xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” หมดท่า ส่ง “ไพร่กำมะลอวิระยา” ทำพิธีกรรมอำพรางตบตา!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผ่าประเด็นร้อน”

จะเป็นเพราะความเครียดหลายอย่างรุมเร้าเข้ามาทำให้คำพูดผ่านทางวีดิโอลิงก์เข้ามาเมื่อสัปดาห์ก่อนของ “อภิมหาไพร่แสนล้าน” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้คนได้เห็นธาตุแท้ จนเกิดการเคียดแค้นชิงชังมากขึ้นไปอีก

เพราะเป็นคำพูดที่สื่อให้เห็นว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาไม่ใช่ “อำมาตย์” อย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตามนัยที่มีการโหมโจมตีกันอยู่ทุกวันนี้ แต่ต้อง “เหนือ” ไปกว่านั้นแน่นอน

เช่น “อำมาตย์อายุแปดสิบกว่าอีกไม่กี่ปีก็ตายแล้ว” หรือ “อำมาตย์ท่านได้แบ่งสมบัติสร้างความมั่นคงให้กับลูกหลานแล้วก็ปล่อยประชาชนเป็นอิสระไปเถอะ” และ “มีการเพ็ดทูลว่าอีกไม่นานเสื้อแดงมันก็ฝ่อไปเอง” ฯลฯ

เพราะถ้านัยของความหมายอำมาตย์คือ พล.อ.เปรม ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะ พล.อ.เปรม อายุกว่าเก้าสิบปี ไม่ใช่อายุแปดสิบกว่า หรือถ้าพูดถึงเรื่องลูกหลานก็ไม่น่าจะใช่อีกเพราะ พล.อ.เปรม ไม่มีลูก หรือแม้กระทั่งคำว่า “เพ็ดทูล” นั้นก็มักจะใช้กับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นการเฉพาะ!!

ด้วยคำพูดดังกล่าวจะเป็นเพราะ “หลุด” หรือ “จงใจ” ด้วยอารมณ์โกรธกำลังกดดัน เพื่อส่งสัญญาณแบบ “พิเศษ” ก็ตาม แต่ทำให้ ทักษิณ ถูกตั้งคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่าการก่อม็อบเสื้อแดงครั้งหลังสุดมีเป้าหมายต้องการ “ล้มเจ้า” ใช่หรือไม่ คำถามในเรื่องความ “ไม่จงรักภักดี” กำลังถูกตอกย้ำขึ้นมาอีกครั้ง

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงบุคคลที่อยู่รายรอบตัวเขาที่ล้วนแล้วแต่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บางคนถูกจำคุกในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กำลังถูกดำเนินคดี มากมาย

จากคำพูดที่ออกมาจากปากดังกล่าวทำให้รู้ว่า “พลาด” ทำให้หลายคนเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า “ทักษิณ ไม่จงรักภักดี” และนี่คือที่มาของการ “แก้เกม” เพื่อลบล้างความรู้สึกดังกล่าวโดยเร็ว และนาทีนี้คงไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ “วิระยา ชวกุล” ที่มี “ภาพลวงตา” มานานว่า “ใกล้ชิดในรั้วในวัง” และด้วยฐานะของ “ท่านผู้หญิง” ก็ยังเชื่อว่าน่าจะนำมา “ต้ม” ชาวบ้านทั่วไปที่ยังมองภาพอย่างฉาบฉวย ทั้งที่ในความเป็นจริงหากพูดกันแบบสามัญเข้าใจกันง่ายๆก็คือถูก “เฉดหัว” ออกมานานแล้ว

เพราะจากคำยืนยันชัดเจนก่อนหน้าว่า วิระยา ชวกุล ไม่เคยเป็นนางสนองพระโอษฐ์ และพฤติกรรมและกิจกรรมของเธอที่ผ่านมาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนักพระราชวังแต่อย่างใด

ที่ผ่านมา วิระยา คนเดียวกันนี้ยังได้ก่อเรื่องอื้อฉาวกรณีจัดทำ “เสื้อสีฟ้า” เมื่อปี 2547 ซึ่งมีการกระทำในลักษณะส่อไปในทางแอบอ้างบังคับขายจนเกิดความเดือดร้อน และมีการร้องทุกข์ทำให้ทรง “ตกพระทัย” ไม่นึกว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จนต้องมี “รับสั่ง” ให้ยุติการจำหน่ายด้วยวิธีการดังกล่าวทันที

ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเรื่องเงินจากการจำหน่ายเสื้อดังกล่าวจำนวนหลายร้อยล้านบาทที่จนบัดนี้เธอก็ยังไม่ได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯตามที่มีการแอบอ้างเจตนารมณ์เดิมแต่อย่างใด และนี่ตัวตนที่แท้จริงของ วิระยา ชวกุล ที่เพิ่งถูกกระชากหน้ากากออกมาให้สังคมส่วนใหญ่ได้รับรู้ ทั้งที่ “วงใน” รับรู้กันมานานแล้วว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ทักษิณ มานาน และในยุครัฐบาลทักษิณ ก็ได้รับบำเหน็จรางวัลในลักษณะต่าง “พึ่งพาอาศัย” กันโดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มากมายจนนับไม่ถ้วน

ล่าสุด เมื่อค่ำวันที่ 24 มี.ค. วิระยาได้ก็ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้าอีกรอบเพื่อรับหน้าที่เป็นคนนำจุดเทียนชัยถวายพระพร ทั้งที่คนที่ยืนอยู่รายรอบหลายคนล้วนมีคำพูดจาบจ้วงล่วงละเมิดส่อไปในทางหมิ่นสถาบันแทบทั้งสิ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เธอ ก็เคยเปลือยตัวตนให้เห็นมาแล้วด้วยการขึ้นเวทีเพื่อการันตีให้กับ ทักษิณ กับพวกว่าจงรักภักดี

หากพิจารณากันแบบไม่มีอะไรซับซ้อนก็จะเข้าใจได้ทันทีว่า การทำพิธีจุดเทียนชัยฯที่นำโดย วิระยา ครั้งนี้ก็เพื่อดับกระแสสังคมที่เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า ทักษิณ และแกนนำคนเสื้อแดงบางคนไม่จงรักภักดี หลังจากที่เพิ่งหลุดคำพูดออกมาคำโตตอกย้ำความเข้าใจอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน และการทำพิธีครั้งนี้ยังต้องการตรึงม็อบคนเสื้อแดงทั้งที่กำลังร่วมชุมนุมหรือที่กำลังจะถูกเกณฑ์เข้ามาสมทบในวันเสาร์นี้ เป็นเหมือนกับการทำพิธี “อำพราง” ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

เพราะหากรู้ข้อเท็จจริงแล้ว วิระยา ชวกุล คนที่กำลังทำพิธีและการันตีอยู่นั้น หากเปรียบเทียบก็ไม่ต่างจาก ทักษิณ ชินวัตร ว่าพฤติกรรมที่ย้อนกลับไปในอดีตและปัจจุบันนั้นกำลังทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ รวมไปถึงการสร้างภาพให้สังคมเห็นว่า “ใกล้ชิดในรั้วในวัง” จนเกิดเรื่องอื้อฉาวในทาง “มิชอบ” ตามมาหรือไม่

กำลังโหลดความคิดเห็น