xs
xsm
sm
md
lg

ฮุนเซน เหยียบชายแดน-แผนออกญาจักรีเปิดประตู!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจทราบวัตถุประสงค์ของ “ฮุนเซน” ที่จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนที่ติดกับไทยตรงข้าม จ.สุรินทร์ อีกรอบจะมีความหมายเช่นไร แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ก็บังเอิญสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกำลังฝ่าย ทักษิณ อยู่พอดี มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้หลายคนคิดกันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะการหวนกลับไปในยุคก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองที่มี “ออกญาจักรี” เปิดประตูเมืองให้ศัตรูเข้ามาเผาเมืองจนวายวอดหรือเปล่า

ตามรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเข้ามาว่า ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาจะเดินทางมายังพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอีกรอบในวันเสาร์ที่ 27 ก.พ.นี้ โดยระบุว่าจะเข้ามาตรวจเยี่ยมกำลังทหารและดูแลการก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคต่างต่างในเขต จ.อุดรมีชัย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ จ.สุรินทร์ ของไทย และอยู่ใกล้กับกลุ่มปราสาท “ตาเมือน” ที่ไทยประกาศเป็นโบราณสถาน แต่ทางกัมพูชาก็ยังอ้างสิทธิ์ครอบครอง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ผู้นำกัมพูชาคนเดียวกันนี้ได้เคยแต่งชุดทหารพร้อมคณะชุดใหญ่มายังพื้นที่พิพาทบริเวณปราสาทพระวิหาร และพยายามจะเข้ามาชมปราสาทตาเมือนธม แต่ฝ่ายไทยไม่ยินยอม หรือไม่เช่นนั้นต้องปลดอาวุธและเดินทางเข้ามาเหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าทำให้เขาโกรธมากถึงกับพูดจาแช่งชักหักกระดูกนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมไปถึงการพูดจาแทรกแซงกิจการภายในของไทยอย่างไร้มาทยาททางการทูต

หลายฝ่ายประเมินว่า ในการเดินทางเข้ามายังบริเวณชายแดนด้านตะวันออกของไทยครั้งแรกดังกล่าวมีหลายวัตถุประสงค์ ประการแรก รัฐบาลฮุนเซนกำลังถูกตั้งคำถามจากฝ่ายค้านคือพรรคสมรังสี ที่นำหลักฐานจากภาพถ่ายดาวเทียมเปิดโปงว่าฮุนเซนใช้อำนาจพลการยกดินแดนจำนวนหลายตารางกิโลเมตรให้เวียดนาม และกำลังถูกไล่บี้ให้ชี้แจง แต่ก็ยังเฉยจนกระทั่งเขาต้องยกคณะมาเยือนชายแดนไทยเป็นการกลบเกลื่อน และมักจะใช้ลูกไม้แบบเดียวกันนี้หลายครั้งเมื่อเกิดปัญหาในเรื่องดินแดนด้านชายแดนเวียดนาม

ประการต่อมา ในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งตามกำหนดการที่เคยระบุไว้กับยูเนสโก ทางการกัมพูชาจะต้องกำหนดพื้นที่บริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารได้ตามเงื่อนไขและตามกำหนด เนื่องจากไทยยังไม่ยินยอม ดังนั้นการเดินทางมาในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีอธิปไตยในพื้นที่ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย

และเป็นยุทธศาสตร์สร้างความปั่นป่วนพะวักพะวงให้กับรัฐบาลไทยที่กำลังเตรียมการรับมือกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในสังกัดของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นการประสานกองกำลังทั้งภายในและภายนอกประเทศผสมโรงเข้ามามาป่วน หรืออย่างน้อย ทำให้ทหารไทยต้องแบ่งกำลังส่วนหนึ่งมารับมือกับทหารกัมพูชาที่ตรึงอยู่ตลอดแนวชายแดน เพื่อเปิดทางให้ทางฝ่ายทักษิณ ซึ่งเป็นพันธมิตรกันเคลื่อนไหวได้สะดวกมากขึ้น

