นายกฯ ควง พรรคร่วม แถลง ยันรัฐบาลมาตามระบอบประชาธิปไตยเหมือนยุค"หมัก - ชายจืด" ลั่นไม่ยุบสภา ชี้ม็อบแดงคิดไปไกลกว่านั้น ยันต้องฟังคนไทยส่วนอื่นด้วย ย้ำเคารพสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ไม่คิดสลายม็อบ สร้างเงื่อนไขเพิ่ม ชี้ไม่มีประโยชน์หากรัฐจะก่อชนวนเอง ห่วงแกนนำใช้ข้อมูลเท็จปลุกระดมชาวบ้านยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ยันเจ้าหน้าที่ทำโปร่งใส ยอมรับห่วงสถานการณ์แต่จะทำทุกอย่างให้สู่สภาวะปกติโดยไม่มีสูญเสีย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่กองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้นำบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันแถลงข่าว โดยยืนยันว่า รัฐบาลยุคปัจจุบันมาตามระบอบประชาธิปไตย เช่นเดียวกับ 2 รัฐบาลที่ผ่านมา ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ก็เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งตลอดเวลาก็ปฏิบัติเช่นนั้น ขณะที่ข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะให้ยุบสภาก่อนเวลาเที่ยง ของวันนี้ (15มี.ค.) เพื่อนำไปสู่การยุติการเคลื่อนไหวนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถกระทำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ตน หรือพรรคร่วม จะไม่รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้ชุมนุม เพราะเป้าหมายของรัฐคือต้องการที่ให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ขณะที่การยุบสภาเป็นทางออกทางการเมืองทางหนึ่ง ซึ่งเกิดจากปัญหาความขัดแย้งในสภา หรือเกิดวิกฤติที่มองว่าการเลือกตั้งใหม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ในปัจจุบันการยุบสภาเลือกตั้งใหม่เป็นเพียงประเด็นหนึ่งในความขัดแย้ง แต่การชุมนุมของคนเสื้อแดงพาดพิงไปไกลกว่าตนหรือเรื่องของรัฐบาล และถ้ามีการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นภายใต้ความสงบอย่างแท้จริง ฉะนั้นตนคงไม่สามารถให้คำตอบนี้ได้ภายในเที่ยงวันนี้ เพราะรัฐบาลต้องฟังของประชาชนคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชุมนุมด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการบริหารสถานการณ์ในขณะนี้นั้น ตนขอยืนยันว่า รัฐบาลเคารพสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ และการใช้กฏหมายพิเศษก็เพื่อต้องการให้บ้านเมืองสงบ และรัฐบาลไม่คิดริเริ่มใช้ความรุนแรง สลายการชุมนุม และไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม โดยจะใช้แนวทางนี้ในการบริหารสถานการณ์ต่อไป
ทั้งนี้ตนพบว่า การปราศรัยของแกนนำคนเสื้อแดงบนเวทีการชุมนุม ตั้งแต่เย็นวานนี้(14 มี.ค.) จนเช้าวันนี้(15 มี.ค.) ได้มีการใช้ข้อมูลเท็จ เพื่อหวังสร้างให้เกิดอารมณ์รุนแรงแก่ผู้ชุมนุมถ้าหากผู้ชุมนุมเชื่อข้อมูลดังกล่าว เช่นนำคลิปเสียงของตนที่ถูกตัดต่อมาเผยแพร่ รวมทั้งกรณีที่มีการอ้างว่าตนหนีการเกณฑ์ทหาร ตนยืนยันว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีอยู่เพื่อทำให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งตนกังวลว่า แกนนำบางส่วนจะสร้างอารมณ์ยั่วยุให้เกิดการปะทะขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนและพรรคร่วมรัฐบาล ได้ขอร้องให้ฝ่ายความมั่นคงให้อดทน อดกลั้น พร้อมทั้งสื่อสารกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อทำความเข้าใจ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฏหมาย รวมทั้งมีการให้สื่อมวลชนได้เห็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทุกอย่างอย่างเปิดเผย และตนขอย้ำว่า รัฐบาลไม่มีประโยชน์จากการทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะจะทำให้แก้ปัญหาประเทศได้ยากขึ้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ความรุนแรงจะไม่เกิดจากภาครัฐ และรัฐบาลจะใช้กฏหมายเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และยืนยันว่า ตนห่วงใยสถานการณ์ไม่น้อยไปกว่าประชาชน และจะทำทุกอย่างให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ โดยไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น
รายละเอียด นายกรัฐมนตรี แถลงข่าว
การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปกติ แต่ได้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้ผมนั้นยุบสภาภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากที่เขาได้มีการประกาศข้อเสนอ คือประมาณเที่ยงของวันนี้ และปัจจุบันก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ทางผู้ชุมนุมก็บอกว่าจะเดินทางมาเพื่อรอฟังคำตอบจากผมในระยะเวลาเที่ยงวัน
ผมขอเรียนว่า เมื่อเช้านี้ผมได้เชิญหัวหน้าพรรค หรือพรรคร่วมรัฐบาล หรือผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อที่จะได้มาปรึกษาหารือ เพราะว่าข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมนั้นเป็นข้อเรียกร้องทางการเมือง ได้คุยกันแล้วมีความเห็นพ้องต้องกัน ประการแรกก็คือ อยากจะยืนยันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันได้ก่อตั้งขึ้นตามกระบวนการของรัฐสภา ตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับ 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2550
ในการจัดตั้งรัฐบาลเราได้พูดกันตั้งแต่วันแรกว่า หน้าที่ของเราก็คือบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเพื่อที่จะนำบ้านเมืองให้เดินไปข้างหน้า ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปี กับประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้เดินหน้าทำเช่นนั้น
ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่บอกว่าจะให้มีการยุบสภาก่อนเที่ยง เพื่อที่จะนำไปสู่การยุติการชุมนุมเคลื่อนไหวนั้น ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่า เป็นสิ่งที่คงไม่สามารถที่จะทำได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าผมหรือพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่รับฟังข้อคิดเห็นของพี่น้องประชาชน รวมทั้งผู้ชุมนุมด้วย
เป้าหมายของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอยู่ในตำแหน่ง หรืออยู่ในสถานะของความเป็นรัฐบาล เป้าหมายของเราก็คงจะเหมือนกับความต้องการของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ต้องการจะเห็นประเทศนั้นเดินหน้าไปได้ และประคับประคองระบบ ความถูกต้อง และหลักการที่สำคัญ เพื่อที่จะให้บ้านเมืองนั้นมีความสงบ ไม่เพียงเฉพาะในวันนี้ แต่ในระยะยาวด้วย
การยุบสภาเป็นทางออกทางการเมืองทางหนึ่ง ซึ่งโดยปกติก็จะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสภา หรือเกิดวิกฤตที่รุนแรง ที่มองว่าการเลือกตั้งใหม่จะสามารถที่จะคลี่คลายวิกฤตนั้นได้
ในปัจจุบันข้อเท็จจริงที่ผมคิดว่าทุกฝ่ายน่าจะมองตรงกันก็คือว่า เรื่องของการยุบสภา หรือมีการเลือกตั้งใหม่นั้น ดูจะเป็นเพียงประเด็นๆ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทั้งหมด ใครที่ติดตามการปราศรัยของผู้ชุมนุม ก็จะทราบว่าประเด็นที่ได้มีการหยิบยกขึ้นมา ที่เกี่ยวข้องกับมุมมองข้อเรียกร้องทางการเมืองนั้นพาดพิงและไปไกลกว่าเรื่องของตัวผม หรือรัฐบาลด้วยซ้ำ
ดังนั้นการเลือกตั้ง ถ้าจะสามารถนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติอย่างแท้จริงได้นั้น จะต้องเป็นการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในเรื่องของกติกา และเป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นภายใต้ความสงบอย่างแท้จริง เงื่อนไขตรงนี้จะเกิดขึ้นได้ คงไม่สามารถมีใครที่จะมีคำตอบได้ก่อนเที่ยงวันนี้ และรัฐบาลต้องฟังเสียงของพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้มาชุมนุมด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้น สิ่งที่พวกเรายืนยันคือ แม้ข้อเสนอนี้จะไม่สามารถทำได้ก่อนเที่ยง แต่เราก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเหตุผล รวมทั้งต้องการที่จะให้กระบวนการในการตัดสินใจทางการเมืองเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ อยู่บนพื้นฐานของการรับฟังความคิดเห็นของคนทุกกลุ่มในสังคม นี่คือสิ่งที่เป็นข้อยุติที่เห็นพ้องต้องกัน
ขณะเดียวกัน ในแง่การบริหารสถานการณ์ ก็มีการพูดคุยถึงแนวปฏิบัติในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งทุกท่านที่นั่งตรงนี้ เห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ นั่นคือ การเคารพสิทธิของพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมเคลื่อนไหวภายใต้รัฐธรรมนูญ ใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อประโยชน์ในการทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ไม่มีความคิดในการที่จะไปริเริ่มใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม หรือพูดถึงการสลายการชุมนุม ไม่มีความพยายามใดๆ ที่จะไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม เพราะฉะนั้น แนวทางนี้ก็เป็นแนวทางซึ่งรัฐบาลก็จะเดินหน้า ในการบริหารสถานการณ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผมขอถือโอกาสนี้เรียนว่า การปราศรัยบนเวทีของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ตั้งแต่ประมาณช่วงเย็นถึงช่วงค่ำ ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันนี้นั้น มีความน่าเป็นห่วงตรงที่ว่า มีการใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อมุ่งให้เกิดความรู้สึก หรืออารมณ์ที่รุนแรงของผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม หากเชื่อข้อมูลเหล่านั้น เช่น กรณีของคลิปเสียง ซึ่งมีการพิสูจน์กันครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าเป็นการตัดต่อ และเพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจนะครับว่ามีการมาอ้างว่า เรื่องนี้ก็ดี เรื่องการรับราชการทหารของผมก็ดีนั้น ไม่มีการดำเนินคดีไม่จริงนะครับ ทั้งสองกรณีมีการดำเนินคดีอยู่ เพราะว่า ผมได้ยืนยันในข้อเท็จจริง และพร้อมที่จะให้ศาลเป็นผู้พิสูจน์ เช่นเดียวกับอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งมีลักษณะของการทำให้เกิดความขัดแย้ง ระหว่างผู้ชุมนุมกับทางรัฐบาล ผมขอยืนยันครับว่า ขอให้ทุกฝ่ายได้พิจารณา จากแนวปฏิบัติของรัฐบาลชุดนี้ ต่อการชุมนุมเคลื่อนไหว ในลักษณะซึ่งอาจจะเป็นการต่อต้านรัฐบาลตลอดระยะเวลา 1 ปี กับ 3 เดือนที่ผ่านมา น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่ในใจแล้ว
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เรากังวลก็คือว่า กำลังมีแกนนำหรือบุคคลบางกลุ่ม ที่ต้องการที่จะสร้างให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันสูง เพื่อนำไปสู่การปะทะ หรือการยั่วยุให้เกิดการปะทะ โดยเฉพาะเมื่อการชุมนุมเริ่มเข้าข่ายลักษณะซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และมีการกระทำที่ผิดกฎหมายขึ้น แต่พวกเราทุกคนบนนี้ ก็ได้มีการซักซ้อมและยืนยันกับผู้ปฏิบัติงานทางด้านฝ่ายความมั่นคงว่า ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนพื้นฐานของการอดทน อดกลั้น จนถึงที่สุด และพยายามทำทุกวิถีทางในการสื่อสาร ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนที่มาชุมนุม และให้การปฏิบัติงานทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ กฎหมายทุกฉบับ และหลักการของความโปร่งใส ที่เปิดโอกาสให้พี่น้องสื่อมวลชนได้มองเห็นการดำเนินงานทุกอย่าง อย่างชัดเจน เปิดเผย ไม่มีการกระทำใดๆ ซึ่งจะเป็นการกระทำในลักษณะที่แอบซ่อน เพื่อที่จะไปสร้างปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
ผมก็คงย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลนี้ไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ความวุ่นวายในบ้านเมืองมีแต่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม ยากขึ้นทั้งสิ้น ซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะต้องการเช่นนั้น เพราะฉะนั้นก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความสบายใจว่าความรุนแรงจะไม่มีวันเกิดขึ้นจากภาครัฐ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการรักษากฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น เท่าที่จำเป็น เพื่อที่จะให้เกิดความสงบเรียบร้อย
วันนี้ก็เลยขอถือโอกาสเรียนว่า การพบปะกันของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ ก็เป็นคำตอบสำหรับข้อเสนอที่เป็นข้อเสนอในทางการเมือง ส่วนการทำงานทางด้านการดูแลสถานการณ์ ก็ยังขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนเหมือนเดิม และยึดแนวทางเดิมในการบริหาร ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนของ ศอ.รส. และฝ่ายความมั่นคงที่จะดูแล เสร็จจากนี้ผมจะขออนุญาตที่จะพาท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจดูการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากว่าการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมนั้นไม่ได้มีเฉพาะการเดินทางมาที่นี่ แต่ว่ามีการเดินทางไปบางเส้นทาง แล้วก็มีกลุ่มจักรยานยนต์ซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวด้วย อันนี้ก็จะได้เรียนให้ทราบว่า สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร จุดยืนเป็นอย่างไร และผมก็ยังทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของพี่น้องประชาชนตามปกติ เพราะนั่นคือเหตุผลที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ ในวันนี้ ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง และพร้อมที่จะให้ข่าวสารกับพี่น้องประชาชนอยู่ตลอดเวลา
ผมทราบดีถึงความวิตกกังวล ความเครียด ความห่วงใยของพี่น้องประชาชน ผมขอยืนยันว่าความห่วงใยของพวกเราตรงนี้มีไม่น้อยกว่าพี่น้องประชาชนแน่นอน และก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยไม่ให้เกิดการสูญเสียใดๆ ทั้งสิ้น
