เส้นทางฝ่าวิกฤติ
ในคืนวันที่ 16 มีนาคม ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย “ศอ.รส.” ประกาศใช้มาตรการคุมเข้ม 38 จุด กรุงเทพฯ ปริมณฑล หลังการข่าวจากมิตรประเทศมหาอำนาจ แจ้งเตือนวินาศกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อฝ่ายความมั่นคงของไทย
โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับไม่ใช่ข่าวปล่อย แต่เป็นของจริง สร้างความกังวลรัฐบาล ไม่เป็นอันหลับนอน
ต้องคอยเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง!
** เหตุเพราะการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ผูกขาดการนำโดย 3 เกลอ นายวีระ มุกสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและนายจตุพร พรหมพันธุ์ ไร้ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวที่แน่นอน
ปฏิบัติการมาหลายวัน ยังไม่สามารถนำมวลชนเคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาลยุบสภาฯได้ ตามที่ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษชาย ตั้งเป้าหมาย “ล้มกระดานเลือกตั้งใหม่”
แม้บริวาร 3 เกลอ จะยกระดับการเคลื่อนไหวแบบพิสดารด้วยการระดมเจาะเลือดมวลชนคนเสื้อแดง ประกอบพิธีมนต์ดำก่อนชโลมลงดินส่งกลิ่นคาวคลุ้งทั้งหน้าทำเนียบรัฐบาล หน้าพรรคประชาธิปัตย์และบริเวณหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี ไปแล้วก็ตาม
**ทุกอย่างยังเหลว...!!!
แต่ความล้มเหลวเหล่านั้นไม่ได้เป็นเหตุให้สงครามป่วนเมืองต้องยุติลง ในทางกลับกันยิ่งทำให้ “นายใหญ่” คิดก่อการร้ายรุนแรงทวีคูณสูงขึ้นด้วยการส่งสัญญาณให้แกนนำฮาร์ดคอร์เตรียมพร้อมออกปฏิบัติงานใต้ดิน
**พวกสายเหยี่ยว ทหารเลว พร้อมลงมือทันที!
ค่ำคืนจากนี้ไปอาจได้ยินเสียง บึ้มๆๆ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงเน้นเฝ้าระวังไปที่สัญลักษณ์อำมาตยาธิปไตยและบ้านพักบุคคลสำคัญๆมากมายที่ “ทักษิณ”มองเป็นศัตรู
**ถือเป็นแผนสองของนายใหญ่ ที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลมาแต่แรก และก่อนที่การชุมนุมคนเสื้อแดงจะเริ่มขึ้นด้วยซ้ำไป
เวลานี้เชื่อว่าแกนนำ 3 เกลอกำลังคิดหาทางลง ยุติการชุมนุมในเวลาอันใกล้ เหตุเพราะ ณ วันนี้ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มเหนื่อยล้า อ่อนแรงและทยอยถอยกลับบ้านกันจนเหลือจำนวนมากบางตา แม้ “นายใหญ่”จะวีดีโอลิงค์ปลุกใจบริวาร ให้ผลัดเวียนเปลี่ยนกำลังกันมา เพื่อความสำเร็จของเป้าหมาย แต่คงสำเร็จยาก ฝนฟ้าก็ไม่เป็นใจ ตกกระหน่ำ เนื้อตัวเปียกปอน กินนอนลำบาก
**อย่างไรก็ตาม แม้คนเสื้อแดงจะทยอยถอยกลับสู่มาตุภูมิครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าไปแล้วไปลับ
เชื่อกันว่า มวลชนคนเสื้อแดงจะกลับมาเคลื่อนไหวป่วนเมืองอีกครั้งตามความต้องการของนายใหญ่
แต่ก่อนจะยุติการชุมนุมครั้งนี้เชื่อว่านายใหญ่คงไม่ยอมที่จะไม่ได้อะไรจากการต่อสู้ คงต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งมันน่าจะเป็นความหายนะบางสิ่ง บางอย่างที่เขาอยากให้เป็น
ล่าสุดการที่ “นายใหญ่และบุตรชาย”ทวิตขอบคุณคนเสื้อแดงพร้อมแจ้งจะเดินทางกลับเข้าเมืองดูไบในวันศุกร์นี้นั้น
มันน่าจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า การเคลื่อนไหวป่วนเมืองของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงน่าจะยุติลงในสัปดาห์นี้
เหตุเพราะดูไบไม่อนุญาตให้ “นายใหญ่”ใช้ผืนแผ่นดินเขาสั่งการเคลื่อนไหวทางการเมือง
แต่หากศุกร์นี้ “ทักษิณ” ยังไม่กลับดูไบหรือดูไบไม่อนุญาตให้เขาเข้าประเทศ การเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดงคงต้องเหนื่อยกันต่อไป เพราะอาจมีคำสั่งจากนายใหญ่ให้ยื้อป่วนเมืองไปอีกระยะ
ช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะถึงวันศุกร์ฝ่ายความมั่นคงไทยต้องทำงานหนัก เพราะหลังจากที่ “นายใหญ่”ใช้มวลชนกดดันรัฐบาลไม่สำเร็จ
จากนี้ไปจะหันไปใช้ความรุนแรงกดดันรัฐบาลให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถโค่นรัฐบาลลงได้ เหตุเพราะแกนนำที่นายใหญ่ไว้ใจให้ทำงานไร้ยุทธศาสตร์การต่อสู้ แถมยังแย่งชิงอำนาจภายในจนเกิดการแตกคอกันเอง
**นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ทักษิณ”แพ้ทุกประตู...ที่สุดต้องสั่งมวลชนถอยกลับ!
สิ่งที่น่าห่วงยามนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องการแตกคอกันเองของแกนนำคนเสื้อแดงที่ดูจะลุกลามบานปลาย
เมื่อแกนนำ 3 เกลอขึ้นเวที ประกาศตัดญาติขาดมิตรกับแกนนำฝ่ายฮาร์ดคอ “เสธแดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ทิ่ออกมาดูถูกยุทธศาสตร์การต่อสู้ของพวกเขา
** ความขัดแย้งนี้อาจทำให้พวกเขาหันมาฟาดฟันกันเอง จนทำให้รัฐบาลต้องปวดเศียรเวียนเกล้า และต้องเฝ้าระวังสงครามกลางเมืองที่เกิดจากแกนนำคนเสื้อแดงฟัดกันเอง...!