เครือข่ายสันติวิธี เสนอตั้ง “กอร์ปศักดิ์” กับ “หมอเหวง” เป็นตัวแทนจากสองฝ่ายเจรจาหาทางออกจากวิกฤต ด้าน “สาทิตย์” ชี้กลุ่มคนเสื้อแดงนำเลือดไปเทหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องไม่สมควร เชื่อนายกฯ ไม่สบายใจ ย้อนถามคนที่ทำถ้าโดนกับบ้านตัวเองจะรู้สึกอย่างไร ส่วน “วิระยา” ขึ้นเวทีเสื้อแดงถือเป็นเรื่องปกติ เพราะรู้มานานแล้ว เย้ย “แม้ว” พยายามจุดประเด็นต่อสู้เรื่องชนชั้น แต่จุดไม่ติด
ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) เมื่อเวลา 13.30 น. เครือข่ายสันติวิธี ประกอบด้วย ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธีมหาวิทยาลัยมหิดล เครือข่ายพุทธิกา กลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธี กลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง และเครือข่ายอื่นๆ ได้ยื่นหนังสือต่อนายสาธิต วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเสนอให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกจากวิกฤต ซึ่งอยากให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายรัฐบาล และนายแพทย์เหวง โตจิราการ ได้มีการศึกษาและวางกรอบเพื่อเตรียมการเจรจา โดยมุ่งตอบสนองความห่วงใย และจุดมุ่งหมายอันชอบของทั้งสองฝ่าย เช่น การเลือกตั้งที่ชอบธรรม และ เป็นที่ยอมรับหลังจากที่ยุบสภาภายในกรอบเวลาที่เห็นพ้องกัน การแก้ไขปัญหา หรือความขัดแย้งบางประการ
เครือข่ายสันติวิธีกล่าวอีกว่า ในส่วนข้อหัวในการเจรจาควรจะเลือกเฉพาะประเด็นที่ตกลงกันได้ ประเด็นที่ยากซับซ้อน ยากแก่การแก้ไขความขัดแย้งก็ไม่ควรจะพิจารณาควรเน้นข้อตกลงในเชิงกระบวนการ เพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมาย มากกว่าในเรื่องเนื้อหารายละเอียด ซึ่งจะต้องเจรจากันต่อไป หลังบรรลุข้อตกลงเพื่อเป็นทางออกของวิกฤตในครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีความตึงเครียดสูง จึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการโดยรีบด่วนดังนี้ รวมถึงสื่อมวลชนเปิดพื้นที่ที่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ในเรื่องการพูดคุย และการเจรจากัน อันเป็นการหาทางออกของวิกฤต และการเตรียมการสู่การเลือกตั้งที่ชอบธรรม และเป็นที่ยอมรับ ทั้งฝ่ายรัฐบาล และ นปช. เริ่มพูดคุยกันอย่างเร่งด่วน อันจะนำไปสู่การเจรจาหาทางออกร่วมกันจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในครั้งนี้ ซึ่งนายสาทิตย์ รับปากกับเครือข่ายสันติว่านำเรื่องดังกล่าวไปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
หลังจากนั้น นายสาทิตย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำเลือดไปเทบริเวณหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี พร้อมกับนำเลือดที่ใส่ถึงไว้ปาใส่หลังคาบ้านว่า คนหลายฝ่ายไม่สบายใจ บ้านของนายกรัฐมนตรีเป็นบ้านพักยังมีลูกที่เรียนหนังสือ และมีพ่อแม่ที่สูงอายุมากแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องไปทำในลักษณะแบบนั้นการใช้เลือดเป็นสัญญลักษณ์ที่จะทำให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเราไม่ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น การขวางปาเลือดเข้าไปในบ้านเป็นภาพที่สะเทือนใจคน หลายคนแสดงความไม่สบายใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้คิดว่านายกรัฐมนตรีก็คงจะรู้สึกลำบากใจในเรื่องนี้ ซึ่งการดำเนินการในลักษณะแบบนี้ควรจะมีสติยั้งคิด ขณะนี้ที่เราเป็นห่วงคือประเด็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเป็นเงื่อนไขที่ไร้ยุทธศาสตร์ไม่มีสติในการกำกับควบคุม กลายเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมไม่สบายใจในฝ่ายของเราก็พยายามใจเย็นที่สุดเพื่อให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็วที่สุด ฉะนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านนายกรัฐมนตรีควรจะเป็นที่สุดท้ายที่จะทำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็เป็นคนที่มีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตย ทั้งนี้ไม่มีการเรียกร้องไหนที่บอกว่าสันติวิธีแล้วไปรุกรานถึงที่อยู่อาศัย
“การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไปกระทำต่อที่ทำงานก็จะเข้าใจว่าเป็นการต่อสู้ในเชิงสัญญลักษณ์ แต่ไม่เข้าใจว่าการต่อสู้ในเชิงสัญญลักษณ์กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทำไมต้องไปที่บ้านพักของนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งไม่มีเหตุผลอธิบาย และไม่ใช่การต่อสู้ทางสันติวิธี ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ชาติที่มีอารยะไม่ทำกัน เรามีความกังวลถึงวิธีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่สะเปะสะปะไม่มีทิศทางเลอะเทอะ แต่วันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังจะเกินเลยขอบเขตที่ควรจะทำ เจ้าหน้าที่พยายามจะป้องกัน แต่ไม่รู้ว่าบ้านหลังต่อไปจะเป็นของบุคคลใด และเจ้าของบ้านจะยอมหรือไม่เพราะเป็นสถานที่ส่วนบุคคลทุกคนมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่จะได้รับการปกป้อง คนที่ไปทำถ้าโดนกับบ้านตัวเองจะรู้สึกอย่างไร โดนกับลูกเมียตัวเองจะคิดอย่างไร ต้องคิดด้วยไม่ใช่ว่าคุณทำต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วไปถึงบ้านถึงครอบครัวพ่อแม่ของเขา ศอ.รส.ไม่คิดที่จะสลายการชุมนุม แต่เมื่อมาถึงจุดนี้จะต้องมีสติในการเคลื่อนไหว ฝ่ายรัฐบาลก็พยายามนิ่งที่สุด อย่างไรก็ตาม เห็นว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง ยังสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ ทั้งนี้ประชาชนเห็นแล้วว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร ประชาชนต่างจังหวัดไม่เห็นด้วย เพราะทิศทางการเคลื่อนไหวมันเกินเลย” นายสาทิตย์กล่าว
นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พยายามจุดประเด็นเรื่องการต่อสู้เรื่องชนชั้น แต่ก็จุดไม่ติดในขณะที่เขาเรียกร้องให้คนจนหอบลูกหอบหลานพ่อแม่มาร่วมชุมนุมนอนตากแดด ตากยุง แต่ตัวของเขาเองนั่งกินไอศกรีมที่ยุโรป ลูกเมียก็เดินช็อปปิ้งสบายใจที่สวิตเซอร์แลนด์ ต่อสู้ทางชนชั้นมันไม่ได้เงื่อนไขมันไม่ให้ เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวของท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ด้วยการขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดง จะมีการจุดประเด็นเรื่องชนชั้นหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องท่านผู้หญิงวิระยาไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจทุกฝ่ายรู้กันอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องการประสานงานทางแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ให้ความร่วมมือดี แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ให้ความร่วมมือ และแกนนำเองก็มีปัญหาไม่ร่องรอยกันจึงอยากต่อการประสานงาน ที่เราจับตาดูอยู่กลุ่มที่นิยมความรุนแรง ดูทิศทางการเคลื่อนไหวว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่าข่าวการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นในเวลานี้ นายสาทิตย์กล่าวว่า เป็นข่าวที่มีมาตลอด ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ นายกรัฐมนตรีมาพักที่ ร.11 รอ. ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีการพูดถึงเลยว่าหากมีการชุมนุมอย่างสันติจะไม่มีการกระทำแบบนี้ ซึ่งเราจะต้องระมัดระวังตลอด ฝ่ายข่าวก็มีการแจ้งเตือนนายกรัฐมนตรีมาตลอดว่าให้นายกรัฐมนตรีระวังตัว ส่วนจะเป็นกลุ่มไหนไม่มีการระบุชัดเจน ทั้งนี้ ยืนยันว่าข่าวการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีมีมาตลอด โดยมีการรายงานจากหน่วยข่าว เหตุการณ์ในขณะนี้แกนนำมีการแตกคอกัน และกลุ่มที่นิยมความรุนแรง มีบทบาทในการเป็นแกนนำมากขึ้น เราก็กังวลเหตุการณ์รุนแรงจะเกิดขึ้น