สตูล – ประชาชนจังหวัดสตูลหวั่นการชุมนุมป่วนเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง สร้างปัญหาให้กับประเทศโดยรวม จี้รัฐบาลเร่งหามาตรการทางออกให้ “แดงถ่อย” งดใช้ความรุนแรง และชุมนุมอย่างสงบ ขณะเดียวกันจวกกลุ่มคนเสิ้อแดงทำเพื่อประโยชน์คนกลุ่มเดียว
วันนี้ (10 มี.ค.) ประชาชนจังหวัดสตูล ได้ออกมาแสดงความรู้สึกเป็นห่วงกับสถานการณ์บ้านเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังกลุ่มเสื้อแดงนัดรวมพลในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ซึ่งหลายคนยังเห็นว่ารัฐบาลควรจริงใจในการแก้ปัญหาด้วยการมานั่งคุยกันเพื่อหาทางออกแทนการใช้ความรุนแรง
นายมานะ สมันตรัฐ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 153 ถ.ยาตราสวัสดิ์ ต.พิมาน อ.เมืองสตูล กล่าวถึงการรวมตัวเพื่อชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 14 มีนาคมที่จะถึงนี้ว่า สถานการณ์น่าเป็นห่วงและเชื่อว่าความรุนแรงจะมีขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมเชื่อว่าคนจำนวนมากที่เดินทางมามีความหลากหลายและมีความคิดที่แตกต่างกันและยากจะควบคุมและนำมาซึ่งความรุนแรง ส่วนการประกาศ พ.ร.บ.ควบคุมสถานการณ์ความมั่นคงนั้น เห็นด้วยเพราะการประกาศเป็นการป้องกันและแก้ไขที่ตรงจุด เพราะว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วจะป้องกันยาก
สำหรับการชุมนุมในครั้งนี้แน่นอนว่า ผลกระทบที่ตามมาจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งเมื่อมีการเสนอข่าวออกไปนักท่องเที่ยวก็จะหยุดเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ และเชื่อว่ามีผลกระทบตามมามากมาย วิธีการที่ดีที่สุดคือผู้นำแต่ละกลุ่มมาพูดคุยกันและมาเจรจากันทั้งด้านกฎหมาย หากไม่คุยต้องเกิดปัญหาแน่นอน เพราะเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นทุกคนจะควบคุมไม่ได้แน่นอน
“รู้สึกแย่เมื่อรับรู้เหตุการณ์ เพราะสังคมเราต้องการความร่วมมือกัน ในหลวงของเราก็สบายแล้วสังคมมาแย่อีก อยากให้ทุกคนหันหน้ามาช่วยเหลือประเทศไทย ขอให้ทุกคนหันหน้ามาช่วยเหลือกัน” นายมานะกล่าว
นายพิบูลย์ รัชกิจประการ นายกเทศมนตรีเมืองสตูล กล่าวว่า จากการติดตามข่าวสารเห็นว่าความรุนแรงน่าจะไม่เกิดขึ้น แต่รู้สึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหากมานั่งคุยกันโดยเฉพาะรัฐบาลหากมีความจริงใจในการแก้ปัญหาแต่ละปัญหา ไม่ใช่พูดแต่ว่าสมานฉันท์ ทั้งที่ในทางปฎิบัติแล้วไม่มีการสมานฉันท์ และเห็นว่าหากมีการตั้งโต๊ะคุยกันก็จะมีทางออกและปัญหาคลี่คลายไปได้บ้าง แม้ทางเราอยู่ต่างจังหวัดยังมีความคิดว่าขอให้กลุ่มเสื้อแดงใช้สติ ขึ้นชื่อว่า “ประชาธิปไตย” ใครๆ ก็ชอบใครๆ ก็อยากได้ แต่ขณะนี้ท่านกำลังจะละเมิดประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน และคิดว่ากลุ่มเสื้อแดงหากคุยกันได้ก็ควรคุยกันดีกว่า อย่าหาทางออกด้วยความรุนแรงมากดดันรัฐบาล
นายพิบูลย์ กล่าวเสริมว่า หากเกิดการชุมนุมผลกระทบที่แน่นอนคือการท่องเที่ยว ที่เห็นได้ชัดคือ 40 ประเทศเตือนคนของตัวเองที่จะมาเที่ยวประเทศไทย และเศรษฐกิจ คนที่จะลงทุนก็คิดหนักหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆ
นางดวงนภา อรุณพันธ์ แม่บ้านและผู้นำชุมชน เห็นว่า ความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงน่าจะไม่มาก และเชื่อว่าคนมีความรู้น่าจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น หลังทราบข่าวในหลวงให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้า ก็เชื่อว่าน่าจะมีทางออกที่ดีในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หากความรุนแรงเกิดขึ้นจริงยังเชื่อว่าในพระบารมีของในหลวงจะมีทางออกในบ้านเมืองและสังคมได้ดี
นางดวงนภากล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมาแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเพื่อคนหนึ่งกลุ่ม เพราะยังมีคนอีกหลายกลุ่ม แต่หากทุกคนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก็ควรจะควรจะทำ สิ่งที่อยากจะเห็นที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองคือความสงบ เพื่อถวายให้ในหลวงของเราได้เกิดความสงบสุขมากที่สุด