“เสธ.แดง” แขวะตำรวจมั่วท่ายิงอาร์พีจีกลาโหม คาดฝีมือมือที่ 3 แต่อยู่ฝั่งแดงทำ ชี้หวังดิสเครดิตทหาร เตือนรัฐระวังทหารแตงโม รับขนบึ้มเข้ากรุงอันตราย จ่อเกิดสงครามกลางเมือง อ้างเฉยยุบสภาแก้ได้ เชื่อมืดบอดจับคนร้าย พูดเป็นนัยภาพสเกตช์หน้าคล้าย “สัณฐาน”
วันนี้ (23 มี.ค.) พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเหตุคนร้ายยิงระเบิดอาร์พีจี หมายทำลายกระทรวงกลาโหมว่า จากการที่ตำรวจแสดงท่ายิงอาร์พีจี และแบกเครื่องยิงทางไหล่ซ้ายนั้น ปกติอาวุธสงครามอาร์พีจีไม่มีใครยิงไหล่ซ้าย แต่ต้องยิงทางไหล่ขวา เนื่องจากท่อแก๊สอยู่ฝั่งขวา ดังนั้น หากยิงซ้ายจะทำแก๊สพุ่งออกมาทำให้คนยิงตาบอดได้ คนถนัดซ้ายยิงอาร์พีจีไม่ได้ ส่วนคนก่อเหตุคาดว่าเป็นมือที่ 3 ที่เห็นด้วยกับม็อบแดง มีอุดมการณ์ และไม่พอใจการปกครองของรัฐ แต่ขาดความชำนาญ
พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ข้าศึกม็อบคือทหารที่อยู่ภายใต้ระบบอำมาตย์ จึงต้องการยิงสัญลักษณ์ความเป็นทหาร คือกระทรวงกลาโหม เป้าหมายคงต้องการดิสเครดิตทหาร ขณะนี้ทหารมีเอกภาพ และที่ยังช่วยปกป้องรัฐบาล เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่อย่าลืมว่าทหารที่ออกปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารแตงโม หากวันใดไม่รับคำสั่งจะเป็นความฉิบหายของรัฐบาลและทหาร แต่หากวันใดรัฐบาลทะเลาะกับกองทัพทหารก็จะยึดอำนาจ
“ขณะนี้อาร์พีจีที่เป็นอาวุธสงครามเข้ามาในกรุงเทพฯ ทำให้เป็นเรื่องอันตรายและน่ากลัว เพราะอาวุธสงครามอาร์พีจียังไม่เคยมีใช้ในภาคใต้ แต่กลับเข้ามาในกรุงเทพฯ ทำให้อาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ เพราะถือเป็นสิ่งบอกเหตุว่าอาจเกิดการก่อความไม่สงบของประชาชนขึ้น แล้วจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง ดังนั้น รัฐบาลควรยุบสภา อย่าดันทุรัง เพราะดูแล้วอันตรายมาก เชื่อว่า จะจับคนร้ายไม่ได้ และดูจากภาพสเกตช์คนร้ายคล้ายหน้า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพราะอยากให้คดีจบเร็วๆ” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว