชัดเจน ส่วนหลักทรัพย์ในการขอประกันตัวนั้น ทางสถานทูตสามารถสำรองให้ได้ หากมีการร้องขอเข้ามา
เมื่อถามว่า วิธีการขออภัยโทษต้องทำอย่างไร นายชวนนท์ กล่าวว่า ทางรัฐบาลกัมพูชาต้องเป็นผู้ขอ และต้องดูอีกครั้งว่า คดีของแต่ละคนมีความแตกต่างกันอย่างไร ต้องรอผลตัดสินของศาลกัมพูชาออกมาก่อนจึงจะดำเนินการได้ เมื่อถามว่า โอกาสการประกันตัวของแต่ละคนไม่เท่าเทียมกันใช่หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ถ้าข้อหาไม่เหมือนกัน โอกาสในการประกันตัวก็จะแตกต่างกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้รับรายงานการตั้งข้อหาเพิ่มเติมคนไทยทั้ง 7 คนหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า 2 คนแรก คือ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้หญิงจากสันติอโศก อีก 1 คน ยังคงได้รับ 2 ข้อหาเดิม ส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับแจ้งเข้ามา ส่วนกรณี นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชันนั้น คิดว่า จะถูกไต่สวนเป็นคนสุดท้าย ส่วนจะถูกตั้งข้อหาโจรกรรมข้อมูลด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องรอดูการไต่สวนของเขาก่อน
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้าด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่า เป็นการหารือเรื่องการประกันตัว 7 แกนนำ นปช.ที่ยังถูกคุมขังอยู่
