ที่ปรึกษา กม.นช.แม้ว ออกโรงปฏิเสธเหตุครอบครัวแม้วชิ่งหนีออกนอกประเทศ แค่ไปตามแผนการเดินทางล่วงหน้า ล่าสุด"ยิ่งลักษณ์"กระเตงหอบลูกไปสมัครเรียนนอกอีกราย เร้าเสื้อแดงยอมเสียสละทิ้งบ้านช่อง เพื่อถามหาปชต.เชื่อชุมนุมเที่ยวนี้ส่งผลบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงใหญ่
วันนี้ (12 มี.ค.) นายนพดพล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว รวมทั้งผู้ที่รักประชาธิปไตยต่างเป็นหนี้บุญคุณของคนเสื้อแดงที่เสียสละมาชุมนุมเรียกร้องโดยเห็นแก่อนาคตของประเทศมากกว่าความสุขส่วนตัว จึงยอมออกมาตากแดดตากฝนเรียกร้องประชาธิปไตย ขอขอบคุณและขอให้ประสบความสำเร็จ หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ปราศจากความรุนแรง ส่วนกรณีที่คนในครอบครัวชินวัตรเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้นั้น ขอย้ำว่าไม่ใช่การหนีหรือทิ้งประชาชน แต่เป็นการเดินทางไปตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า ขณะนี้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ที่ฮ่องกง ไม่ได้เดินทางไปนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วน น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณนั้นยังคงอยู่ที่ประเทศเยอรมนี สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศเช่นกัน เข้าใจว่าพาลูกไปสมัครเรียนหนังสือ
นายนพดลกล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามออกมาทำลายความน่าเชื่อถือโดยกล่าวหา ใส่ร้ายว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะทำการป่วนเมือง ขอยืนยันและย้ำว่าคนเสื้อแดงไม่ใช้ความรุนแรง ยึดแนวทางสันติวิธี ส่วนตัวเชื่อว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะทำให้บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่น่าห่วงขณะนี้คือ มือที่ 3 และการสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายป้ายสีและโยนความผิด เมื่อถามว่าดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจมากกว่าใช้วิธีการในสภา นายนพดลกล่าวว่า ความจริงแล้วคนที่ถูกใช้อำนาจนอกระบบมาเล่นงานคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่มาตามระบอบประชาธิปไตย มาจากประชาชนกลับต้องถูกปล้นอำนาจไปต่อหน้าต่อตา วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้องให้มีการยุบสภาแต่ไม่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิวัติ ถ้ารัฐบาลอยากช่วยเหลือประชาชนก็ควรจะยุบสภาเสียแล้วให้ทุกฝ่ายมาลงสัตยาบันก่อนจะมีการเลือกตั้งว่าจะยอมรับผลที่ออกมา ไม่ทำให้ประเทศต้องวุ่นวายอีก ซึ่งจะทำให้คนไทยทุกคนทุกสีเป็นผู้ได้รับชัยชนะ ในส่วนของการปฏิวัตินั้น หวังว่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะกองทัพรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่มีแน่ เพราะคิดว่าปัญหาการเมืองควรแก้ด้วยการเมือง ไม่ใช่ด้วยวิธียึดอำนาจหรือใช้อำนาจแฝงใดๆ มาครอบงำ
นายนพดลกล่าวถึงกรณีที่วุฒิสภามีการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 273 จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลกรณีการลงนามในบันทึกความตกลงร่วมไทย-กัมพูชา ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยมีมติเห็นด้วยให้ถอดถอน 57 เสียงและไม่เห็นด้วย 55 เสียงว่า รู้สึกโล่งใจและขอบคุณเป็นอย่างมาก เพราะหากที่ประชุมวุฒิสภามีมติถอดถอนจะเสมือนกับการประหารชีวิตตนทางการเมืองทันที ถือได้ว่าพ้นวิบากกรรมไปอีก 1 เรื่อง อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ถือว่าตนติดหนี้บุญคุณ ส.ว.ทั้ง 55 คนที่เข้าใจว่าตนทำไป เพราะต้องการปกป้องพื้นที่ทับซ้อนและไม่มีเจตนาที่จงใจจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 อย่างที่ถูกกล่าวหา สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ได้ 55 เสียงก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว เพราะครึ่งหนึ่งของ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของ คมช.