การเดินทางเข้ามายังบริเวณชายแดนที่ยังเป็นปัญหาซ้ำรอยเดิมภายในระยะเวลาห่างกันเพียงแค่สองสัปดาห์เท่านั้น และเกิดขึ้นภายหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาคดียึดทรัพย์จำนวน 76,000 ล้านบาท เพียงวันเดียวเท่านั้น ทำให้แทบทุกฝ่ายจับตามองกันว่า ทั้ง ทักษิณ กับ ฮุนเซน ได้ประสานจับมือกัน เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับทางการไทยหรือไม่ เพราะพิจารณาจากวันเวลาล้วนสอดคล้องต้องกันเหมือนกับนัดแนะให้เคลื่อนไหวรับจังหวะกันพอดับพอดี

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ที่แกนนำสารพัดกลุ่มเริ่มมีการเคลื่อนไหวชุมนุมกันอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนวันพิพากษาและต่อเนื่องกันไปจนถึงเดือนหน้า นอกเหนือจากการข่มขู่ศาลแล้วยังมีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาล รวมไปถึงเป้าหมายที่ยังซ่อนเร้นอยู่ภายในอื่นๆและยังพูดออกมาไม่หมดที่ต้องจับตา หากสังเกตจากการเร่งโหมถล่ม “อำมาตย์” ซึ่งในที่นี้ก็คือ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งโดยตำแหน่งและความหมายก็คือ “ประธานที่ปรึกษาขององค์พระมหากษัตริย์” นั่นเอง

เมื่อย้อนกลับไปดูการเคลื่อนไหวของ ฮุนเซน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันทำให้ต้องย้อนกลับไปพิจารณาคำพูดของนักรัฐศาสตร์ที่คว่ำหวอดและเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง อย่าง ชัยอนันต์ สมุทวณิช ที่แสดงความเห็นในรายการ “ลงเอยอย่างไร” ทางช่อง 11 เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่กำลังจเกิดขึ้นว่า หากมีกองกำลังต่างชาติซึ่งโฟกัสไปที่กัมพูชาเข้ามาผสมโรงแล้วจะเกิดความรุนแรงอย่างน่ากลัวเพราะคนเหล่านั้นไม่ใช่คนไทย จึงลงมือได้อย่างเต็มที่

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจทราบวัตถุประสงค์ของ ฮุนเซน ที่จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนที่ติดกับไทยตรงข้าม จ.สุรินทร์อีกรอบจะมีความหมายเช่นไร แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ก็บังเอิญสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกำลังฝ่าย ทักษิณ อยู่พอดี มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้หลายคนคิดกันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะการหวนกลับไปในยุคก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองที่มี “ออกญาจักรี” เปิดประตูเมืองให้ศัตรูเข้ามาเผาเมืองจนวายวอดหรือเปล่า


ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด เพราะจู่ๆ ฮุนเซน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นกับทักษิณ มาเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนไทยย่อมมีวัตถุประสงค์ที่ไม่ธรรมดาแน่ และก่อนหน้านั้นเพียงสองสามวันก็ได้มีการโชว์การยิงอาวุธจรวดแบบพื้นสู่พื้นอวดแสนยานุภาพต่อกองทัพไทยและคนไทยไปล่วงหน้าแล้ว

และแม้เชื่อว่านี่คือแผนยั่วยุและสร้างความปั่นป่วนให้ไทย อีกทั้งยังเป็นการกลบเกลื่อนปัญหาภายในทั้งในเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวและการพนันที่คนไทยเข้าไปใช้บริการน้อยลง และที่สำคัญก็คือการกลบเกลื่อนปัญหาชายแดนด้านเวียดนามที่กำลังถูกฝ่ายค้านคือพรรคสมรังสียื่นญัตติให้ตอบคำถามในสภากรณีที่ยกดินแดนให้เวียดนามภายในไม่กี่วันข้างหน้าก็ตาม

แต่สำหรับชายแดนไทยก็ต้องเตรียมการรับมือทุกรูปแบบ ไม่ประมาทเป็นอันขาด!!
กำลังโหลดความคิดเห็น