“ณัฐวุฒิ” ท้า รบ.เปิดแบล็กลิสต์ วอนอย่าเป็นอีแอบ ผวาถูกผสมโรง

แกนนำ นปช.ปากกล้าขาสั่นโวยรัฐบาลรีบเปิดแบล็กลิสต์ 212 รายชื่อ ยอมมีคนแอบสะกดรอยหวั่นถูกผสมโรงเกรงความปลอดภัย วอนรัฐอย่าเล่นบทอีแอบ ยังปากดีท้าชนแผนสกัดคนเสื้อแดงร่วมชุมนุม วัดใจตัวเลขเกินหลักแสนแน่ ทำตัวพาลขู่ปั้นน้ำฟ้อง “ป๋า” เป็นเรื่องยาก อ้างระบอบอำมาตย์มีสิทธิพิเศษ ตัดหาง “เสธ.แดง-เคทอง” ไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดง

วันนี้ (2 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลขึ้นบัญชีดำจำนวน 212 รายชื่อโดยมีรายชื่อของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ครอบครัวชินวัตร และสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วยว่า ตนได้เห็นรายชื่อดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ได้เป็นหนังสือราชการ รัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่มีบัญชีรายชื่อดังกล่าว แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับยอมรับว่ามีการติดตามแกนนำบางส่วนจริง ซึ่งน่าจะเป็นอันเดียวกัน ดังนั้นน่าจะเปิดเผยออกมาให้ชัดเจนเลยว่าไปติดตามใครบ้าง และใช้หน่วยงานใดติดตาม ทำให้โปร่งใสไปเลย คนที่ถูกติดตามจะได้สบายใจ จะได้รู้ว่ามีการทำงานนอกเหนือคำสั่ง หรือมีมือที่ 3 เข้ามาติดตามอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ส่วนตัวก็พบว่ามีรถเก๋งตามบ้าง มอเตอร์ไซค์ตามบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ ถ้าเกิดการผสมโรงก่อเหตุขึ้นมา แล้วใครจะรับผิดชอบ ยืนยันว่าแกนนำคนเสื้อแดงไม่มีพฤติกรรมลักลอบไปทำอะไรที่ไม่ดีหรือเปิดเผยไม่ได้ เราตรวจสอบได้หมด

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับแผนการเดินทางมาชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มี.ค.นั้น ขณะนี้ตรวจสอบพบแผนการสกัดกั้นมวลชน จากต่างจังหวัดเพี่อไม่ให้เข้ามาในกรุงเทพฯ โดยใช้วิธีตั้งด่านสกัด สอบถามต่างๆ นานา และมีการสั่งการไปยังปั๊มน้ำมัน ไม่ให้บริการหรือไม่สำรองเชื้อเพลิงให้คนเสื้อแดงเติม ระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เชื่อว่าไม่ได้ผลแน่นอน วันนี้คนเสื้อแดงมีเต็มประเทศ รัฐบาลจะสั่งการได้ทุกปั๊มหรือไม่ เพราะปั๊มนั้นอาจจะเป็นเครือข่ายคนเสื้อแดงก็ได้ เขาก็ต้องทำธุรกิจของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีความพยายาม บีบบังคับข่มขู่บริษัทรับจ้างรถทัวร์ไม่ให้รับส่งคนเสื้อแดง หรือใช้วิธีรับงานมาก่อน แล้วยกเลิกในช่วงใกล้วันชุมนุม วันนี้คนเสื้อแดงจากทุกภาคในประเทศไทย กำลังกำหนดวิธีการขับเคลื่อนมวลชนและเตรียมแผนรับมือมาตรการต่างๆ จากภาครัฐไว้แล้ว ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะจับรถอีแต๋น ที่เข้ามาใน กทม.นั้น ไม่มีปัญหา แต่ถ้าทำก็จะเกิดคำถามกับสังคมทันที เพราะความรู้สึกของชาวบ้าน ที่อุตส่าห์นำรถอีแต๋นมาถึงกทม.นั้น แสดงว่าถึงขีดสุดแล้ว ถ้ายังไปจับอีกก็ไม่เป็นไร แต่คนเสื้อแดงทั่วประเทศ พร้อมที่จะลงขันให้รถอีแต๋นเข้ามาชุมนุมแน่นอน

“วันนี้สิ่งที่รัฐบาลเตรียมแผนรับมือ กับสิ่งที่พูดนั้นค่อนข้างขัดแย้งกัน ปากก็บอกว่ามีคนมาชุมนุมไม่มาก ประมาณแสนคน แต่กลับเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เป็นหมื่นๆ ขอให้รอดูวันชุมนุมว่า จะมีคนเสื้อแดงมากันกี่คน ถ้าประเมินว่ามาไม่เยอะ นายอภิสิทธิ์ก็น่าจะหาเวลาไปเตะบอลแก้มือกับทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยดีกว่า มานั่งพะว้าพะวนอย่างนี้” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าในการรวบรวมหลักฐานเพื่อนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดียึดทรัพย์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ต้องยอมรับว่าทำได้ยาก เพราะท่านมีชั้นความลับเป็นพิเศษเหนือบุคคลธรรมดาทั่วไป ไม่มีใครเข้าใกล้ได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พล.อ.เปรมจะหนีความจริงไม่พ้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีร่องรอย ตนจะต้องนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า เครือข่ายอำมาตย์นั้นมีพฤติการณ์เบียดบัง แสวงประโยชน์อย่างไร จะตั้งคำถามให้สังคมช่วยพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนกรณีที่ “เคทอง” ออกมาสร้างความฮือฮาโดยระบุว่าจะมีเหตุระเบิดอย่างต่อเนื่องนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราไม่รู้ว่าเคทองเป็นใคร แต่ไม่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ส่วนที่บอกว่ามีความเกี่ยวข้องกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกนั้น เราไม่ได้คุยกับเสธ.แดง ท่านทำอะไรก็เป็นเรื่องของท่านไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง เรื่องการ์ดเราก็มีหน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า เคทองใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีภาพถ่ายคู่กันด้วยนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่จะมาอธิบายอะไรได้ เพราะแค่ภาพถ่ายใครก็อ้างได้ ดังนั้นถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รัฐบาลต้องตรวจสอบให้ชัดว่าใครทำอะไร อย่าเหมารวม