บรรยากาศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แกนนำคนเสื้อแดงนำเวทีมาติดตั้ง โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงทยอยมาบางส่วน ซึ่งการชุมนุมจะเริ่มอย่างเป็นทางการเที่ยงวันพรุ่งนี้ นอกจากเวทีแล้วยังมีการติดตั้งจอมอนิเตอร์ เพื่อให้แกนนำควบคุมมวลชนที่อยู่ห่างจากเวทีไปทางบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถวิดีโอลิงก์ ในคืนวันพรุ่งนี้ได้ ท่ามกลางกำลังตำรวจจัดกำลังวางแนวป้องกันพื้นที่โดยรอบบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เรื่อยไปจนถึงบ้าน พล.อ.เปรม ซึ่งบริเวณนั้นเจ้าหน้าที่มีการนำแผงเหล็กและแท่งปูนกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมล้ำเข้าไปยังถนนคู่ขนานทั้ง 2 ด้าน
โดยวันนี้ กองทัพได้จัดเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพาวุธเข้าไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย และวัตถุระเบิด บริเวณโดยรอบ เพื่อรองรับการชุมนุม และยืนยันความปลอดภัยให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง
ส่วนที่สโมสรกองทัพบก ห้ามจอดรถทุกชนิดจนกว่าจะสิ้นสุดการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยมีการเสริมเจ้าหน้าที่ตามจุดสำคัญๆ เรียบร้อยหมดแล้ว
ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล มีกำลังตำรวจ ทหาร ตามแผนกรกฎ 52 โดยกำลังหลักจะเข้ามาเสริมในคืนนี้ พร้อมประกาศปิดเส้นทางรอบทำเนียบรัฐบาล ยกเว้นถนนพิษณุโลก ป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ชุมนุมสามารถชุมนุมบริเวณถนนพิษณุโลกได้เพียงแห่งเดียว
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดเสี่ยง ตำรวจมีการตั้งป้อมคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นกัน
มีรายงานว่า วันนี้ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองได้เข้ารายงานสถานการณ์กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 30,000 คน เสร็จสิ้นการชุมนุมเวลา 24.00 น.ตามกำหนดการ และหากเกิดความวุ่นวายน่าจะมาจากแกนนำไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ เพราะคนที่อยู่แดนไกลต้องการชุมนุมอีกครั้งในเดือนตุลาคม
ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างระมัดระวัง ขอให้เพิ่มแสงสว่างทุกจุดที่มีการชุมนุม และขอให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีมือที่ 3 ให้สนธิกำลังดูแล 7 จุดสำคัญๆ บริเวณโดยรอบการชุมนุม ยืนยันว่า ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ คงต้องใช้เครื่องขยายเสียงความถี่สูง นอกจากนี้ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ห้ามพกพาอาวุธ โดยมีเพียงโล่เท่านั้น จนกว่าจะมีการสั่งการ
ด้านแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ยินดีที่จะมีตำรวจเข้ามาตรวจสอบกำหนดความปลอดภัยป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ยืนยันเช่นเดิม จะสลายการชุมนุมตามกำหนดเวลาเดิม 24.00 น. หากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
โดยวันนี้ กองทัพได้จัดเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพาวุธเข้าไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย และวัตถุระเบิด บริเวณโดยรอบ เพื่อรองรับการชุมนุม และยืนยันความปลอดภัยให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง
ส่วนที่สโมสรกองทัพบก ห้ามจอดรถทุกชนิดจนกว่าจะสิ้นสุดการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยมีการเสริมเจ้าหน้าที่ตามจุดสำคัญๆ เรียบร้อยหมดแล้ว
ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล มีกำลังตำรวจ ทหาร ตามแผนกรกฎ 52 โดยกำลังหลักจะเข้ามาเสริมในคืนนี้ พร้อมประกาศปิดเส้นทางรอบทำเนียบรัฐบาล ยกเว้นถนนพิษณุโลก ป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ชุมนุมสามารถชุมนุมบริเวณถนนพิษณุโลกได้เพียงแห่งเดียว
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดเสี่ยง ตำรวจมีการตั้งป้อมคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นกัน
มีรายงานว่า วันนี้ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองได้เข้ารายงานสถานการณ์กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 30,000 คน เสร็จสิ้นการชุมนุมเวลา 24.00 น.ตามกำหนดการ และหากเกิดความวุ่นวายน่าจะมาจากแกนนำไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ เพราะคนที่อยู่แดนไกลต้องการชุมนุมอีกครั้งในเดือนตุลาคม
ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างระมัดระวัง ขอให้เพิ่มแสงสว่างทุกจุดที่มีการชุมนุม และขอให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีมือที่ 3 ให้สนธิกำลังดูแล 7 จุดสำคัญๆ บริเวณโดยรอบการชุมนุม ยืนยันว่า ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ คงต้องใช้เครื่องขยายเสียงความถี่สูง นอกจากนี้ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ห้ามพกพาอาวุธ โดยมีเพียงโล่เท่านั้น จนกว่าจะมีการสั่งการ
ด้านแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ยินดีที่จะมีตำรวจเข้ามาตรวจสอบกำหนดความปลอดภัยป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ยืนยันเช่นเดิม จะสลายการชุมนุมตามกำหนดเวลาเดิม 24.00 น. หากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น