ครม.เห็นชอบ สนับสนุนงบฯสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 250 ล้านบาท จัดทำระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพสูง ตามที่ ป.ป.ช.เสนอ หวังป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐใช้ตราประทับ ตม. เรียกประโยชน์ตอบแทน “วัชระ” เผย “กษิต” แฉมาเฟียแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ใช้จุดอ่อนหากิน นายกฯ รับอยากให้บัตรประชาชนกับพาสปอร์ตใช้รูปเดียวกัน
วันนี้ (16 ก.พ.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบ ตามที่นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.เสนอให้สนับสนุนงบประมาณ กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการจัดทำระบบสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูง ให้ครอบคลุมทุกแห่ง และเป็นระบบเดียวกันที่สามารถเชื่อมโยงได้ ในวงงบประมาณ 250 ล้านบาท โดยจะประกอบด้วยระบบย่อยต่างๆ 25 ระบบ ใน 1 ระบบใหญ่ ติดตั้งเครื่องมือ 75 จุด ทั่วประเทศ ครอบคลุมในด่านตรวจคนเข้าเมือง 58 ด่านในความรับผิดชอบของ ตม.
ทั้งนี้ ป.ป.ช.เสนอให้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อต้องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและผลจากการทุจริตของ เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองอาจจะก่อให้เกิดภัยที่ร้ายแรงได้ กรณีนี้เจ้าหน้าที่ ตม.ใช้ดวงตราประทับของ ตม.ประทับในหนังสือเดินทางเพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการเข้าออกราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ผู้ถือหนังสือเดินทางมิได้เข้าออก และมีการเรียกรับผลประโยชน์ตอบแทน
“มีการออกใบอนุญาตชั่วคราว แต่เมื่อครบกำหนดที่ได้อนุญาตให้พำนักอยู่และมิได้เดินทางออกจากราชอาณาจักร และยังมาขอใบอนุญาตชั่วคราวอีก โดยมีการการจ้างวานโดยมิได้มีการผ่านทางเข้าออกจริง ซึ่งถือว่าเป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ”
นายวัชระกล่าวว่า ระหว่างการพิจารณาเรื่องดังกล่าวมีรัฐมนตรีหลายกระทรวงให้ความเห็น อาทิ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แสดงความเห็นว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้พยายามผลักดันให้มีระบบดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาจะพบปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มมาเฟียตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อย่างเช่นที่ พัทยา และภูเก็ต มีการเอานำเอาจุดอ่อนในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เรื่องการตรวจตราการประทับหนังสือเดินทางเข้าออกประเทศไทย มาสร้างปัญหา
นายวัชระยังได้กล่าวว่าในเรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูล ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องบัตรประชาชนหรือบัตรที่มีรูปภาพ 2 หน่วยงานควรที่จะใช้รูปภาพเดียวกัน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้ชี้แจงว่า ในทางเทคนิคมีการเชื่อมและแลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องรูปภาพระหว่างรูปในบัตรประชาชนและรูปในหนังสือเดินทาง
วันนี้ (16 ก.พ.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบ ตามที่นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.เสนอให้สนับสนุนงบประมาณ กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการจัดทำระบบสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูง ให้ครอบคลุมทุกแห่ง และเป็นระบบเดียวกันที่สามารถเชื่อมโยงได้ ในวงงบประมาณ 250 ล้านบาท โดยจะประกอบด้วยระบบย่อยต่างๆ 25 ระบบ ใน 1 ระบบใหญ่ ติดตั้งเครื่องมือ 75 จุด ทั่วประเทศ ครอบคลุมในด่านตรวจคนเข้าเมือง 58 ด่านในความรับผิดชอบของ ตม.
ทั้งนี้ ป.ป.ช.เสนอให้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อต้องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและผลจากการทุจริตของ เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองอาจจะก่อให้เกิดภัยที่ร้ายแรงได้ กรณีนี้เจ้าหน้าที่ ตม.ใช้ดวงตราประทับของ ตม.ประทับในหนังสือเดินทางเพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการเข้าออกราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ผู้ถือหนังสือเดินทางมิได้เข้าออก และมีการเรียกรับผลประโยชน์ตอบแทน
“มีการออกใบอนุญาตชั่วคราว แต่เมื่อครบกำหนดที่ได้อนุญาตให้พำนักอยู่และมิได้เดินทางออกจากราชอาณาจักร และยังมาขอใบอนุญาตชั่วคราวอีก โดยมีการการจ้างวานโดยมิได้มีการผ่านทางเข้าออกจริง ซึ่งถือว่าเป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ”
นายวัชระกล่าวว่า ระหว่างการพิจารณาเรื่องดังกล่าวมีรัฐมนตรีหลายกระทรวงให้ความเห็น อาทิ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แสดงความเห็นว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้พยายามผลักดันให้มีระบบดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาจะพบปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มมาเฟียตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อย่างเช่นที่ พัทยา และภูเก็ต มีการเอานำเอาจุดอ่อนในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เรื่องการตรวจตราการประทับหนังสือเดินทางเข้าออกประเทศไทย มาสร้างปัญหา
นายวัชระยังได้กล่าวว่าในเรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูล ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องบัตรประชาชนหรือบัตรที่มีรูปภาพ 2 หน่วยงานควรที่จะใช้รูปภาพเดียวกัน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้ชี้แจงว่า ในทางเทคนิคมีการเชื่อมและแลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องรูปภาพระหว่างรูปในบัตรประชาชนและรูปในหนังสือเดินทาง