ประธาน ป.ป.ช.เซ็นตั้ง “กล้านรงค์” นั่งหัวโต๊ะไต่สวนผู้พิพากษาศาล จ.อยุธยา และตร.ชุดออกหมายจับอดีตอธิบดีดีเอสไอ ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาท “นช.แม้ว” ฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
วันนี้ (10 ก.พ.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงนามคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ 405/2552 ลงวันที่ 30 พ.ย.52 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผกก.สส.สภ.วังน้อย พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ นายอิทธิพล โสขุมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ทั้งหมดยศและตำแหน่งขณะนั้น) ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม กรณีที่นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวหาว่าร่วมกันขอออกหมายจับและอนุญาตให้ออกหมายจับนายสุนัย ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ต้องหา
โดยคำสั่งดังกล่าวแต่งตั้งให้นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ส่วนอนุกรรมการ ประกอบด้วย นายทองสุด กลิ่นประภัศร พล.ต.ท.ณพัฒน์ ศรีหิรัญ พล.ต.ต.สุทัศน์ กอสนาน นายศักดิ์ชัย เมทินีพิศาลกุล และนายธีรชัย สุขเกษม โดยให้คณะอนุกรรมการ แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน เรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้ศาล พนักงานสอบสวน หรือหน่วยราชการของรัฐ ดำเนินการใดเพื่อประโยชน์แห่งการไต่วนขอเท็จจริง
ทั้งนี้ เมื่อคณะอนุกรรมการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว ให้สรุปสำนวนพร้อมทำความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งหากในการดำเนินการไต่สวนของคณะอนุกรรมการ พบว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดฐานอื่น นอกเหนือจากคำกล่าวหาร้องเรียนที่ระบุไว้ในคำสั่ง หรือกรณีที่ปรากฏต่อมาภายหลังว่าการไต่สวนพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีเหตุสงสัยว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดหรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดในเรื่องที่ไต่สวน ให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจดำเนินการไต่สวนต่อไปได้