“แม้ว” ระส่ำหนัก!! ตั้งป้อมปลุกแดงลุกฮือ หลังศาลตัดสิน เชื่อโค้งสุดท้ายระดมคนเป็นล้านทำยาก เหตุท่อน้ำแดง ชักติดขัด “ส.ส.ไข่แม้ว” ลังเลช่วยนาย เบิกงบไม่คล่องเหมือนเดิม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้เชิญ นายสำเริง คำพะอุ ผู้สื่อข่าวอาวุโสระดับบรรณาธิการ ผศ.จำรูญ ณ ระนอง จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายปฏินันท์ สันติเมทนีดล ผู้สื่ออาวุโส มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีจับตาครั้งสุดท้าย ก่อนคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท จะตัดสินในวันพรุ่งนี้ (26 ก.พ.)
น.ส.วรรษมน กล่าวเปิดประเด็นว่า ขณะนี้เลขาส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ได้ออกมายืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงคดียึดทรัพย์ รวมทั้งจะไม่เดินทางไปฟังคำตัดสินที่ศาล โดยจะไปหลบอยู่ในที่พักปลอดภัยในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้ปฏิเสธการเดินทางไปต่างประเทศอย่างที่เป็นข่าวด้วย
น.ส.วรรษมน กล่าวต่อว่า นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดรฯ ได้ระดมคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา และที่สำคัญมี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เดินทางไปที่เวทีปราศรัยดังกล่าวด้วย ซึ่งล่าสุด ได้มีการเปิดเผยว่า จากการที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบ เสธ.แดง ระบุว่ามีความสนิทสนมกับอดีตนายกรัฐมนตรีมาก ซึ่งหากใครจะบอกว่าในวันที่ 26 ก.พ.นี้จะเกิดเหตุรุนแรง แบบนั้นเป็นการคาดคะเนเหตุการณ์ที่ผิด
น.ส.วรรษมน กล่าวอีกว่า คำพูดของ เสธ.แดง ขัดกับท่าทีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาระบุว่า รัฐบาลกำลังเตรียมแผนจะใส่ร้ายคนเสื้อแดง โดยจัดตั้งกลุ่มคนที่มีอาวุธครบมือ เพื่อก่อความวุ่นวาย แล้วป้ายสีว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง
ผศ.จำรูญ กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า โดยกลุ่มคนเสื้อแดงนัดกันอีกครั้งในวันที่ 14 มี.ค.นี้ โดยระบุว่า จะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ ซึ่งจะนำรถปิกอัพ 1 แสนคัน ขนคนมาร่วมชุมนุมให้ได้ 1 ล้านคน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ถึงอย่างไรการชุมนุมก็เป็นเพียงแค่ช่วยนักโทษชายให้พ้นผิด โดยมันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะมีการนิรโทษกรรม หรือทำผิดแล้วไม่ยอมติดคุก ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะรวยมาจากไหน แต่ถ้าทำผิดกฏหมาย ก็ต้องยอมรับผิด
นายสำเริงกล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจว่าองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ คมช.เป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะแท้จริงแล้วเกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ต่างหาก โดยเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้อง
นายสำเริงกล่าวอีกว่า วันนี้มีคนไทยกลุ่มหนึ่งโชคร้าย เพราะถูกหลอกใช้โดยเอาความไม่รู้มาเป็นเครื่องมือ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้คำว่าประชาธิปไตยมาแอบอ้าง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
นายสำเริงกล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าวันนี้อดีตนายกรัฐมนตรียังคงทำทุกวิถีทาง ซึ่งล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่าเสียดายที่เชื่อนายเนวิน ชิดชอบ ถึงยอมแต่งตั้ง นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ซึ่งจากข้อความดังกล่าว มันแสดงได้ชัดว่า แท้จริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ รักประชาธิปไตยจริงหรือไม่ มีการทวิตเตอร์เสมือนว่าครอบงำอำนาจในสภาได้
นายสำเริงกล่าวต่อว่า วันที่ 26 ก.พ.นี้ คงไม่เกิดเหตุรุนแรง เนื่องจาก รัฐบาลชุดนี้ตั้งรับได้ดี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือหลังจากวันตัดสินคดีนี้ จะเกิดการชุมนุมใหญ่ ซึ่งปัจจัยที่จะชี้ว่าแรงหรือไม่แรง มันอยู่ที่จะสามารถเกณฑ์คนจำนวนมากมาร่วมชุมนุมได้หรือไม่ เพราะเวลานี้ คนจ้างก็ต้องคิดหนัก ว่าจะจ่ายเงินดีหรือไม่ เพื่อจ้างคนพวกนี้มาชุมนุม
น.ส.วรรษมน กล่าวเสริมว่า ทางด้าน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือกัน โดยส่วนหนึ่งรู้สึกอึดอัดใจกับแผนให้ ส.ส.ระดมคนตามเป้าที่จะบิลไปเบิกนายใหญ่ นั่นคือ 1 ล้านคน
นายสำเริงกล่าวประเด็นนี้ว่า ลองคิดกันดูเล่นๆ ว่าหากจะระดมคน 1 ล้านคน ต้องใช้เงินรายหัวเท่าไหร่ ทั้งค่ากิน ค่าเดินทาง ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าคนพวกนี้จะอยู่ยาวจนกว่าจะชนะหรือไม่ ดังนั้น การระดมคนครั้งนี้เป็นไปได้ยาก
นายสำเริงกล่าวอีกว่า สำหรับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าเวลานี้คงรู้สึกไม่มั่นใจสถานภาพของตนเองเช่นกัน เพราะช่วงหลังๆ นี้ระดมคนแล้วไม่ใช่ได้เงินเลย เนื่องจากท่อน้ำเลี้ยงชักตันและขัดข้องบ่อยครั้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้เชิญ นายสำเริง คำพะอุ ผู้สื่อข่าวอาวุโสระดับบรรณาธิการ ผศ.จำรูญ ณ ระนอง จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายปฏินันท์ สันติเมทนีดล ผู้สื่ออาวุโส มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีจับตาครั้งสุดท้าย ก่อนคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท จะตัดสินในวันพรุ่งนี้ (26 ก.พ.)
น.ส.วรรษมน กล่าวเปิดประเด็นว่า ขณะนี้เลขาส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ได้ออกมายืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงคดียึดทรัพย์ รวมทั้งจะไม่เดินทางไปฟังคำตัดสินที่ศาล โดยจะไปหลบอยู่ในที่พักปลอดภัยในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้ปฏิเสธการเดินทางไปต่างประเทศอย่างที่เป็นข่าวด้วย
น.ส.วรรษมน กล่าวต่อว่า นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดรฯ ได้ระดมคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา และที่สำคัญมี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เดินทางไปที่เวทีปราศรัยดังกล่าวด้วย ซึ่งล่าสุด ได้มีการเปิดเผยว่า จากการที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบ เสธ.แดง ระบุว่ามีความสนิทสนมกับอดีตนายกรัฐมนตรีมาก ซึ่งหากใครจะบอกว่าในวันที่ 26 ก.พ.นี้จะเกิดเหตุรุนแรง แบบนั้นเป็นการคาดคะเนเหตุการณ์ที่ผิด
น.ส.วรรษมน กล่าวอีกว่า คำพูดของ เสธ.แดง ขัดกับท่าทีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาระบุว่า รัฐบาลกำลังเตรียมแผนจะใส่ร้ายคนเสื้อแดง โดยจัดตั้งกลุ่มคนที่มีอาวุธครบมือ เพื่อก่อความวุ่นวาย แล้วป้ายสีว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง
ผศ.จำรูญ กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า โดยกลุ่มคนเสื้อแดงนัดกันอีกครั้งในวันที่ 14 มี.ค.นี้ โดยระบุว่า จะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ ซึ่งจะนำรถปิกอัพ 1 แสนคัน ขนคนมาร่วมชุมนุมให้ได้ 1 ล้านคน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ถึงอย่างไรการชุมนุมก็เป็นเพียงแค่ช่วยนักโทษชายให้พ้นผิด โดยมันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะมีการนิรโทษกรรม หรือทำผิดแล้วไม่ยอมติดคุก ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะรวยมาจากไหน แต่ถ้าทำผิดกฏหมาย ก็ต้องยอมรับผิด
นายสำเริงกล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจว่าองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ คมช.เป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะแท้จริงแล้วเกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ต่างหาก โดยเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้อง
นายสำเริงกล่าวอีกว่า วันนี้มีคนไทยกลุ่มหนึ่งโชคร้าย เพราะถูกหลอกใช้โดยเอาความไม่รู้มาเป็นเครื่องมือ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้คำว่าประชาธิปไตยมาแอบอ้าง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
นายสำเริงกล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าวันนี้อดีตนายกรัฐมนตรียังคงทำทุกวิถีทาง ซึ่งล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่าเสียดายที่เชื่อนายเนวิน ชิดชอบ ถึงยอมแต่งตั้ง นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ซึ่งจากข้อความดังกล่าว มันแสดงได้ชัดว่า แท้จริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ รักประชาธิปไตยจริงหรือไม่ มีการทวิตเตอร์เสมือนว่าครอบงำอำนาจในสภาได้
นายสำเริงกล่าวต่อว่า วันที่ 26 ก.พ.นี้ คงไม่เกิดเหตุรุนแรง เนื่องจาก รัฐบาลชุดนี้ตั้งรับได้ดี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือหลังจากวันตัดสินคดีนี้ จะเกิดการชุมนุมใหญ่ ซึ่งปัจจัยที่จะชี้ว่าแรงหรือไม่แรง มันอยู่ที่จะสามารถเกณฑ์คนจำนวนมากมาร่วมชุมนุมได้หรือไม่ เพราะเวลานี้ คนจ้างก็ต้องคิดหนัก ว่าจะจ่ายเงินดีหรือไม่ เพื่อจ้างคนพวกนี้มาชุมนุม
น.ส.วรรษมน กล่าวเสริมว่า ทางด้าน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือกัน โดยส่วนหนึ่งรู้สึกอึดอัดใจกับแผนให้ ส.ส.ระดมคนตามเป้าที่จะบิลไปเบิกนายใหญ่ นั่นคือ 1 ล้านคน
นายสำเริงกล่าวประเด็นนี้ว่า ลองคิดกันดูเล่นๆ ว่าหากจะระดมคน 1 ล้านคน ต้องใช้เงินรายหัวเท่าไหร่ ทั้งค่ากิน ค่าเดินทาง ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าคนพวกนี้จะอยู่ยาวจนกว่าจะชนะหรือไม่ ดังนั้น การระดมคนครั้งนี้เป็นไปได้ยาก
นายสำเริงกล่าวอีกว่า สำหรับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าเวลานี้คงรู้สึกไม่มั่นใจสถานภาพของตนเองเช่นกัน เพราะช่วงหลังๆ นี้ระดมคนแล้วไม่ใช่ได้เงินเลย เนื่องจากท่อน้ำเลี้ยงชักตันและขัดข้องบ่อยครั้ง
