“เทพไท” ซัด “ทักษิณ” ยั่วยุตัวพ่อ ปูดพวกจ้องสอยแดงกันเองก่อนใส่ร้ายรัฐ

“เทพไท” จี้แกนนำเสื้อแดง เคารพหน้าที่นายกฯ ยันรัฐพยายามประนีประนอมแล้ว ขู่ใช้มาตรการเด็ดขาดหากปิดล้อมกระทรวงสาธารณสุขไม่ให้ประชุม ครม.ชี้ “แม้ว มอนเตฯ” ส่งสัญญาณยั่วยุ คุกคามเจ้าหน้าที่ ปูดมีคนจ้องสร้างความรุนแรงป่วนแดงกันเองก่อนหาเหยื่อใส่ร้ายรัฐ จวก “ทักษิณ” ชอบทำตัวเหนือกฎหมาย แนะสังคมจับตาม็อบล้มเจรจาส่อเกเรหรือไม่ ถาม “อ๋อย มกจ๊ก” “ไข่แม้วดำ” มีอำนาจเด็ดขาดเหนือคนเสื้อแดงหรือไม่

วันนี้ (22 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศเคลื่อนไหวติดตามการทำงานของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปทุกที่ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ ว่า อยากเรียกร้องให้แกนนำ นปช.เคารพการทำหน้าที่ของกันและกัน โดย นปช.ควรชุมนุมตามกรอบของกฎหมาย และเปิดโอกาสให้รัฐบาลบริหารประเทศได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวของ นปช.ที่ผ่านมา ได้ยกระดับการกดดันและท้าทายอำนาจรัฐอยู่หลายครั้ง แต่รัฐบาลก็พยายามที่จะประนีประนอมและอดทน แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนจำนวนมากให้รัฐบาลใช้ความเด็ดขาด ในการแก้ปัญหาผู้ชุมนุม แต่รัฐบาลก็ยังยืนยันในหลักการเดิม แต่การประกาศที่จะปิดกั้นการประชุม ครม.ที่กระทรวงสาธารณสุข ถือว่า เป็นการขัดขว้างการปฏิบัติหน้าที่ โดยรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องใช้ความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา กลุ่มผู้ชุมนุมจะมากล่าวหาว่า รัฐบาลปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมรุนแรงไม่ได้ เพราะเชื่อว่า หลังจากนี้ จะต้องมีการชุมนุมในลักษณะที่ผิดกฎหมายอยู่อีกหลายครั้ง เพราะมีสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ปฏิบัติกับรัฐบาลในลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟัน กดดันและยั่วยุให้เกิดความรุนแรงให้ได้ เช่น การปิดล้อมสถานที่ราชการ รวมทั้งปฏิบัติการเต็นท์ต่อเต็นท์กับเจ้าหน้าที่ ก้าวล่วง คุกคามต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในลักษณะการเข้าไปตรวจค้นอาวุธในขณะที่กำลัง ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

นายเทพไท กล่าวอีกว่า การไล่ล่านายกฯ ไปในทุกที่ ก็ถือว่าเป็นการคุกคามเช่นเดียวกัน จึงอยากให้สังคมจับตามองการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และ เหตุการณ์ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ที่จะต้องโยนความผิดมาให้รัฐบาล ทั้งนี้ ฝ่ายข่าวของรัฐบาลได้รายงานมาโดยตลอดว่า มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการที่จะสร้างความวุ่นวายในช่วงที่ผ่านมาและอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งถ้าหนนี้ไม่ประสบความสำเร็จก็จะมีเหตุการณ์สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ชุมนุม และถ้ามีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ก็จะนำเหยื่อเหล่านี้มาแห่เพื่อกดดันและใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือรัฐบาล ทั้งๆ ที่ขณะนี้แกนนำผู้ชุมุนมก็มีความขัดแย้ง แต่ทุกกลุ่มก็ยังขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว ที่ผ่านมา ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น กลุ่มสามเกลอก็จะโยนความผิดให้รัฐบาล ว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นผู้กระทำ จึงอยากถามว่าถามเป็นการกระทำของกลุ่มสามเกลอเท่านั้นจึงเรียกว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดงใช่หรือไม่

นายเทพไท ยังกล่าวถึงการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและ ใส่ร้ายนายกฯว่าเป็นบุคคลไม่ยอมรับกติกา โดยยกกรณีการบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีกติกาหรือกฎหมายใดที่บัญญัติว่าพรรคการเมืองทุกพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาจะ ต้องลงรับสมัครการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหากที่ไม่ยอมรับกติกา พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี ก็ไม่ยอมรับโทษ ศาลตัดสินยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ก็ต่อต้านคำพิพากษา ส่วนที่กล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงเลือกตั้ง ทำให้ทหารออกมาปฏิวัตินั้น ก็ไม่เป็นความจริง เหตุผล 4 ข้อของการปฏิวัติไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ และที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โอ้อวดว่าเป็นนายกฯ ที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยบอกว่า 4 ปีแรกเป็น 4 ปีซ่อม และ 4 ปีหลังเป็น 4 ปีสร้าง ก็ไม่เป็นความจริง เพราะ 4 ปีแรกเป็นการซ่อมพร้อมการโกง ส่วน 4 ปีต่อมาก็สร้างหนทางโกง แสดงว่าตลอดการดำรงตำแหน่งของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการทำงานท่ามกลางการโกงบ้านโกงเมืองจนเกิดการปฏิวัติ

นายเทพไท กล่าวอีกว่า ส่วนที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการเจรจา แต่แกนนำ นปช.กลับล้มโต๊ะเจรจาเสียก่อน และยังสร้างเงื่อนไข จนทำให้การเจรจาไม่สามารถเดินหน้าได้ ทั้งที่รัฐบาลได้แสดงความจริงใจ และพร้อมที่จะให้การเจรจาเกิดขึ้นและมีผลในทางปฏิบัติ แต่ไม่สามารถที่จะทำได้ จึงอยากให้สังคมได้จับตาดูว่าม็อบคนเสื้อแดง เป็นกลุ่มม็อบเกเรใช่หรือไม่ ส่วนที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมาเสนอว่า คู่เจรจาหลักควรเป็นนายกฯ กับนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดงนั้น ส่วนตัวนายกฯ ก็ไม่ขัดข้อง เพราะนายกฯ มีอำนาจตัดสินใจโดยตรงอยู่แล้ว แต่อยากจะถามว่า นายวีระ ในฐานะแกนนำนปช.มีอำนาจเด็ดขาดหรือไม่ ใช่เจรจาไปพลาง โทรศัพท์หา พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพลาง ก็ไม่สามารถทำให้การเจรจาประสบความสำเร็จได้ เหมือนกรณีที่รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายขึ้นมาพิจารณา เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อได้ข้อสรุป 6 ประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ประโยชน์อย่างที่ต้องการพรรคเพื่อไทยก็ถอนตัว ทำให้ข้อสรุปไม่สามารถเป็นจริงในทางปฏิบัติ จึงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และอยากเตือนให้ลิ่วล้อพ.ต.ท.ทักษิณออกมาแสดงความเห็นในลักษณะเล่นละครตบตา ประชาชน เพราะทั้งๆ ที่ปัญหาทั้งหมด และการตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว