“สุเทพ” เผยเหตุประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ครอบคลุมหลายพื้นที่เพื่อป้องกันแก๊งแดงนำรถอีแต๋น-รถกระบะมากีดขวางการจราจร สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันหวั่นแก๊งถ่อยนำน้ำมันและแก๊งมาก่อเหตุ ขณะเดียวกัน ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อจะได้สามารถระดม อพปร.และเจ้าหน้าที่ใน กทม.มาเสริมได้ทันทีหากเหตุการณ์บานปลาย ลั่นรัฐบาลจะไม่ยุบสภา หรือลาออกตามข้อเรียกร้องของแก๊งเสื้อแดง พร้อมวอนอย่าเชื่อข่าวฟอร์เวิร์ดเมลลกักตุนสินค้า รัฐบาลจะดูแลให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข วอนประชาขนแจ้งเบาะแสสิ่งผิดปกติ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเกาะติด “เสธ.แดง” ถ้าทำผิดจับทันที
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งใน กทม.และปริมณฑลว่า จากการข่าวพบว่าจะมีการกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางเข้ามาใน กทม.หลายทิศทาง และสิ่งที่กังวลคือจะนำรถต่างๆ เข้ามาจึงเกรงจะทำให้เกิดการกีดขวางการจราจร และทำให้ประชาชนใน กทม.เดือดร้อน จึงได้สั่งการไม่ให้มีการนำรถเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ หรือรถอีแต๋น เข้ามาใน กทม.แต่จะจัดที่จอดรถแถบชานเมืองไว้ให้ จึงมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ชานเมืองรอบกรุงเทพฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกฎหมาย ส่วนที่มีบางจังหวัดประกาศจะเดินทางมาทางน้ำโดยนำเรือล่องมานั้น นายสุเทพกล่าวว่า ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่สมควร บางทีผู้จัดการชุมนุมอาจจะนึกสนุก ทำให้ดูว่ามีแสนยานุภาพมาทั้งทางบก ทางน้ำ แต่ก็คงต้องเตือนว่าหากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาประชาชนก็จะเดือดร้อนเอง ทั้งนี้ คงต้องดูว่าหากเขาล่องเรือมาจะมาขึ้นที่จุดไหน ถ้าจะไปในที่ที่ไม่สมควรไปก็ไม่ให้ไป
“การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นั้นจะประกาศเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น บางจังหวัดประกาศเฉพาะบางอำเภอที่อยู่ติดกับ กทม. ไม่ได้ประกาศทั้งจังหวัด ทั้งนี้เมื่อ ครม.ให้ความเห็นชอบ แล้ว พรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เพื่อแต่งตั้งผมเป็นประธานในการบัญชาการสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้นผมก็จะตั้งกองอำนวยการ โดยจะเรียกประชุม เอาแผนงานมาดูกัน เพื่อวางกำลังในจุดต่างๆ ต่อไป ทั้งสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นทำเนียบฯ หรือสถานที่สำคัญอื่นก็จะวางกำลังดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเข้าอย่างเด็ดขาด”
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับอื่นที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯด้วย ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.การควบคุมน้ำมัน ที่การชุมนุมช่วงสงกรานต์ปีที่แล้วมีกลุ่มผู้ชุมนุมยึดรถน้ำมันหรือรถแก๊ส จึงจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อนโดยใช้กฎหมายบางฉบับที่จะมาควบคุมการขนส่งแก๊สหรือเชื้อเพลิงทั้งหลายที่ผู้ชุมนุมอาจยึดนำมาก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง รวมถึง พ.ร.บ.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอด้วย เพราะจะสามารถระดมเอาอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) และเจ้าหน้าที่ของกทม.มาช่วยดูแลให้คน กทม.ไม่เดือดร้อนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ดูเหมือนรัฐบาลจะใช้กำลังมากเป็นพิเศษ นายสุเทพกล่าวว่า กำลังของเจ้าหน้าที่ที่ต้องใช้มากเพราะทางการข่าวรายงานว่าฝ่ายชุมนุมนอกจากจะมาชุมนุมแล้ว ยังมีขบวนการอื่นๆ กลุ่มอื่นๆ ที่แยกกันปฏิบัติหน้าที่ด้วย รัฐบาลจึงต้องเตรียมรับมือให้ดีที่สุด แต่เจ้าหน้าที่คงไม่มากพอเทียบเท่ากับผู้ชุมนุมที่จะมาแน่ เพราะเขาบอกจะมาเป็นแสน เจ้าหน้าที่เรามีไม่มากขนาดนั้น
ส่วนประเด็นที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องคือ ต้องการให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออก รัฐบาลพิจารณาประเด็นนี้อย่างไรนั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยืนยันรัฐบาลจะไม่มีการยุบสภาหรือลาออกตามคำเรียกร้องของกลุ่มเสื้อแดงแน่นอน เมื่อถามว่าการที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ถึง 13 วัน เป็นเพราะคิดว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะยืดเยื้อหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวลว่าเขาจะชุมนุมยึดเยื้อ ก็ต้องดูก่อน เพราะเมื่อเราประกาศไปแล้ว หากเขาเลิกชุมนุม เราก็เลิกประกาศได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะมีโอกาสยกระดับการประกาศจากพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายสุเทพกล่าว่า อย่าเพิ่งไปกังวลใจในเรื่องอนาคตเลย เราแก้ปัญหาไปทีละขั้น ละตอนก่อน แต่ตนก็บอกแล้วว่าจะพยายามใช้ความอดทน พยายามที่จะใช้กฎหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกว่าหากรัฐบาลยอมให้มีการเลือกตั้งใหม่ แล้วพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมาก กลุ่มเสื้อแดงก็จะยอมรับและยุติความเคลื่อนไหว อย่างนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญานอย่างไรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงพูดไปอย่างนั้นแหล่ะ เพราะความจริงที่เห็นกันอยู่ก็คือไม่มีหลักประกันอะไรว่าบ้านเมืองจะคืนสู่ความสงบได้เพราะคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เองไม่เคารพกฎกติกา ไม่เคารพกฎหมาย พฤติกรรมที่แสดงออกมาไม่ใช่การการสู่ตามระบอบประชาธิปไตย เพราะหากเป็นประชาธิปไตยเขาไม่ข่มขู่กันอย่างนี้ การเลือกตั้งที่ผ่านมาฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยอมรับและเมื่อได้เป็นรัฐบาลก็พอใจ แต่พอไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่พอใจ ไม่อยู่กับร่องกับรอย
ส่วนที่มีการปล่อยตัว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกไปแล้วมีความกังวลว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นอีกหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปล่อยไปแล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็จะติดตามพฤติกรรมถ้าทำความผิดอีกก็จับอีก ส่วนที่ พล.ต.ขัตติยะยืนยันจะกลับไปช่วยดูแลกลุ่ม นปช.นั้น นายสุเทพกล่าวว่า เสธ.แดง จะทำอะไรก็ได้เท่าที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าฝ่าฝืนกฎหมายก็จับกุมอีก
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงต่อต้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานน์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอย่างหนัก ในการไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ พ.อ.(พิเศษ) บริบูรณ์ ไทยสมุทร ที่ฌาปนสถานกองทัพบก (กองทัพภาคที่ 2) วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมืองนครราชสีมา ทางรัฐบาลมีการจัดกำลังดูแล พล.อ.เปรม เป็นพิเศษ อย่างไรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้บอกว่าท่านถูกคุกคามอะไรที่จะต้องมีกำลังเป็นพิเศษ แต่เป็นหน้าที่ของพวกตนอยู่แล้วที่จะต้องดูแลให้ความปลอดภัยกับบุคคลต่างๆ ไม่ยอมให้กองกำลังนอกกฎหมายมาคุกคาม ข่มขู่สิทธิเสรีภาพของบุคคลใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการฟอร์เวิร์ดเมลเตือนให้ประชาชนในเบิกเงินสดไว้ ให้เติมน้ำมันไว้ให้เต็มถึง หรือตุนเสบียงอาหารไว้ นายสุเทพกล่าวว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งเป็นขบวนการเดียวกันที่พยายามจะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เป้าหมายของเขาก็เพื่อให้เกิดความโกลาหล เกิดความวุ่นวาย ให้ระบบธนาคารมีความปั่นป่วน ซึ่งคิดว่าประชาชนต้องตั้งหลักให้ดี มีสติ มีความมั่นคง ให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดูแลแก้ปัญหาให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ดังนั้นทุกอย่างประชาชนสามารถทำได้ปกติ และหากใครมาทำให้ชีวิตของประชาชนไม่ปกติเราถือว่าคนนั้นทำผิด ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าการปล่อยข่าวเช่นนี้เป็นฝีมือของรัฐบาลนั้น นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปปล่อยข่าวอะไร เฉพาะเรื่องจริงตนก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว รัฐบาลจะไปปล่อยข่าวให้ตนเองเดือดร้อนทำไม ตนมีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว และเชื่อว่าประชาชนที่ฟังเขาสามารถคิดและไตร่ตรองได้อยู่แล้วเรื่องแบบนี้
ต่อข้อถามว่าเป็นห่วงกรณีชาวนาที่ประท้วงไม่พอใจรัฐบาลขณะนี้จะแปรสภาพไปรวมกับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยากฝากไปถึงประชาชนกลุ่มอื่นๆ ว่าปัญหานั้นมีหลายกรณี แต่เราอย่านำมาผสมรวมกัน ให้โอกาสรัฐบาลได้แก้ไขไปทีละเปลาะ ทีละประเด็น ทีละเรื่อง ซึ่งกรณีของเกษตรกรทั้งหลาย รัฐบาลได้ดูแลมาอย่างดีเป็นพิเศษ ส่วนที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ก็ต้องแก้ไขให้ดีให้ได้ ส่วนที่มีการระบุว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังม็อบเกษตรกรนั้น รัฐบาลก็พยายามพูดจาทำความเข้าใจกัน
นายสุเทพยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมมือปาระเบิดธนาคารกรุงเทพว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ก็ว่ากันไปตามหลักฐาน แต่ในเบื้องต้นผู้ต้องหาได้รับสารภาพเองแล้ว และไม่ได้ซัดทอดถึงใคร ก็ต้องติดตามต่อไป เจ้าหน้าที่ก็พยายามสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป เมื่อถามว่าเกรงว่าจะมีการก่อเหตุในช่วงที่มีการชุมนุมอีกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่างที่บอกว่าการปฏิบัติการของบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแยกกันปฏิบัติงานส่วนหนึ่งก็จัดการชุมนุม อีกส่วนหนึ่งก็จะมาก่อเหตุวุ่นวาย วางระเบิด กว้างระเบิด ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วและจับได้แล้ว ต่อไปนี้ก็ต้องเพิ่มระมัดระวังในการตรวจตรา ให้มากขึ้น และขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้ประชาชนด้วย รวมถึงจะมีการนำสุนัขดมกลิ่นมาใช้ด้วย
ส่วนการเผชิญหน้าของประชาชนในพื้นที่กับผู้ชุมนุมนั้น นายสุเทพกล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนจะช่วยรัฐบาลได้ดีที่สุดคือการเป็นหูเป็นตาช่วยแจ้งเหตุ ขอให้ประชาชนอยู่ในที่ตั้ง อยู่ในบ้านของตัวเอง อย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ไม่ต้องออกมาต่อต้านหรือเผชิญหน้ากับเขา ไม่ต้องทำอย่างนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะดำเนินการ เอาแค่ช่วยสนับสนุน ให้น้ำเจ้าหน้าที่ดื่มบ้างก็เพียงพอแล้ว ส่วนพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุในช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมาได้มีการส่งกำลังไปดูแลเป็นพิเศษแล้ว และได้ให้เข้าไปทำความเข้าใจต่อผู้นำชุมชนด้วยเพื่อให้ความมั่นใจว่าหากมีปัญหาเกิดขึ้นจะส่งข่าวบอกเจ้าหน้าที่อย่างไร โดยได้สั่งให้มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วประจำทุกหน่วยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งนี้จะมีกำลังเสริมจากเสื้อน้ำเงินด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับกลุ่มอะไรทั้งนั้น อย่าไปคิดอย่างนั้น ไม่มีกองกำลังอย่างอื่นหนอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ประชาชนสามารถมั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่ารัฐบาลจะสามารถรับมือได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ให้เต็มที่
ต่อข้อถามว่าในส่วนของสื่อที่ถูกข่มขู่จะไปปิดไม่ว่าจะเป็นสถานีไทยพีบีเอส เนชั่น และแนวหน้า นายสุเทพกล่าวว่า หากทำอย่างนั้นผิดกฎหมาย เป็นการคุกคาม ไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติแล้ว ทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าทำก็ต้องจับกุมดำเนินคดีกับแกนนำ และหากสื่อเหล่านี้เห็นว่าไม่ปลอดภัย ถูกคุกคามก็ขอให้แจ้งมา รัฐบาลจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล